จิ้งหรีด เป็นแมลงที่พบทั่วไปตามธรรมชาติ โดยเฉพาะจิ้งหรีดแดงทองลาย (สะดิ้ง) มีขนาดประมาณ 4.85 ซม. x 1 ซม. มีสีน้ำตาลปนเหลือง ชอบกระโดด กินพืชเป็นอาหาร ปัจจุบันคนนิยมเลี้ยงเพื่อบริโภคเป็นอาหาร โดยการทอดคั่ว แกง ห่อหมก และยำ จิ้งหรีดมีสารอาหารโปรตีนสูง ปลอดสารพิษ สามารถช่วยแก้ไขปัญหาขาดสารอาหารได้ เลี้ยงง่าย ขยายพันธุ์เร็ว ให้ผลผลิตสูง เหมาะที่เกษตรกรจะนำมาเลี้ยงเป็นอาชีพเสริม ไว้บริโภคและจำหน่ายเพิ่มรายได้ เนื่องจากเลี้ยงไม่มาก สามารถใช้เวลาว่างจากการเพาะปลูกมาดูแลจิ้งหรีดได้ภายในเวลา 1 ปี จะสามารถเลี้ยงจิ้งหรีดได้ถึง 5 รุ่น
ปัจจัยที่จำเป็นต้องใช้
1.ขันไข่ บ่อละ 5 ขัน
2.ท่อปูนพร้อมฝาปิดท่อ ขนาดกว้าง 80 ซม. สูง 50 ซม. จำนวน 1 ท่อ หรือกะละมังพลาสติก ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง กว้าง 72 ซม. สูง 30 ซม. หรือจะเป็นภาชนะที่ใส่ได้ทุกขนาด
3.ตาข่ายไนล่อนเขียว 100 x 100 ซม. จำนวน 1 ผืน
4.แผ่นพลาสติก ขนาด 25 x 270 ซม. จำนวน 1 ผืน
5.ยางรัดปากบ่อหนา 1 ซม. จำนวน 1 เส้น
6.ถาดอาหาร-น้ำ กว้าง x ยาว = 5 x 10 ซม. ลึก 1.5 ซม. 2 ถาด
7.กระบอกไม้ไผ่ ยาว 20 ซม. ผ่าครึ่งจำนวน 10 อัน หรือกระดาษรังไข่ 3 อัน
8.ถาดหรือถุงพลาสติกใส่ดินร่วนปนทราย หนา 2 ซม.
9.เศษหญ้าแห้งวางหนา 2 ซม.
10.เทปกาว
ขั้นตอนการดำเนินงาน
1.สร้างเรือนโรง หรือหลังคาป้องกันแดดและฝนโดยให้แดดส่องเช้าเย็น
2.ปรับพื้นที่กำจัดมดและศัตรูจิ้งหรีด
3.วางบ่อบนฝา ใช้ปูนผสมทรายฉาบปริ่มขอบภายในและภายนอก ป้องกันมดเข้าทำลายลูกจิ้งหรีด
4.ติดแผ่นพลาสติกด้านบนขอบบ่อหรือกะละมังด้วยเทปกาว
5.พันธุ์จิ้งหรีด หาพันธุ์ได้จากธรรมชาติ หรือซื้อดกายการคัดเลือกพ่อ-แม่พันธุ์ที่มีตัวโตแข็งแรง อวัยวะครบทุกส่วน ปัจจุบันได้พัฒนาการเลี้ยงในลักษณะขันไข่ ดดยสามารถจัดซื้อจากฟาร์มเลี้ยงจิ้งหรีด เพื่อนำไปเลี้ยง ทำให้สามารถเก็บผลผลิตเป็นรุ่นๆ ได้
การให้อาหารและน้ำ
พืชอาหาร ได้แก่ ต้นอ่อนและยอดอ่อนของพืชหรือหญ้าสดทุกชนิด หญ้าขน หญ้าลูซี่ ผักตบชวา ใช้เลี้ยงจิ้งหรีดเจริญเติบโตเร็วและให้ผลผลิตสูง โดย 2 วัน ให้หญ้า 1 ครั้งๆ ละ 1 กำมือโดยหญ้าเก่าไม่ต้องนำออก จะเป็นที่อาศัยของจิ้งหรีดต่อไป
อาหารเสริม รำอ่อน หรืออาหารสำเร็จรูปที่ใช้เลี้ยงไก่จิ้งหรีด 1 บ่อ ใช้อาหาร 3กก./รุ่น ราคาประมาณ 15 บาท/กก. อาหารเสริมควรให้ในปริมาณที่กินหมดภายใน 2 วัน
การให้น้ำ ขวดน้ำพลาสติกเจาะรูข้างขวด 2 รู ใช้ผ้าทำความสะอาดม้วนใส่รูเพื่อให้น้ำซึมสำหรับจิ้งหรีดวัยตัวอ่อน
ภาชนะสำหรับวางไข่จิ้งหรีด ใช้ดินร่วนปนทรายและแกลบเผาใส่ขันสำหรับอาบน้ำ ใช้ฟ๊อกกี้ฉีดน้ำทุก 3 วัน พอขึ้นไม่แฉะก่อนฉีดน้ำนำถาดอาหารออกก่อน ถ้าเปียกจะเกิดเชื้อรา ใช้เฉพาะในช่วงที่มีตัวเต็มวัยที่จะวางไข่
วงจรชีวิตจิ้งหรีด
- ระยะไข่ รูปร่างยาวเรียว คล้ายเมล็ดข้าวสาร สีน้ำตาลอ่อน ความกว้างของไข่ 5.1 มม. ความยาว 2.38 มม.
- ระยะตัวอ่อน ลำตัวสำน้ำตาลปนเหลือง ฟักออกจากไข่ช่วงแรกยังไม่มีปีก จะเริ่มมีตุ่มปีกในเมื่อถึงกลางวัยอ่อน พอลอกคราบ 8 ครั้ง จึงเข้าสู่วัยแก่ (รวมอายุวัยอ่อนระหว่าง 42 – 55 วัน)
- ระยะตัวเต็มวัย มีปีก 2 คู่ เพศผู้ ปีกคู่หน้าย่น มีหนาม ไว้ทำเสียง เพศเมีย มีปีกเรียบ และมีเข็มวางไข่อยู่ส่วนท้ายของลำตัว อายุวัยแก่ประมาณ 38 – 49 วัน
- การผสมพันธุ์ ตัวเต็มวัยอายุ 3 – 4 วัน จะเริ่มผสมพันธุ์ตัวผู้จะขยับปีกคู่หน้าถูกันให้เกิดเสียงหลายจังหวะ หลายสำเนียงในการสื่อสารความหมายต่างๆ สำหรับการผสมพันธุ์จะเกิดตลอดช่วงอายุตัวเต็มวัย โดยตัวเมียจะขึ้นคร่อมบนหลังตัวผู้
- การวางไข่ ตัวเมียเริ่มวางไข่เมื่อผสมพันธุ์ผ่านไป 3 – 4 วัน แบ่งการวางไข่เป็น 5 รุ่น วางไข่ได้เฉลี่ย 1,200 – 1,700 ฟอง/จีง โดยวางไข่ไว้ใต้ดิน และฟักออกเป็นตัวเมื่อไข่อายุครบ 7 วัน
ผลผลิต
เลี้ยง 1 บ่อ จะให้ลูกจิ้งหรีดในวัยที่สามารถเก็บผลผลิตได้ประมาณ 5 กก./บ่อ/รุ่น
หมายเหตุ: จิ้งหรีดสามารถนำมาแปรรูปทำเป็นน้ำพริกนรก น้ำพริกตาแดง จิ้งหรดสามรส ผสมน้ำยาป่ากินกับขนมจีน ทำข้าวเกรียบ โดยเฉพาะจิ้งหรีดทอดเป็นที่นิยมบริโภคกันมาก
ทุนการผลิตและผลตอบแทน
ต้นทุนการเลี้ยงจิ้งหรีด สามารถเลี้ยงได้ปีละ 5 รุ่น/บ่อ โดยมีค่าใช้จ่ายต่อบ่อ ดังนี้
รุ่นที่ 1 (เริ่มเลี้ยง)
1.วัสดุในการเลี้ยง เทปกาว ลวดยางรัดบ่อ ตาข่ายมัด ถาดไข่ และหญ้าเลี้ยง = 300 บาท
2.ค่าพันธ์ไข่จิ้งหรีด 5 รุ่นๆ ละ 50 บาท = 250 บาท
3.ค่าอาหารจิ้งหรีด (อาหารไก่) 3 กก. = 50 บาท
รวม 600 บาท
รุ่นที่ 2–5 (4 รุ่น)
1.ค่าอาหารจิ้งหรีด (อาหารไก่) 3 กก. 50 x 4 รุ่น = 200 บาท
รวมค่าใช้จ่ายในการเลี้ยง = 850 บาท/บ่อ/ปี
ผลตอบแทน
- จิ้งหรีดที่เลี้ยงมีผลผลิตได้ 5 กก./บ่อ/รุ่น ราคากิโลกรัมละประมาณ 100 บาท (ราคาส่ง)มีรายได้ 2,500 บาท (กำไรเฉลี่ย 1,700 บาท/บ่อ/ปี)
แหล่งข้อมูลและสอบถาม
กลุ่มส่งเสริมการเลี้ยงผึ้งและแมลงเศรษฐกิจ
โทร/โทรสาร 0-2940-6102
E-mail : agriman64@go.th
ที่มา Thaiarcheep.com
จิ้งหรีด..เลี้ยงเล่นๆ เดือนละเกือบหมื่น
ขอบคุณบทความจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ http://www.thairath.co.th/content/edu/328101
“สงสัยกันมาก ทำไมคนถึงหันมาเลี้ยงจิ้งหรีดกันมาก ก็จิ้งหรีดมีสารอาหารโปรตีนสูง ที่สำคัญปลอดสารพิษคนเลยนิยมกิน แถมเลี้ยงง่ายไม่ต้องลงทุนมาก”
ลุงชร พวงมารา บ้านเขาดิน ต.คลองหาด อ.คลองหาด จ.สระแก้ว เล่าว่า จากแต่ก่อนมีอาชีพทำเฟอร์นิเจอร์ แต่พอวัยชรามาเยี่ยมเยือน ผู้ใหญ่บ้านเห็นว่าแก่มากแล้วเลยแนะให้ทำงานเบาๆ...เลี้ยงจิ้งหรีด และปลูกผักปลอดสารพิษในกระถางส่งขายที่ศูนย์บ้านเขาดิน เศรษฐกิจพอเพียง “โครงการอบรมฟื้นฟูและพัฒนาอาชีพ” ที่ทางธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ให้การสนับสนุน
ปรากฏว่า เลี้ยงจิ้งหรีดดีกว่า ปลูกผัก
การเลี้ยงสิ่งสำคัญสุด โรงเรือน และ บ่อเลี้ยง อากาศต้องถ่ายเทและเย็น...การเลี้ยงจะเริ่มตั้งแต่เอาไข่จิ้งหรีดในขันดินที่มีถุงพลาสติกมัดครอบให้อุณหภูมิเหมาะกับการฟักไข่ มาวางในบ่อ 15 วัน ตัวอ่อนจะเริ่มออกจากไข่ ถึงจะเปิดถุงพลาสติกให้จิ้งหรีดน้อยออกมาเดินเล่น
จากนั้นเตรียมอาหาร ใช้รำข้าว 50 กก. ผสมกับอาหารไก่วัยอ่อน 1 กระสอบ ราคา 400 บาท เพียงแค่นี้เลี้ยงได้ 2 เดือน...ตักใส่ถาดวางกับพื้น พร้อมถาดน้ำที่ต้องใส่ก้อนหิน ให้จิ้งหรีดปีนป่าย กันตกลงไปจมน้ำตาย
วันไหนอากาศร้อน จะต้องฉีดน้ำเพิ่มความเย็นจะช่วยให้จิ้งหรีดโตไว และเก็บผัก ใบมะละกอ ฟักทอง ใบรางจืด ใบเตย ใบข่า ใบกะเพราให้กินบ้าง เพราะจิ้งหรีดชอบกัดกินใบพืชสดๆ เป็นธรรมชาติ
เลี้ยงไปได้ 22-25 วัน จะเริ่มได้ยินเสียงร้อง แสดงว่าพร้อมที่จะวางไข่ จะเอาดินเลี้ยงจิ้งหรีด ราคากระสอบละ 55 บาท มาตักใส่ขันให้เต็ม จะได้ประมาณ 45 ขัน วางบนพื้นบ่อ ทิ้งไว้ 2 คืน...เอาถุงพลาสติกมาสวมคลุมขันและมัดไว้ ส่วนหนึ่งแบ่งขายให้คนอื่นเอาไปเลี้ยง ในราคาขันละ 50 บาท...อีกส่วนแบ่งไว้เลี้ยงต่อ
ส่วนตัวพ่อแม่ที่อยู่ในบ่อ จับขายได้ กก.ละ 100 บาท และเพื่อให้มีรายได้ทุกวัน ลุงชรแนะนำให้แบ่งพื้นที่โรงเรือน เป็น 7 บ่อ เพื่อจะได้มีจิ้งหรีดจับขายได้ทุกวัน...ทำได้อย่างนี้ เลี้ยงเล่นๆ แก้เหงาเดือนหนึ่งมีรายได้เฉียดหมื่นเลยทีเดียว...สนใจจะทำบ้าง สอบถามกันที่ 08-6139-5234.
เพ็ญพิชญา เตียว
ขอบคุณบทความจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ http://www.thairath.co.th/content/edu/328101