นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีงานวันครู ครั้งที่ ๕๗ เมื่อวันที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๕๖ โดยมีกิจกรรมต่างๆ สรุปดังนี้
►เปิดงานวันครู ภายใต้แก่นสาระ “เฉลิมพระเกียรติ พระแม่แห่งแผ่นดิน ผู้ทรงเป็นครู”
นายดิเรก พรสีมา ประธานกรรมการคุรุสภา กล่าวรายงานถึงการจัดงานในปีนี้ว่า จัดขึ้นภายใต้แก่นสาระ “เฉลิมพระเกียรติ พระแม่แห่งแผ่นดิน ผู้ทรงเป็นครู” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา ในวันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๕ และเพื่อส่งเสริมเชิดชูเกียรติครูและวิชาชีพครู ส่งเสริมสามัคคีธรรม ความร่วมมือและความเข้าใจอันดี ระหว่างผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษากับประชาชน และธำรงไว้ซึ่งขนบธรรมเนียม ประเพณี และวัฒนธรรมอันดีงามของชาติ รวมทั้งเพื่อจัดกิจกรรมทางวิชาการในการเพิ่มพูนองค์ความรู้และทักษะในการประกอบวิชาชีพครู โดยมีการจัดกิจกรรมพร้อมกันทั่วประเทศ ส่วนกลางจัดที่หอประชุมคุรุสภา และส่วนภูมิภาคจัดที่คุรุสภาเขตพื้นที่การศึกษาหรือสถานที่ที่คณะกรรมการจัดงานเห็นสมควร
จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้ประกอบพิธีน้อมเกล้าฯ ถวายสักการะ เฉลิมพระเกียรติพระแม่แห่งแผ่นดิน ผู้ทรงเป็นครู หน้าพระบรมสาทิสลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ โดยกล่าวว่า
"สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระราชกรณียกิจด้านการศึกษานานัปการที่พระราชทานแก่พสกนิกรชาวไทย ทรงส่งเสริมการศึกษาในระบบโรงเรียน เช่น พระราชทุนการศึกษาแก่นักเรียน สร้างโรงเรียน พระราชทานพระราชทรัพย์อุดหนุนโรงเรียนและหน่วยงานด้านการศึกษา และพระราชทานพระราชทรัพย์เป็นทุนการศึกษาเพื่อซื้ออุปกรณ์การเรียน และเป็นทุนสร้างโรงเรียน โดยเฉพาะได้พระราชทานความช่วยเหลือเพื่อส่งเสริมการประกอบอาชีพในศูนย์ศิลปาชีพ ทรงรับโรงเรียนไว้ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และทรงส่งเสริมให้ราษฎร์ศึกษาด้วนตนเอง
พระราชกรณียกิจอันมากมายเหลือคณานับจนไม่อาจกล่าวได้หมดสิ้นเป็นที่ประจักษ์ ชื่นชมทั้งแก่ปวงชนชาวไทยและในนานาประเทศว่าเป็นพระแม่แห่งแผ่นดิน และทรงเป็นครู ในโอกาสที่วันครูได้เวียนมาครบรอบปีอีกครั้งหนึ่ง ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายขอพระราชทานพระราชานุญาติ น้อมเกล้า น้อมกระหม่อม ถวายพระพรชัยมงคลด้วยความจงรักภักดี ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย และอำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิในสากล โปรดดลบันดาลประธานพรให้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ทรงเจริญด้วยจตุรพิธพระพรชัย มีพระราชประสงค์จำนงหมายสิ่งใดขอจงสัมฤทธิ์ ทรงสถิตเป็นมิ่งขวัญร่มเกล้าปวงข้าพระพุทธเจ้าตลอดกาลนิรันดร์เทอญ”
ภายหลังประกอบพิธีน้อมเกล้าฯ ถวายสักการะเสร็จสิ้น นายกรัฐมนตรีได้วางพวงมาลัยสักการะปฐมบูรพาจารย์ พร้อมทั้งคารวะครูอาวุโสในปีนี้จำนวน ๓ ท่าน คือ ครูอรศรี มนตรี ครูผู้สอนระดับอนุบาลศึกษา ครูกาญจนา นันทขว้าง ครูประถมศึกษา และครูสุภาพ วัฒนวิกย์กรรม์ ครูมัธยมศึกษา โดยตัวแทนครูอาวุโสได้นำผู้ร่วมชุมนุมกล่าวคำปฏิญาณตน ตามลำดับ
นายกรัฐมนตรี กล่าวในพิธีเปิดว่า รู้สึกเป็นเกียรติและเป็นความภูมิใจสูงสุดที่ได้มาร่วมงานวันครูเป็นปีที่ ๒ แล้ว ถือเป็นความปลื้มปิติที่ได้พบกับคุณครูที่ยิ่งใหญ่ทุกคนที่ได้ประสิทธิประสาทวิชาให้กับเยาวชนไทยของเรา โดยการจัดงานวันครูปีนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระแม่แห่งแผ่นดินที่เป็นครูแห่งแผ่นดิน และการที่เรากำหนดให้วันที่ ๑๖ มกราคมของทุกปีเป็นวันครู เพื่อจะให้สังคมไทยได้ตระหนักถึงคุณค่า ตระหนักถึงความกตัญญูกตเวทิตาต่อคุณครู เพราะครูคือผู้ที่เป็นกำลังสำคัญที่ทำให้วงการการศึกษาและเยาวชนของเราได้พบทางสว่างแห่งปัญญา โดยครูยังเปรียบเสมือพ่อแม่คนที่สอง เพราะส่วนใหญ่แล้วลูกศิษย์จะใช้เวลากับคุณครูมากกว่าเวลาที่อยู่ที่บ้าน ดังนั้นจึงถือว่าครูเป็นผู้เสียสละในการถ่ายทอดวิชาความรู้และภูมิปัญญาที่สั่งสมมา เพื่อบ่มเพาะนิสัยให้ลูกศิษย์เป็นคนดีของสังคม เป็นคนดีของพ่อแม่ และเป็นคนดีของประเทศชาติ เพื่อที่จะนำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ประเทศต่อไป เชื่อว่าหากไม่มีครู ไม่มีการศึกษา โลกของเราคงไม่สามารถพัฒนาและเจริญเติมโตจนถึงวันนี้
ซึ่งเชื่อว่าในสมัยเด็กๆ ทุกคนคงจะมีครูในดวงใจ และตนก็มีครูในดวงใจเช่นกัน ถือว่าครูเป็นผู้มีอิทธิพลทางความคิด ต่อจิตสำนึกตั้งแต่เด็ก ดังนั้นนอกจากเด็กจะได้เรียนรู้พฤติกรรมต่างๆ จากครอบครัวแล้ว ยังได้เรียนรู้จากครู โดยความรัก ความอบอุ่นที่ครูมีให้ เป็นจุดเริ่มต้นของเด็กทุกคน ตนเองนึกถึงสมัยก่อนที่ได้เรียน ได้รับการประสิทธิประสาทวิชา ตอนที่เรียนก็อาจจะยังไม่รู้สึก แต่วันนี้รู้สึกถึงคำสั่งสอนที่คุณครู ที่ผู้ใหญ่และผู้ที่มีความปรารถนาดี ได้สั่งสอนมา และได้นำมาใช้ในชีวิตจนถึงทุกวันนี้
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้โลกมีความเปลี่ยนแปลงไปมาก มีพัฒนาการตั้งแต่เรื่องการเรียนรู้ การปฏิรูปการศึกษา ซึ่งได้ทำอย่างต่อเนื่องจนทำให้การศึกษาของประเทศไทย มีการพัฒนาเติบโตต่อเนื่อง แต่จากสภาวะเรื่องเศรษฐกิจ เทคโนโลยี และเรื่องการสื่อสารมีการเปลี่ยนรูปแบบไปมาก วงการศึกษาจึงมีความจำเป็นที่ต้องร่วมกันพัฒนาองค์ความรู้ให้เกิดความเปลี่ยนแปลง เพื่อให้องค์ความรู้ดังกล่าวสอดรับกับโลกหรือเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปด้วย ทั้งนี้ตนถือว่าการศึกษาเป็นเรื่องที่สำคัญที่เราต้องร่วมกันพัฒนาและสร้างภูมิคุ้มกันในการเรียนการสอน
ตนเห็นความสำคัญของการพัฒนา การปรับปรุงตั้งแต่เรื่องของเนื้อหาหลักสูตรวิชา จนถึงวิธีการเรียนการสอน ขณะเดียวกันเทคโนโลยี ก็ยังเป็นสิ่งสำคัญที่เราจะสามารถใช้เป็นเครื่องมือ สร้างองค์ความรู้ต่างๆ มากขึ้น เทคโนโลยีจะทำให้การเรียนการสอนน่าสนใจ แต่สิ่งที่เป็นเนื้อหาสำคัญและเป็นองค์ความรู้ที่สั่งสมมายาวนานก็ควรจะนำมาถ่ายทอดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทั้งหมดนี้เชื่อว่าครูจะเป็นผู้ที่มีส่วนสำคัญในการนำเนื้อหาต่างๆ มาปรับปรุงให้มีความทันสมัยและสื่อสารไปยังเยาวชนไทย
นายกรัฐมนตรีได้กล่าวฝากแนวทางการพัฒนาด้านการศึกษาที่ต้องการเห็นในอนาคต ดังนี้
- ต้องการเห็นการพัฒนาความรู้อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นสายสามัญ สายอาชีวศึกษา โดยความรู้นี้เป็นความรู้ที่ถ่ายทอดแล้วตรงกับงาน เพื่อให้ลูกศิษย์จบออกมามีงานทำ เป็นผู้ที่ประกอบอาชีพสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศและสังคมต่อไป
- ต้องการเห็นครูปรับตัวให้ทันกับเทคโนโลยี และให้ความสำคัญกับการประคับประครองบ่มเพาะเด็กและเยาวชน เพราะเด็กสามารถค้นคว้าหาความรู้ที่นอกเหนือจากห้องเรียนได้โดยใช้เทคโนโลยี พร้อมๆ กับการทำความเข้าใจ และการรู้จักรักษาวินัย คุณธรรม จริยธรรม เมตตาธรรม รวมถึงสนับสนุนให้เด็กมีความคิดต่าง แต่ต้องมีความสอดคล้องและเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ เป็นสิ่งที่รัฐบาลให้การสนับสนุนและยืนยันว่าเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ เป็นสิ่งจำเป็น โดยรัฐบาลพร้อมที่จะอำนวยการร่วมกับ ศธ.จัดเตรียมสถานศึกษาต่างๆ เพื่อให้เกิดการเรียนการสอนเพื่อให้เกิดองค์ความรู้ที่กว้างขึ้น และร่วมกันพัฒนากลไกการศึกษาและหลักสูตรให้สอดคล้อง
- สวัสดิการครู การดูแลครูเป็นเรื่องสำคัญเพื่อเป็นกำลังใจให้กับครูทุกท่าน ยืนยันว่าจะดูแลสวัสดิการของครู เพราะครูเป็นผู้ที่รับบทบาทหนัก เป็นผู้เสียสละ และความรักความเมตตาที่ครูมีให้ ความรู้ที่ครูสั่งสมให้กับเด็กนั้นมีค่ามากกว่าอะไรทั้งสิ้น ยืนยันว่ารัฐบาลพร้อมจะให้การสนับสนุนดูแลสวัสดิการของครู และจะดูแลเรื่องการดำรงชีวิต และให้ครูสามารถอยู่ได้อย่างมีเกียรติและมีสวัสดิการที่เหมาะสม ถือโอกาสในวันครูขอบคุณครูทุกท่านที่เสียสละ โดยเฉพาะครูใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ได้เสียชีวิตไปในขณะปฏิบัติหน้าที่ ในฐานะของคนไทยทุกคนก็ขอให้กำลังใจ และขอบคุณในความเสียสละของครูและครอบครัวที่ทำหน้าที่ดูแลลูกศิษย์อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด ก็ต้องบอกว่าเราซาบซึ้งใจ เพราะหากเราไม่มีครู แน่นอนว่าจะไม่มีลูกศิษย์ ไม่มีเยาวชนที่เติบโตมาจนถึงวันนี้
- การผลิตบุคลากร ในอนาคตเราจะก้าวไปสู่สังคมผู้สูงอายุ การผลิตบุคลากรจึงเป็นเรื่องสำคัญและเป็นนโยบายใหญ่ของรัฐบาลที่เราจะร่วมกันบูรณาการพัฒนาเยาวชนของเราให้เติบโตเป็นเยาวชนที่มีคุณภาพ ที่มีความสามารถจะแข่งขันกับผู้อื่นได้ ขอยืนยันอีกครั้งหนึ่งว่า รัฐบาลพร้อมที่จะสนับสนุนพัฒนาการศึกษาให้ทัดเทียมกับนานาประเทศได้อย่างภาคภูมิใจ
ในการนี้ นายกรัฐมนตรีได้รับข้อเสนอจากสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา เพื่อการพัฒนาวิชาชีพครู คุณภาพการศึกษา และคุณภาพคนไทย เนื่องในโอกาสวันครู ๑๖ มกราคม ๒๕๕๖
คุรุสภาในฐานะสภาวิชาชีพครูและบุคลากรทางการศึกษา ขอเสนอข้อเสนอต่อรัฐบาล เพื่อการพัฒนาคุณภาพวิชาชีพครู คุณภาพการศึกษา และคุณภาพคนไทย ด้วยการดำเนินการเร่งด่วนใน ๘ ประเด็น ดังนี้
๑. กำหนดนโยบายให้สถาบันผลิตครู ผลิตครูทั้งด้านปริมาณและคุณภาพให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้ครู ด้วยการกำหนดโควตานักศึกษาครูและงบประมาณสนับสนุนการผลิตครูให้แก่สถาบันผลิตครูแต่ละแห่งตามจำนวนโควตาที่ได้รับ นั่นคือทำให้ Supply of Teachers เท่ากับ Demand for Teachers
๒. พัฒนาศักยภาพสถาบันผลิตครูของไทยให้มีศักยภาพใกล้เคียงหรือทัดเทียมศักยภาพของสถาบันผลิตครูของประเทศชั้นนำในภูมิภาคอาเซียน ด้วยการสนับสนุนงบประมาณเพื่อการศึกษาต่อต่างประเทศแก่บุคคลผู้ประสงค์จะเป็นคณาจารย์และการจ้างคณาจารย์ชาวต่างประเทศมาทำการสอนและวิจัยประจำสถาบันผลิตครูของไทย
๓. กำหนดนโยบายให้สถานศึกษาทุกแห่งและทุกประเภทมีครูครบทุกห้องและชั้นเรียน ด้วยการกำหนดจำนวนนักเรียนหรือนักศึกษาต่อห้อง สำหรับแต่ละประเภทของการจัดการศึกษา ให้เหมาะสมกับการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนและการพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพ
๔. ให้ผู้ประกอบวิชาชีพครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกสังกัดและทุกประเภทได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเพื่อนผู้ประกอบวิชาชีพครูทั้งในประเทศและในกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนอย่างต่อเนื่อง ด้วยการส่งเสริมและสนับสนุนด้านงบประมาณให้เข้าร่วมประชุมสัมมนา สังเกตการสอนหรือการปฏิบัติงานของครูที่สอนเก่ง และ/หรือจัดทำแผนการสอนร่วมกัน
๕. จัดให้มีมาตรฐานขั้นต่ำของสื่อการเรียนรู้ ครุภัณฑ์ และสิ่งอำนวยความสะดวกทางการเรียนการสอนในทุกสาขาวิชาและทุกระดับการศึกษาอย่างเท่าเทียมและทั่วถึง ด้วยการตรากฎหมายกำหนดมาตรฐานขั้นต่ำของสื่อครุภัณฑ์ และสิ่งอำนวยความสะดวกทางการเรียนรู้ที่รัฐต้องจัดให้แก่สถานศึกษา เพื่อให้สถานศึกษาจัดการเรียนการสอนแต่ละวิชา แต่ละสาขา และแต่ละระดับชั้นหรือประเภทของการจัดการศึกษาได้อย่างมีคุณภาพ
๖. ผลักดันให้ผู้ประกอบวิชาชีพครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกสังกัดทั้งภาครัฐและเอกชน มีวิทยฐานะได้รับเงินค่าวิทยฐานะและเงินค่าวิชาชีพ ด้วยการปรับปรุงกฎเกณฑ์ว่าด้วยการให้มีหรือให้เลื่อนวิทยฐานะ โดยพิจารณาจากผลงานที่ตรงตามภารกิจหลักของผู้ประกอบวิชาชีพครูและบุคลากรทางการศึกษาและการจัดสรรงบประมาณสนับสนุนการผลักดันดังกล่าว
๗. ปรับปรุงบัญชีเงินเดือนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาให้สูงขึ้น และให้มีจำนวนขั้นเงินเดือนน้อยลง ด้วยการแก้ไขกฎหมายว่าด้วยบัญชีเงินเดือนข้าราชการครู ให้เป็นบัญชีเงินเดือนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาโดยเฉพาะ เช่นเดียวกับบัญชีเงินเดือนข้าราชการตุลาการ หรือแพทย์
๘. ให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกสังกัดมีสิทธิสมัคร หรือลาออกจากการเป็นสมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการโดยสมัครใจ ด้วยการแก้ไขเพิ่มเติม พระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ.๒๕๓๙ หมวด ๓ มาตรา ๓๖
►พิธีมอบประกาศนียบัตรและรางวัล แก่ครูและบุคลากรทางการศึกษา
ภายหลังพิธีการเสร็จสิ้น รมว.ศธ.ได้เป็นประธานพิธีมอบประกาศนียบัตรและรางวัลแก่ครูและบุคลากรทางการศึกษา ดังนี้ ผู้มีคุณูปการต่อการศึกษาของชาติ, ผู้ทำคุณประโยชน์ต่อวิชาชีพทางการศึกษารับเครื่องหมายเชิดชูเกียรติของคุรุสภา, รางวัลคุรุสภา, ครูภาษาไทยดีเด่นรับเชิดชูเกียรติจารึกพระนามาภิไธยย่อ สธ, ครูภาษาฝรั่งเศสประจำปี ๒๕๕๕, รางวัลคุรุธรรม เข็มทอง, ผู้แทนสถานศึกษารับรางวัลหนึ่งโรงเรียนหนึ่งนวัตกรรม, เหรียญทอง รางวัลตามรอยเกียรติยศครูผู้มีอุดมการณ์และจิตวิญญาณครู, ผู้ชนะการประกวดคำขวัญวันครู พ.ศ.๒๕๕๖, ผู้ชนะการประกวดบทร้อยกรองเทิดเกียรติคุณครู, ผู้ชนะการประกวดข้อเขียนความประทับใจที่ศิษย์มีต่อครู และผู้ชนะการประกวดวาดภาพเนื่องในโอกาสวันครู
ส่วนในช่วงบ่าย รมว.ศธ.ได้เป็นประธานพิธีมอบรางวัลผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา รางวัล “คุรุคุณธรรม” เข็มเงินและเข็มทองแดง, รางวัลหนึ่งโรงเรียนหนึ่งนวัตกรรม, รางวัลผลงานวิจัยระดับประเทศ, รางวัลประกวดภาพถ่ายยกย่องเชิดชูเกียรติครู, ครูดีในดวงใจ และบุคลากร สพฐ.ดีเด่น
ที่มา http://www.moe.go.th/websm/2013/jan/028.html