นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุมกระทรวงศึกษาธิการ ครั้งที่ ๑/๒๕๕๖ เมื่อวันที่ ๒ มกราคม ๒๕๕๖ ณ ห้องประชุมราชวัลลภ โดยมีนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และผู้บริหารฝ่ายการเมือง เข้าร่วมประชุม สรุปสาระสำคัญดังนี้
@ การดำเนินงานตามนโยบาย ศธ.
รมว.ศธ.ให้นโยบายการดำเนินงานของ ศธ.ว่า ทุกเรื่องควรจะจัดทำตารางเวลาการทำงาน เพื่อจะได้ติดตามความคืบหน้าและควรระบุเจ้าภาพหลักในการดำเนินงานด้วย โดยเฉพาะการดำเนินงานตามนโยบายต่างๆ ดังนี้
- การปฏิรูปหลักสูตร ขอให้ช่วยกันเร่งดำเนินการ โดยเชื่อว่าในช่วงต้นเดือนมกราคมนี้จะมีความคืบหน้าการดำเนินงานไปมากแล้ว
- การยกระดับการอาชีวศึกษาเป็นปริญญาตรี สอศ.ควรจะต้องเตรียมงานพื้นฐานให้แก่สถาบันการอาชีวศึกษาที่จะต้องดำเนินการ ไม่ว่าจะเป็นกฎระเบียบต่างๆ หลักสูตรควรจะมีเป็นแบบสำเร็จรูปเพื่อให้คณะกรรมการของสถาบันได้มีรูปแบบสำเร็จรูปไปใช้ก่อน เพราะโดยปกติในส่วนของคณะกรรมการสถาบัน หรือสภาสถาบัน หากไม่มีคนทำพื้นฐานไปให้ก่อนคงไม่ได้ เมื่อใช้ไปช่วงหนึ่งจะมีการปรับปรุงแก้ไขอย่างไรก็เป็นเรื่องของสถาบัน
- โรงเรียนขนาดเล็ก ที่จะต้องมีการควบรวม เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษา ขอข้อมูลโรงเรียนขนาดเล็กเป็นรายพื้นที่ที่ชัดเจนว่ามีที่ใดบ้างที่เป็นโรงเรียนขนาดเล็กมาก มีปัญหาเรื่องคุณภาพ บุคลากรไม่มีประสิทธิภาพ เพื่อเป็นข้อมูลแก่ ศธ.ในการดูแลและบริหารจัดการควบรวมการเรียนการสอนโรงเรียนในละแวกเดียวกัน
รมช.ศธ. กล่าวว่า นอกจาก ศธ.จะมีโรงเรียนขนาดเล็กแล้ว ยังมีโรงเรียนขยายโอกาสที่สอนตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาถึงมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ด้วย ซึ่งเราสามารถจะส่งต่อเด็กในโรงเรียนขนาดเล็กไปอยู่ในโรงเรียนขยายโอกาสที่ใกล้ที่สุด ก็จะทำให้เด็กได้เรียนในระดับประถมศึกษาที่ดี เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด
- งบประมาณเหลือจ่าย ให้ช่วยกันดูแลการใช้จ่ายงบประมาณเหลือจ่ายเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ส่วนรวมมากที่สุด และตรงตามความต้องการของหน่วยงานในสังกัด/โรงเรียน
- การเข้าสู่ประชาคมอาเซียน นอกจาก ศธ.จะต้องกระตุ้นให้นักเรียนและนักศึกษาตื่นตัวกับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนแล้ว จะต้องกำหนดด้วยว่านักเรียนนักศึกษา ควรจะรู้อะไรบ้าง เช่น ผลกระทบ อะไรคือวิกฤต อะไรคือโอกาส เพราะส่วนหนึ่งจะรู้แต่เฉพาะนักเรียน แต่ผู้ปกครองก็ควรจะได้รู้ด้วย เช่น การเลือกเรียนในสาขาใด ประกอบอาชีพอะไร เพื่อเป็นโอกาสที่จะไปทำงานในหลายประเทศเพิ่มขึ้น พยายามนำส่วนที่เป็นหัวใจสำคัญให้นักเรียนนักศึกษาและผู้ปกครองได้รู้ ซึ่งจะช่วยให้สามารถเตรียมตัวได้ทัน
- การถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ ที่โรงพยาบาลศิริราช ได้มอบหมายให้ปลัด ศธ.กำหนดวันเวลา พร้อมทั้งเชิญผู้บริหาร ศธ.เดินทางไปถวายพระพรในนามกระทรวงศึกษาธิการ
ทั้งนี้ ผศ.ประแสง มงคลศิริ เลขานุการ รมว.ศธ.ได้เสนอแนะให้มีการเพิ่มวาระการประชุมในเรื่องยาเสพติดในสถานศึกษาทุกครั้งที่มีการประชุม เนื่องจากการแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นนโยบายของ ศธ.ในลำดับต้นๆ ที่จะต้องดำเนินการ
@ ความคืบหน้า/ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (สป.)
● ผลการทบทวนจัดทำแผนปฏิบัติการสำหรับยุทธศาสตร์ประเทศ (Country Strategy) ปีงบประมาณ ๒๕๕๖-๒๕๖๑ ของ ศธ. ซึ่ง รมว.ศธ.ได้ให้ความเห็นชอบการทบทวนแผนดังกล่าว และได้นำส่งให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เพื่อพิจารณานำเสนอนายกรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว โดยมีสาระสำคัญสรุปดังนี้
๑.๑ ข้อมูลแผนงาน/โครงการแผนปฏิบัติการสำหรับยุทธศาสตร์ประเทศ ในส่วนที่ ศธ.เป็นเจ้าภาพบูรณาการ คือ ยุทธศาสตร์การลดความเหลื่อมล้ำ (Inclusive Growth) ประกอบด้วย ๒ ประเด็นยุทธศาสตร์ ได้แก่ การพัฒนาคุณภาพการศึกษา (การปฏิรูปการศึกษา) มีแนวทางการดำเนินงาน ๗ แนวทาง ๖ แผนงาน ๒๔ ชุดโครงการ วงเงินงบประมาณ ๑,๗๒๗,๐๐๓.๕๐๗ ล้านบาท โดยมีเป้าหมายการดำเนินงาน คือ ปีการศึกษาเฉลี่ย ๑๕ ปี อัตราการอ่านออกเขียนได้ร้อยละ ๑๐๐ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาหลักระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานเพิ่มขึ้นร้อยละ ๔ ต่อปี สถานศึกษาผ่านการรับรองคุณภาพมาตรฐานจาก สมศ.ร้อยละ ๑๐๐ และสัดส่วนผู้เรียนมัธยมศึกษาตอนปลายประเภทอาชีวศึกษาต่อสามัญศึกษา เป็น ๕๐:๕๐ และการสร้างโอกาสและรายได้แก่วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมและเศรษฐกิจชุมชน (กองทุนตั้งตัวได้) มีแนวทางการดำเนินงาน ๑ แนวทาง ๓ ชุดโครงการ วงเงินงบประมาณ ๔๕,๖๘๐.๓๓๐ ล้านบาท โดยมีเป้าหมายการดำเนินงาน คือ นักศึกษา/บัณฑิตที่จบไม่เกิน ๕ ปี กู้ยืมเงินในการประกอบธุรกิจ จำนวน ๕,๐๐๐ ราย และสร้างผู้ประกอบการ ๑๐๐ ราย
๑.๒ แผนปฏิบัติการสำหรับยุทธศาสตร์ประเทศ ในส่วนที่ ศธ.เป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้ประสาน รวบรวม พร้อมทั้งวิเคราะห์ สังเคราะห์ และประมวลข้อมูลแผนงาน/โครงการของหน่วยงานในสังกัด ศธ.จัดทำเป็นแผนปฏิบัติการ ประกอบด้วยแผนงาน/โครงการที่เกี่ยวข้อง ๒๐ ประเด็นยุทธศาสตร์ ๖๕๘ โครงการ วงเงินงบประมาณ ๒๒๖,๙๗๙,๑๗๘ ล้านบาท
● ผลการทบทวนแผนปฏิบัติการการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ปีงบประมาณ ๒๕๕๖-๒๕๖๑ ของ ศธ.
ซึ่งผ่านความเห็นชอบของ รมว.ศธ. และได้นำส่งให้ สศช.เพื่อพิจารณานำเสนอนายกรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว โดยมียุทธศาสตร์ที่ ศธ.ได้รับมอบหมายให้เป็นเจ้าภาพบูรณาการ ดังนี้
- ยุทธศาสตร์ที่ ๔ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในส่วนของภาคการศึกษา มีแนวทางการดำเนินงาน ๖ แนวทาง ๗ แผนงาน และ ๑๗ ชุดโครงการ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ประเทศไทย “มีมาตรฐานการศึกษาอาเซียน รวมทั้งทักษะฝีมือและภาษา”
- ยุทธศาสตร์ที่ ๘ การเพิ่มศักยภาพของเมืองเพื่อเชื่อมโยงโอกาสจากอาเซียน (เมืองการศึกษานานาชาติ) ทั้งในด้านอุตสาหกรรม การท่องเที่ยว การบริการ การลงทุน และการค้าชายแดน รวมทั้งเน้นการสร้างศักยภาพของเมืองรองรับการเปิดเสรีทางการศึกษาภายใต้ประชาคมอาเซียน โดยมีแนวทางการดำเนินงาน ๓ แนวทาง ๖ แผนงาน และ ๑๒ ชุดโครงการ
● การจัดงานวันครู พ.ศ.๒๕๕๖
การจัดงานวันครูในปีนี้ จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “เฉลิมพระเกียรติพระแม่แห่งแผ่นดิน ผู้ทรงเป็นครู” และคำขวัญ “แปดสิบพรรษา พระราชินี ราษฎร์รัฐภักดี ครูศรีแผ่นดิน” ระหว่างวันที่ ๑๒-๑๖ มกราคม ๒๕๕๖ ประกอบด้วยกิจกรรมต่างๆ คือ
- การประกวดภาพวาดวันครูและพิธีมอบรางวัลหนึ่งแสนครูดีแก่ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ที่หอประชุมคุรุสภา
- การถวายพานพุ่มพระผู้ทรงเป็นครูแห่งแผ่นดินและพระแม่แห่งแผ่นดินผู้ทรงเป็นครู ที่โรงพยาบาลศิริราช
- การมอบดอกกล้วยไม้แก่คณะรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล
- การจัดประชุมวิชาการ “สถานภาพความก้าวหน้าและสิทธิประโยชน์ของครูกับการเป็นวิชาชีพชั้นสูง” ที่หอประชุมคุรุสภา
- พิธีการจัดงานวันครูโดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ที่หอประชุมคุรุสภา
● โครงการวิ่ง-ปั่นจักรยานทางไกล เพื่อสันติภาพแด่ครูชายแดนใต้
เพื่อรณรงค์ระดมเงินสมทบทุนก่อตั้งกองทุนช่วยเหลือครูชายแดนใต้ ซึ่งจะเป็นกองทุนของประชาชนให้ความช่วยเหลือครอบครัวและทายาทของครูผู้ประสบเคราะห์กรรมในการปฏิบัติหน้าที่และครูผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ระหว่างวันที่ ๖-๑๗ มกราคม ๒๕๕๖ เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงราย
● งานวันเด็กแห่งชาติ ปี ๒๕๕๖
ศธ.กำหนดกิจกรรมงานวันเด็กแห่งชาติ ๒ ช่วง ได้แก่
- วันที่ ๙ มกราคม ๒๕๕๖ การนำเด็กและเยาวชนดีเด่นที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติเข้าเยี่ยมคารวะและรับโล่จากนายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล
- วันที่ ๑๒ มกราคม ๒๕๕๖ งานวันเด็กแห่งชาติของ ศธ.จัดขึ้นที่สนามเสือป่า โดยนายกรัฐมนตรีจะเดินทางมาเป็นประธานพิธีเปิดในช่วงเวลา ๙.๐๐-๙.๓๐ น. จากนั้นนายกรัฐมนตรีจะทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกับเด็ก เช่น การแต่งหน้าคัพเค้ก การแจกหนังสือนิทาน เป็นต้น
● การปรับข้อมูลของ ศธ.ให้ตรงกับเอกสาร “การระดมสมองเรื่องการศึกษา” ของ สศช.
ศธ.ได้ดำเนินการปรับข้อมูลตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีในการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อระดมความคิดเห็นและรับฟังข้อเสนอแนะเกี่ยวกับประเด็นการศึกษา เมื่อวันที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๕๕๕ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวมีส่วนที่เกี่ยวข้องกับ ศธ. ๒ ส่วน คือ
- ข้อมูลตารางของหน่วยงานสังกัด ศธ.ได้ตรวจทานแล้วตรงกับแหล่งที่มาของข้อมูล
- ข้อมูลที่ต้องศึกษาทบทวนข้อมูลจากหน่วยงานทั้งในและนอกสังกัด ศธ.และขอรับการสนับสนุนต่อไป
● โครงการ ๑ อำเภอ ๑ ทุน รุ่นที่ ๔
สต.สป.ได้รายงานการดำเนินงานโครงการ ๑ อำเภอ ๑ ทุน รุ่นที่ ๔ ว่า จะนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า โดยในรุ่นนี้ได้มีการปรับหลักเกณฑ์การรับทุนเป็น ๒ แบบ คือ - แบบเดิมอำเภอละ ๑ ทุน ไปเรียนในประเทศที่ไม่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก - รับสมัครนักเรียนทุกสังกัด ทั้งโรงเรียนสาธิต อาชีวศึกษา กศน.ไปเรียนในสาขาที่ขาดแคลนเน้นสายวิทยาศาสตร์เท่านั้น โดยสามารถไปเรียนในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษได้และจะไม่จำกัดรายได้ของครอบครัว ทำให้จำนวนทุนนี้เพิ่มเป็น ๑,๘๕๖ ทุน
นอกจากนี้ได้ปรับการรับสมัครให้ไปสมัครที่โรงเรียน จากนั้นโรงเรียนจะส่งเอกสารไปยังสำนักงานเขตพื้นการศึกษามัธยมศึกษาเพื่อดำเนินการจัดสอบในวิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคม อังกฤษ และ Aptitude Test เพื่อดูความถนัดและความพร้อมของนักเรียน
ทั้งนี้ สต.สป.ได้ขอความร่วมมือจาก สพฐ.ในการประสานงานกับสถานศึกษาในการรับสมัครสอบ และขอให้ผู้ตรวจราชการในแต่ละเขตพื้นที่ไปตรวจเยี่ยมการสมัครสอบด้วย
● ปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงานของศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพเกษตรกรรม วัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร อันเนื่องมาจากพระราชดำริ
สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ได้รายงานให้ที่ประชุมทราบถึงปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงานของศูนย์ฝึกและพัฒนาฯ ดังกล่าว ว่า เป็นสถานศึกษาเปิดตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งมีบทบาท หน้าที่ และกิจกรรมที่หลากหลาย รวมทั้งมีการขยายผลไปยังศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดนทั่วประเทศและ กศน.อำเภอนำร่อง ซึ่งไม่สอดคล้องกับบุคลากรที่อยู่ จึงได้ดำเนินการเพิ่มอัตรากำลังบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถในสาขาคหกรรมศาสตร์/โภชนา นิเทศศาสตร์/ประชาสัมพันธ์ และสาขาอักษรศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ รวมทั้งดำเนินการจัดหายานพาหนะสำหรับเดินทางไปจัดอบรมและเผยแพร่ความรู้ร่วมกับศูนย์ฝึกฯ บริเวณชายแดนทั่วประเทศ
@ ความคืบหน้า/ผลการดำเนินงานของสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.)
● (ร่าง) ยุทธศาสตร์การศึกษา พ.ศ.๒๕๕๕-๒๕๕๘
สกศ.ได้ยกร่างและจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นแล้ว ๒ ครั้ง และครั้งต่อไปจะจัดขึ้นในวันที่ ๑๔ มกราคม ๒๕๕๖ โดยมี รมว.ศธ.เป็นประธานพิธีเปิดการประชุมและบรรยายพิเศษเรื่องการจัดทำยุทธศาสตร์การศึกษา รวมทั้งจัดให้มีการเสวนา “กรอบทิศทางและแนวทางในการดำเนินงานยุทธศาสตร์การศึกษา พ.ศ.๒๕๕๕-๒๕๕๘” โดย ศ.ดร.ภาวิช ทองโรจน์ ที่ปรึกษา รมว.ศธ. ดร.พิเชษฐ ดุรงคเวโรจน์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.) รศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ สุอังคะวาทิน คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ ดร.อมรวิชช์ นาครทรรพ ที่ปรึกษาด้านวิชาการ สสค.
@ ความคืบหน้า/ผลการดำเนินงานของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.)
● ความก้าวหน้าการฝึกอบรมการสื่อสารภาษาอังกฤษให้กับพ่อครัวและแม่ครัวไทยที่จะไปประกอบอาชีพในประเทศออสเตรเลีย
สอศ.ได้ประสานงานกับกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน โดยจะมีการประชุมหารือระหว่าง สอศ. กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และสมาคมวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดคุณสมบัติแรงงานที่จะเข้าร่วมโครงการ ในวันที่ ๑๑ มกราคม ๒๕๕๖ ซึ่งคาดว่าจะมีผู้สนใจไปฝึกอบรมภาษาอังกฤษกว่า ๖๐๐ คน โดย สอศ.ได้ออกแบบแนวทางการฝึกอบรมไว้ ๓ ระยะ ได้แก่ การฝึกอบรมภาษาอังกฤษ ๓๐ ชั่วโมง การฝึกภาษาด้วยตนเองที่บ้าน และจัดติวเข้มก่อนเดินทางไปประกอบอาชีพจริง สำหรับสถานที่ฝึกอบรมจะใช้ห้อง Lab ของสถานศึกษาสังกัด สอศ.ที่มีความพร้อมในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-สิงหาคม ๒๕๕๖
● Fix-It Center
นายสุวัฒน์ ตันติพัฒน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ ได้กล่าวถึงการเดินทางไปตรวจเยี่ยมศูนย์ร่วมด้วยช่วยประชาชนของ สอศ.ในช่วงเทศกาลปีใหม่ พบว่า ประชาชนที่มารับบริการรู้สึกประทับใจและมีความพึงพอใจต่อความรู้ความสามารถของนักเรียน/นักศึกษาอาชีวะ ซึ่งการช่วยเหลือประชาชนของ สอศ.ครั้งนี้ เป็นประโยชน์ต่อสังคมและประชาชนที่สัญจรไปมาเป็นอย่างยิ่ง จึงควรได้รับการยกย่องและเผยแพร่การดำเนินงานดังกล่าวสู่สาธารณชน
@ ความคืบหน้า/ผลการดำเนินงานของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.)
● ความก้าวหน้าโครงการจัดตั้งวิทยาลัยเทคโนโลยีจิตรลดา
คณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) ได้มีมติให้ความเห็นชอบโครงการจัดตั้งวิทยาลัยเทคโนโลยีจิตรลดาในขั้นตอนที่ ๑ การศึกษาความเป็นไปได้ โดยได้แจ้งผลการพิจารณาไปยังผู้รับใบอนุญาต (ท่านผู้หญิงอังกาบ บุณยัษฐิติ) แล้ว และขอให้จัดทำรายละเอียดโครงการที่แสดงศักยภาพและความพร้อมในการดำเนินการทั้งด้านกายภาพ วิชาการ และการเงิน รวมทั้งการก่อสร้างและปรับปรุงอาคาร ตามขั้นตอนที่ ๒ และ ๓ นำเสนอมายังคณะกรรมการการอุดมศึกษาให้ความเห็นชอบ และจะได้เสนอให้ รมว.ศธ.พิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป
● การให้ความช่วยเหลือฟื้นฟูเยียวยา รร.เอกชน และสถาบันอุดมศึกษาเอกชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย (สกอ.- สช.)
สืบเนื่องจากมีโรงเรียนเอกชนจำนวน ๒๖๒ แห่ง และมหาวิทยาลัยเอกชน ๙ แห่ง ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยในปี ๒๕๕๔ รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ ๑,๑๔๑ ล้านบาท ศธ.โดยคณะกรรมการเพื่อให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยาโรงเรียนเอกชนและสถาบันอุดมศึกษาเอกชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย ได้ขอรับความช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยาฯ ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการเพื่อให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยา ผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยด้านเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม และความเป็นอยู่ของประชาชน (กศอ.) แต่ยังมีโรงเรียนเอกชนและมหาวิทยาลัยเอกชนที่ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือ ประกอบกับคณะกรรมการ กศอ.ได้ยุติบทบาทแล้ว
ที่ประชุมจึงมีมติเห็นชอบให้ ศธ.เสนอแนวทางการให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยาโรงเรียนเอกชนและสถาบันอุดมศึกษาเอกชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยไปยังคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง พร้อมทั้งมอบหมายให้ผู้แทนจาก สกอ. และ สช.หารือแนวทางการจัดสรรงบประมาณที่จะได้รับไว้ล่วงหน้าในกรณีที่ได้งบประมาณเพียงบางส่วน
● การยกร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์
นายสุวัฒน์ ตันติพัฒน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ ได้กล่าวให้ที่ประชุมได้รับทราบถึงความคืบหน้าของการยกร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวว่า ขณะนี้อยู่ในระหว่างการดำเนินการของคณะกรรมาธิการยกร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์
ที่มา http://www.moe.go.th/websm/2013/jan/002.html