Advertisement
วิธีลบรอยดำ อำพรางผิว (Momypedia)
โดย แม่เจ้าปุ้น
รอยดำที่เกิดขึ้นหลังเป็นสิวนั้น เกิดจากกลไกหลัก ๆ 2 กลไกด้วยกันค่ะ หนึ่งคือ การอักเสบอันแสนเจ็บปวดที่เกิดขึ้นจากสิว ได้ส่งสัญญาณไปยังเซลล์สร้างเม็ดสี ให้ขยันสร้างเม็ดสีและส่งเม็ดสีออกไปยังเซลล์ผิวหนังมากขึ้น และสองคือ การอักเสบได้ทำลายเซลล์ผิวหนังที่มีเม็ดสีสะสมอยู่แล้วให้แตกออก เกิดการร่วงหล่นกระเด็นของเม็ดสีไปอยู่ที่ชั้นหนังแท้ ส่งผลให้เม็ดเลือดขาวมาเก็บกินเม็ดสีและตกค้างกันอยู่ในชั้นหนังแท้ ซึ่งกลไกที่สองนี้จะเกิดในกรณีที่มีการอักเสบมาก และส่งผลให้รอยดำติดทนนานรักษายากกว่า แต่ก็ไม่มีอะไรจะยากเกินกว่าที่เทคโนโลยีจะแก้ไขได้ ดังนั้นคุณแม่ไม่ต้องกังวลใจไปค่ะ เรามาดูวิธีรักษารอยดำกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง
ยาทา
เราเรียกยาในกลุ่มนี้ว่า Whitening agents ซึ่งมีสารให้เลือกใช้หลายตัวมาก ทั้งหน้าเก่าอย่าง วิตามินเอ ซี บี3 อาร์บูติน กรดโคจิก ลิโคริซ และหน้าใหม่ ๆ อย่าง กรดเอลลาจิก(Ellagic acid) และกรดทรานนิกซามิก(Tranexamic acid) ซึ่งประสิทธิภาพของยาแต่ละตัวนั้นขึ้นกับสูตรการปรุงและความเข้มข้น การจะเลือกใช้ตัวไหนต้องขึ้นกับสภาพผิวของคุณแม่แต่ละท่าน แต่ในคุณแม่ที่ให้นมบุตรควรใช้เป็นกลุ่มเก่าที่มีการศึกษามายาวนานกว่า เช่น วิตามินซี วิตามินบี3 และยาทากลุ่มที่ไม่ควรใช้ คือ ไฮโดรควิโนน(Hydroquinone) โดยเฉพาะในความเข้มข้นสูง ๆ เพราะอาจทำให้เกิดภาวะฝ้า หน้าดำถาวรได้!
ครีมกันแดด
การทาครีมกันแดดที่มีค่าปกป้อง SPF30 PA+++ ขึ้นไปเป็นประจำทุกวัน ช่วยป้องกันไม่ให้รังสียูวีมากระตุ้นการสร้างเม็ดสีเพิ่มเติมได้ จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีซึ่งสำคัญมากที่จะช่วยให้รอยดำจางเร็วขึ้นค่ะ
ผลัดเซลล์ผิวด้วยกรด
เป็นการใช้กรดเร่งการขจัดเซลล์ผิวเก่าที่ด่างดำหมองคล้ำออก โดยตัวที่นิยมใช้รักษารอยดำกันในปัจจุบัน คือ กรดไกลโคลิก(Glycolic acid) ซึ่งในรูปแบบความเข้มข้นต่ำ ๆ จะมีผสมอยู่ในครีมกลุ่มไวท์เทนนิ่งบางแบรนด์ ส่วนความเข้มข้มสูง ๆ ควรทาโดยอยู่ในความดูแลของแพทย์ การผลัดเซลล์ผิวด้วยกรดผลไม้มีข้อดี คือ นอกจากจะช่วยลดรอยด่างดำแล้ว ยังช่วยให้หน้าใสและรูขุมขนกระชับขึ้นได้ แต่ก็มีข้อเสีย คือ ในคนที่ผิวบอบบาง อาจมีอาการแสบหรือระคายเคืองได้ง่าย โดยเฉพาะผิวบริเวณรอบดวงตา
เลเซอร์/แสงความเข้มสูง
การใช้เลเซอร์หรือแสงความเข้มสูงอย่าง IPL(Intense Pulsed Light) เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการรักษารอยดำที่ให้ผลเร็ว แต่ก็มีความเสี่ยงสำคัญสองเรื่อง หนึ่งคือเสี่ยงต่อผิวไหม้หากใช้พลังงานสูง แต่โดยทั่วไปแล้วจะเป็นการไหม้ชั้นตื้น ๆ ไม่ได้ก่อให้เกิดแผลเป็นถาวร และเครื่องรุ่นใหม่ ๆ จะมีเทคโนโลยีที่ช่วยลดความเสี่ยงในเรื่องนี้ลงได้ แต่ความเสี่ยงที่สองคือ เสี่ยงต่อสุขภาพกระเป๋าสตางค์นั้น ต้องแล้วแต่คุณแม่ประเมินความเสี่ยงกันเองนะ
-ขอบคุณข้อมูลจาก MomyPedia
HY300 โปรเจคเตอร์ 1080P 4K มินิโปรเจคเตอร์ Project Android 12.0 5G WIFI บลูทูธ รองรับการมิเรอร์หน้าจอ เชื่อมต่อกับมือถือ
฿940 - ฿2,699https://s.shopee.co.th/3LCRC5o6j5?share_channel_code=6
Advertisement
 เปิดอ่าน 11,824 ครั้ง  เปิดอ่าน 1,475 ครั้ง  เปิดอ่าน 9,595 ครั้ง  เปิดอ่าน 16,004 ครั้ง  เปิดอ่าน 15,798 ครั้ง  เปิดอ่าน 12,779 ครั้ง  เปิดอ่าน 3,561 ครั้ง  เปิดอ่าน 8,940 ครั้ง  เปิดอ่าน 12,746 ครั้ง  เปิดอ่าน 16,067 ครั้ง  เปิดอ่าน 4,424 ครั้ง  เปิดอ่าน 11,827 ครั้ง  เปิดอ่าน 13,933 ครั้ง  เปิดอ่าน 223,810 ครั้ง  เปิดอ่าน 32,326 ครั้ง  เปิดอ่าน 14,550 ครั้ง
|

เปิดอ่าน 447,324 ☕ คลิกอ่านเลย |

เปิดอ่าน 140,252 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 9,708 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 9,857 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 13,394 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 12,476 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 10,194 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ 
เปิดอ่าน 86,951 ครั้ง | 
เปิดอ่าน 27,528 ครั้ง | 
เปิดอ่าน 12,260 ครั้ง | 
เปิดอ่าน 16,336 ครั้ง | 
เปิดอ่าน 16,216 ครั้ง |
|
|