เดี๋ยวนี้สบู่เหลวได้รับความนิยมยิ่งขึ้น ด้วยเหตุผลของความสะดวกสบายเป็นสำคัญ แต่คุณรู้ไหมว่า สบู่เหลวที่เราใช้กันอยู่นั้นไม่ใช่สบู่ แต่เป็นสารเคมีล้วนๆ!
สบู่เหลวที่ดีจริงๆจะต้องมีส่วนผสมของเนื้อสบู่อย่างน้อย 25 เปอร์เซ็นต์ แล้วที่เหลือเป็นน้ำ แต่ความเป็นจริงแล้วไม่มีสบู่เหลวแบบนี้วางขายอยู่เลย เพราะผลิตภัณฑ์เกือบทุกชนิดที่วางขายอยู่ นั้นเป็นแค่ใช้สารซักฟอกหรือดีเทอเจนผสมกับสารเคมีสังเคราะห์อื่นๆแล้วทำให้อยู่ ในรูปของเหลว ซึ่งสารซักฟอกหรือดีเทอเจน ก็คือสารเคมีหลักที่ใช้ในการผลิตแชมพู น้ำยาล้างจาน น้ำยาทำความสะอาดพื้น
หรือแม้แต่น้ำยาทำความสะอาดห้องน้ำนั่นเอง จะผิดกันก็แต่ว่าความเข้มข้นของสารซักฟอกที่ใช้ทำสบู่เหลวมีความเจือจางกว่าเท่านั้น
ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้สบู่เหลวคงไม่เกิดขึ้นในฉับพลันทันที แต่จะสะสมเป็นปัญหาในระยะยาวได้ เพราะสารเคมีเหล่านี้จะแทรกซึมลงไปในผิวหนัง อวัยวะภายใน และกระแสเลือด ได้ทุกครั้งที่เราอาบน้ำ
SLS หรือ โซเดียมลอริลซัลเฟต เป็นตัวอย่างหนึ่งของสารเคมีหลักที่มักใช้ในสบู่ (คุณลองไปพลิกพวกผลิตภัณฑ์ซักล้างทุกอย่างดูจะเห็นส่วนผสมนี้จริงๆ บางทีใช้ชื่อว่าลอริล) และเป็นสารเคมีอันตราย หลายประเทศในยุโรปและอเมริกามีกฏหมายห้ามใช้แล้ว และบางประเทศก็จำกัดให้มีการใช้น้อยลง แต่ในบ้านเรากลับใช้กันอย่างแพร่หลาย ทั้งๆที่SLS เป็นสารเคมีที่ดูดซึมผ่านผิวหนังได้
ง่ายและรวดเร็ว สามารถสะสมอยู่ในดวงตา สมอง หัวใจ ตับ และก่อปัญหาในระยะยาว
หากยิ่งมีการใช้ร่วมกับสารประกอบตระกูลอามีน ก็จะกลายเป็นสารก่อมะเร็งในที่สุด เพราะฉะนั้น เราอาจต้องถามตัวเองดูใหม่ ว่ามีความจำเป็นแค่ไหนที่จะต้องใช้สบู่เหลว (ซึ่งจริงๆแล้วคือสารเคมีล้วนๆ) แต่ถ้ายังคงต้องการที่จะใช้ การใช้สบู่เหลวสำหรับเด็กก็จะดีกว่า (ไม่ได้หมายความว่าปลอดภัย เพียงแต่มีสารเคมีเจือจางกว่าเท่านั้น) แต่ถ้าจะให้ดี การกลับไปใช้สบู่ก้อนจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด