ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมเรื่องราวจากสมาชิก  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

เพื่อสุขภาพ คุณค่าทางโภชนาการของปลา


เรื่องราวจากสมาชิก เปิดอ่าน : 6,398 ครั้ง
เพื่อสุขภาพ  คุณค่าทางโภชนาการของปลา

Advertisement

❝ เรื่องของน้องปลา.... วันนี้พี่เขาขอเก็บสาระดีๆเกี่ยวกับ "ปลา" มาฝากค่ะ เราคงเคยได้ยินได้ฟังมามากแล้วนะคะว่า "ปลา" เป็นอาหารที่มีประโยชน์และควรอย่างมากที่เราจะทานกัน หลายคนบอกว่าทานปลาแล้วจะทำให้ฉลาด บางคนบอกว่าทานปลาแล้วจะช่วยให้อายุยืน แต่ลึกๆแล้วเชื่อว่าหลายคนก็คงยังไม่ทราบนะคะ ว่าเหตุใดเขาจึงพูดกันอย่างนั้น ❞
เรื่องของน้องปลา....
วันนี้พี่เขาขอเก็บสาระดีๆเกี่ยวกับ "ปลา" มาฝากค่ะ เราคงเคยได้ยินได้ฟังมามากแล้วนะคะว่า "ปลา" เป็นอาหารที่มีประโยชน์และควรอย่างมากที่เราจะทานกัน หลายคนบอกว่าทานปลาแล้วจะทำให้ฉลาด บางคนบอกว่าทานปลาแล้วจะช่วยให้อายุยืน แต่ลึกๆแล้วเชื่อว่าหลายคนก็คงยังไม่ทราบนะคะ ว่าเหตุใดเขาจึงพูดกันอย่างนั้น

วันนี้เราไปเจาะให้ลึกลงไปเลยดีกว่าว่า "ปลา" มีประโยชน์ต่อร่างกายของเราอย่างไรบ้าง และทำไมเราจึงจำเป็นต้องทานปลา

คุณค่าทางโภชนาการของปลา


1.เป็นแหล่งโปรตีนที่ย่อยง่ายและคุณภาพดี ซึ่งร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ได้ทันที โปรตีนมีหน้าที่สำคัญคือ เสริมสร้างการเจริญเติบโต ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ควบคุมการทำงานของร่างกาย เป็นองค์ประกอบของของ ฮอร์โมน , เอนไซม์ , สารต้านทานโรค , สารพันธุกรรม และสารสื่อประสาท

นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งสำรองพลังงานของร่างกาย การที่ร่างกายได้รับโปรตีนที่มีคุณภาพดีอย่างเพียงพอ จะช่วยให้ระบบต่างๆในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ


2.ไขมันจากปลาเป็นไขมันชนิดอิ่มตัวไม่ทำให้เกิดการอุดตันในเส้นเลือด กรดไขมันที่พบในปลาเป็นกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย(essentian fatty acid หรือ EFA ) ซึ่งมี w3 (โอเมก้า3)และw6 (โอเมก้า6) อยู่ในปริมาณที่สูงเป็นประโยขน์ต่อร่างกายโดยขบวนการทางชีวเคมี นอกจากนั้นยังถูกนำไปเผาผลาญให้เกิดพลังงานเพื่อดำรงชีวิต


3.เป็นแหล่งเเร่ธาตุไอโอดีน โดยเฉพาะปลาทะเลและอาหารทะเลทุกชนิดจะมีธาตุไอโอดีนสูง ช่วยป้องกันโรคคอพอก ดังนั้นถ้าเรากินปลาทะเลและอาหารทะเลอยู่เป็นประจำจะมีโอกาสเป็นโรคนี้น้อยมาก ในคนที่ขาดธาตุนี้จะทำให้การเจริญเติบโตช้า สติปัญญาไม่เฉลียวฉลาดหรือที่เรียกกันว่า "โรคเอ๋อ"


4.นํ้ามันตับปลา เป็นแหล่งให้วิตามิน เอ,ดี ที่สำคัญ

วิตามิน เอ มีหน้าที่ควบคุมเยื่อบุผิวต่างๆให้เป็นปกติ ประโยชน์ของวิตามินเอคือ

- ช่วยการมองเห็นในที่มืด ป้องกันไม่ให้เกิดโรคตาฟางในเวลากลางคืน ป้องกันเยื่อตาขาวแห้ง

- ทำให้การเจริญและพัฒนาของเซลล์บุผิว เป็นปกติ [Growth and differentiation of epithelial cells] รวมทั้งเป็นสารที่จำเป็นต่อการสร้างเมือก [Mucous] ของเซลล์บุผิว

- มีบทบาทในการเจริญเติบโตของกระดูก ฟัน อัณฑะ รังไข่ และทารกในครรภ์

อาการของการขาดวิตามิน เอ ถ้าขาดวิตามิน เอ จะทำให้เกิดมีอาการต่างๆดังนี้คือ

- เกี่ยวกับตา แรกเริ่มที่ขาดวิตามิน เอ จะทำให้เยื่อตาแห้งเหี่ยวย่น ตามัว ขาดน้ำตาหล่อเลี้ยงลูกตา เพราะว่าเกิดการอุดตันของท่อน้ำตา เกิดการกลัวแสงสว่าง แก้วตาอาจจะเป็นแผล และถ้ามีการติดเชื้อร่วมด้วยจะทำให้ตาบอดได้ อาการดังกล่าวจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในเด็กมากกว่าผู้ใหญ่

- เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ทำให้เยื่อบุทางเดินหายใจลอกหลุดได้ง่าย และง่ายต่อการติดเชื้อ

- เกี่ยวกับผิวหนัง จะทำให้ผิวหนังมีลักษณะแห้ง หยาบกร้านเป็นเกล็ด มีเม็ดผื่นขึ้นเป็นตุ่มบริเวณช่องเปิดของรูขุมขน

- เกี่ยวกับระบบทางเดินปัสสาวะ จะทำให้เกิดการติดเชื้อของทางเดินปัสสาวะและอาจเกิดนิ่วได้

วิตามิน ดี มีหน้าช่วยในการดูดซึมและขนส่งแคลเซียมและฟอสฟอรัสบริเวณลำไส้ ทำให้การสร้างกระดูกเป็นไปอย่างปกติ

ปลากับสุขภาพของดวงตา


การกินปลาดีกับสุขภาพหลายอย่าง โดยเฉพาะสุขภาพของหัวใจ เส้นเลือด และสมอง วันนี้มีข่าวดีสำหรับคนที่กินปลาบ่อยๆ เพราะว่าจะมีส่วนช่วยป้องกันโรคตาบอดในคนสูงอายุได้ค่ะ

คนสูงอายุมีความเสี่ยงต่อโรคจอตาเสื่อมมากขึ้น โรคนี้อาจทำให้สูญเสียการมองเห็นบางส่วน จนถึงตาบอดได้และโรคจอตาเสื่อมในคนสูงอายุ มีความสัมพันธ์กับการกินอาหารที่มีไขมันสูงเกินไป

อาจารย์ ดร.จี จิน หวัง แห่งมหาวิทยาลัยซิดนีย์ ออสเตรเลีย ทำการศึกษาในคนสูงอายุ 3,600 คน และติดตามผลไปนานถึง 5 ปี ได้ผลการทดลองออกมาอย่างที่เห็นครับ

- กลุ่มคนที่กินปลามากคือ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคจอตาเสื่อมเมื่ออายุมากขึ้น น้อยกว่ากลุ่มที่กินปลาน้อยถึง 40 % (กลุ่มที่ทานปลาน้อยคือ น้อยกว่าเดือนละ 1 ครั้ง)

- แต่กลุ่มตัวอย่างที่กินปลาสัปดาห์ละ 3 ครั้งจะมีโอกาสเป็นโรคจอตาเสื่อมเมื่ออายุมากขึ้นน้อยกว่ากลุ่มอื่นๆมาก

อาจารย์หวังท่านสันนิษฐานว่า ผลดีของการกินปลาต่อสุขภาพตาน่าจะเป็นผลจากการได้รับน้ำมันโอเมก้า-3

น้ำมันโอเมก้า-3 เป็นไขมันชนิดอิ่มตัวและมีประโยชน์ต่อร่างกายมาก พบได้มากในอาหารจำพวกปลาโดยเฉพาะปลาทะเลน้ำลึก เช่นปลาซาดีน ปลาเซลมอนและปลาทูน่า นอกจากนั้นยังพบมากในน้ำมันเมล็ดแฟล็ก (flaxseed) น้ำมันวอลนัท และน้ำมันถั่วเหลือง

ผู้ที่กินปลาทะเล หรือน้ำมันปลาเป็นประจำทุกสัปดาห์อยู่แล้วจะมีสุขภาพตาดีไปได้ยาวนาน และนอกจากการทานปลาแล้ว การควบคุมน้ำหนัก การไม่ทานอาหารรสเค็มจัดบ่อยๆ การออกกำลังกาย ก็มีส่วนช่วยป้องกันดวงตาจากโรคเบาหวานขึ้นตา และโรคความดันเลือดสูงได้อีกด้วย

แหล่งข้อมูลบางส่วนจาก gotoknow.


ปลาที่มีความสดใหม่เมื่อนำมาทอดหนังปลาจะไม่ค่อยติดกระทะ ต่างกับปลาที่ไม่สดเมื่อทอดแล้วหนังปลาจะติดกระทะค่ะ

วิธีแก้ คือ

• หลังจากขอดเกล็ดปลาเสร็จแล้วนำไปล้างน้ำให้สะอาด

• ซับเนื้อปลาให้แห้ง แล้วใช้น้ำมะนาวทาให้ทั่วก่อนคลุกด้วยเกลือป่น

• แล้วค่อยนำลงทอดในน้ำมันที่ร้อนจัดและต้องใช้น้ำมันมากพอสมควร

•รอจนปลาลอยตัวขึ้นมาจึงค่อยพลิกกลับอีกด้านหนึ่ง

•น้ำมันที่มีความเหมาะสมในการทอดปลาคือ น้ำมันจากสัตว์ หรือน้ำมันปาล์ม

เพื่อนๆคะทานปลาแล้วอย่าลืมงดอาหารที่มีไขมันชนิดไม่อิ่มตัว เช่น เนื้อไก่ เนื้อหมู เนื้อวัว กะทิ หรือน้ำมันปาล์มด้วยนะ ถ้าเป็นไปได้หลีกเลี่ยงไม่ทานเลยจะดีกว่า หันมาทานอาหารที่ให้ไขมันที่มีคุณภาพดีอย่างปลากันเถอะครับ แล้วเราจะได้สุขภาพที่ดี มีอายุยืนยาวอย่างชาวญี่ปุ่นหรือชาวแอสกิโม ที่เขาทานปลาและอาหารทะเลกันเยอะมากยังไงละคะ

โพสต์โดยสมาชิกหมายเลข 1602 วันที่ 9 ก.พ. 2552


เพื่อสุขภาพ คุณค่าทางโภชนาการของปลาเพื่อสุขภาพคุณค่าทางโภชนาการของปลา

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

ศิลปการพูดสร้างแรงจูงใจ?

ศิลปการพูดสร้างแรงจูงใจ?


เปิดอ่าน 6,409 ครั้ง
เวลามีค่ายิ่งกว่าทอง

เวลามีค่ายิ่งกว่าทอง


เปิดอ่าน 6,417 ครั้ง
ตำรายา แก้เบาขัด

ตำรายา แก้เบาขัด


เปิดอ่าน 6,400 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

รักษาโรคพยาธิด้วยมะเกลือ

รักษาโรคพยาธิด้วยมะเกลือ

เปิดอ่าน 6,414 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
หน้าหนาว ....กินผักสีอะไรผิวถึงจะสวยบาดใจ
หน้าหนาว ....กินผักสีอะไรผิวถึงจะสวยบาดใจ
เปิดอ่าน 6,405 ☕ คลิกอ่านเลย

เจ้าหญิงวุ่นวาย เจ้าชายเย็นชา 32
เจ้าหญิงวุ่นวาย เจ้าชายเย็นชา 32
เปิดอ่าน 6,415 ☕ คลิกอ่านเลย

ทำไมผู้หญิงถึงสนใจเรื่องความสวย?
ทำไมผู้หญิงถึงสนใจเรื่องความสวย?
เปิดอ่าน 6,413 ☕ คลิกอ่านเลย

ประทับ...จูบ
ประทับ...จูบ
เปิดอ่าน 6,435 ☕ คลิกอ่านเลย

ประโยชน์ของพริกป่น
ประโยชน์ของพริกป่น
เปิดอ่าน 6,436 ☕ คลิกอ่านเลย

กลิ่นไอ...ใกล้วันสงกรานต์..
กลิ่นไอ...ใกล้วันสงกรานต์..
เปิดอ่าน 6,420 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

5 ประโยชน์จากน้ำมันมะกอก
5 ประโยชน์จากน้ำมันมะกอก
เปิดอ่าน 11,983 ครั้ง

อย.เตือนภัยครีมกันแดด - แก้ฝ้า 15 ชนิดใช้แล้วหน้าพัง
อย.เตือนภัยครีมกันแดด - แก้ฝ้า 15 ชนิดใช้แล้วหน้าพัง
เปิดอ่าน 14,069 ครั้ง

"ปฏิรูปการศึกษา" ทางรอด "วิกฤติเศรษฐกิจไทย"
"ปฏิรูปการศึกษา" ทางรอด "วิกฤติเศรษฐกิจไทย"
เปิดอ่าน 7,524 ครั้ง

พืชที่ใช้แต่งสีอาหาร หรือให้สีย้อม
พืชที่ใช้แต่งสีอาหาร หรือให้สีย้อม
เปิดอ่าน 41,600 ครั้ง

หลักเกณฑ์และวิธีการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา
หลักเกณฑ์และวิธีการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา
เปิดอ่าน 22,977 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ