นายเสริมศักดิ์ พงศ์พานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มอบนโยบายแก่ผู้บริหารและข้าราชการของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา เมื่อวันที่ ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๕
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการเป็นหน่วยงานขนาดใหญ่ เป็นกระทรวงที่สร้างและฝึกคนให้มีความรู้ เป็นคนดี เป็นคนเก่ง ซึ่งข้าราชการของกระทรวงศึกษาธิการต้องมีความมุ่งมั่นในการทำงาน รักความถูกต้อง ทนต่อความยากลำบาก เน้นการทำงานแบบบูรณาการให้งานสำเร็จ
ทั้งนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้เน้นย้ำถึงการนำนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลและจุดเน้นโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการไปสู่การปฏิบัติ โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
-การเร่งพัฒนาคุณภาพทางการศึกษาและสร้างโอกาสทางการศึกษา ผ่านนโยบายของรัฐบาล เช่น การบรรจุเนื้อหา สาระสำคัญลงในแท็บเล็ต เพื่อสร้างความรู้และข้อมูลแก่ผู้เรียน อีกทั้งมีการวางแผนเพื่อดำเนินการตามนโยบายให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ โดยเริ่มจากพื้นที่ที่มีความพร้อมทั้งด้านครู เครือข่าย อุปกรณ์ เพื่อให้การดำเนินงานสัมฤทธิ์ผล
- การดูแลคุณภาพชีวิตและสวัสดิการครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยเฉพาะในจังหวัดชายแดนใต้ เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจในการทำงาน
- การใช้การศึกษาแก้ไขปัญหาในชายแดนใต้ โดยการสร้างความรู้ ความเข้าใจของคนพื้นที่ โดยคำนึงถึงอัตลักษณ์ วัฒนธรรม และประเพณีของท้องถิ่นเป็นสำคัญ อีกทั้งส่งเสริมให้เยาวชนได้มีโอกาสเรียนรู้ เปิดโลกทัศน์ในการเรียนรู้ และนำความรู้มาพัฒนาพื้นที่
-เร่งแก้ปัญหายาเสพติดในสถานศึกษา ซึ่งมีผู้เรียนเป็นกลุ่มเสี่ยง โดยดึงตำรวจแดร์ (ครูDARE)เข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา และให้ครอบครัวมีส่วนร่วมในการป้องกันและสร้างภูมิคุ้มกันสำหรับเยาวชน
การบูรณาการการทำงานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา กล่าวคือ ผู้ว่าราชการจังหวัดจะเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาการศึกษา เพื่อเสริมสร้างการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ในโอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้เน้นย้ำถึงถึงภารกิจเร่งด่วนที่ สพฐ. ควรปฏิบัติ ๔ ประการ คือ ๑. การเปิดศูนย์อาเซียนศึกษาให้กระจายอยู่ทั่วประเทศ เพื่อเป็นแหล่งความรู้ในเรื่องประชาคมอาเซียน โดยดึงสำนักงานเขตพื้นที่ทางการศึกษาเข้ามามีส่วนร่วมในการถ่ายทอดความรู้ ความเข้าใจ ๒ มอบหมายเขตพื้นที่จัดทำแผนบูรณาการการเรียนการสอนของโรงเรียนขนาดเล็กให้มีประสิทธิภาพและพึงพอใจต่อทุกฝ่าย ๓. การแก้ไขปัญหายาเสพติดในกลุ่มเสี่ยง โดยดึงตำรวจ และกอรมน.เข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา อีกทั้งต้องมีหน่วยเคลื่อนที่เร็วในการเข้าดูแลนักเรียนได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึง ๔.การดูแลสวัสดิการและคุณภาพชีวิตครูเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพ
หลังจากนั้น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้เดินทางไปยังสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา เพื่อมอบนโยบายแก่ผู้บริหารและข้าราชการคุรุสภา โดยเน้นย้ำให้ปฏิบัติงานด้วยความยุติธรรม ถูกต้อง คำนึงถึงหลักมนุษยธรรม มุ่งพัฒนาการศึกษาให้มีคุณภาพ เน้นการสร้างความเสมอภาค โอกาส และคุณภาพทางการศึกษา
นอกจากนี้ คุรุสภาควรมีการกระจายอำนาจการบริหารจัดการลงสู่พื้นที่ให้มากขึ้น เช่น การให้อำนาจสำนักงานเขตพื้นที่ทางการศึกษาสามารถออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา อีกทั้งเข้มงวดในการออกใบอนุญาตให้กับครูสอนภาษาที่เป็นชาวต่างชาติ โดยครูเหล่านี้ต้องมีคุณสมบัติตรงตามที่กฎหมายกำหนดและเป็นคนที่มีความรู้ตามที่โรงเรียนต้องการ เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาการสอนที่ขาดประสิทธิภาพและผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
ที่มา เว็บไซต์กระทรวงศึกษาธิการ