Advertisement
Advertisement
คลิปเดชหน้ากากมังกรชอนตะวัน-ครูเลียนหนังญี่ปุ่น-นร.ชอบ-สนุก
ชื่นชมครูโรงเรียนเทศบาล จ.นครสวรรค์ สร้างหนังสั้น ซูเปอร์ฮีโร่คล้ายของญี่ปุ่น เผย แพร่ผ่านยูทูบพระเอกสวมบทโดยครูสอนคอมพิวเตอร์ ก่อนปรากฏตัวใช้ดนตรีไทย และกินขนมโมจิของดีของจังหวัดเพื่อแปลงร่าง มีนักเรียนเป็นตัวประกอบ เข้าต่อสู้กับเหล่าอธรรม สอนเรื่องจริยธรรมและความดี-ความชั่ว ใช้เวลาถ่ายทำก่อนเข้าเรียนและพักกลางวัน สร้างมาแล้วถึง 5 ตอน รับคำชมมากมาย ผอ.ของโรงเรียนเผยเป็นการสอนผสมผสานทั้งศิลปะ การแสดงและคอมพิวเตอร์ อีกทั้งยังปลูกฝังคุณธรรมอันดีงามอีกด้วย
วันที่ 10 พ.ย.ผู้สื่อข่าวข่าวสดได้รับแจ้งว่า คณะครูของโรงเรียนเทศบาลวัดจอมคีรีนาคพรต จ.นครสวรรค์ ได้จัดทำหนังสั้นเพื่อสอนคุณธรรมและจริยธรรม เผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ยูทูบ มีครูผู้ชายสวมบทพระเอก แปลงร่างเป็นซูเปอร์ฮีโร่ต่อกรกับเหล่าวายร้าย มีนักเรียนแสดงร่วมด้วย ใช้ชื่อว่า "เดชหน้ากากมังกรชอนตะวัน" เป็นที่ชื่นชอบของเด็กนักเรียน ถึงกับเฝ้าติดตามชมกันทุกตอน คำว่า "ชอนตะวัน" นั้นเป็นชื่อเรียกจังหวัดนครสวรรค์ในอดีต เนื่องจากตัวเมืองตั้งอยู่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา และหันหน้าเมืองไปทางแม่น้ำที่อยู่ทางทิศตะวันออก ทำให้แสงอาทิตย์ส่องเข้าหน้าเมืองตลอดเวลา ส่วนมังกรก็เป็นสัญลักษณ์ตรุษจีนเมืองปากน้ำโพอันโด่งดัง
นางณศมน ลี้จินดา ผอ.โรงเรียนเทศบาลวัดจอมคีรีนาคพรต เปิดเผยว่า โรงเรียนเปิดสอนตั้งแต่ศูนย์เด็กเล็ก อนุบาล ประถม มัธยมศึกษาทั้งตอนต้นและตอนปลาย นักเรียนประมาณ 800 คน ครู 60 คน เรามีนโยบายส่งเสริมกิจกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียน โดยมีครูเป็นผู้ทำโครงการเสนอ เพื่อขออนุมัติงบประมาณและดำเนินการ ซึ่งมีโครงการหนึ่งที่น่าสนใจคือโครงการด้านศิลปะ ที่นายสุทัศน์ เสมอเชื้อ ครูศิลปะ นำเสนอ ด้วยการสอนนักเรียนให้ใช้ความรู้ทางด้านศิลปะมาทำหน้ากากตัวละครจากกระดาษ หน้ากากที่ทำจะเป็นหน้ากากของฮีโร่ หรือพระเอก ในแบบการ์ตูนญี่ปุ่น มีการสอนให้ขึ้นโครงร่างตกแต่งและทาสี
นางณศมนกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังนำหน้ากากมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการเรียนการสอน ด้วยการบูรณาการร่วมกับวิชาอื่น เช่น คอมพิวเตอร์ นำครู นักเรียน มาร่วมกันแสดงเป็นภาพยนตร์สั้นหลายตอน ชื่อเรื่อง "เดชหน้ากากมังกรชอนตะวัน" ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่พ.ศ.2553 ใช้เวลาการถ่ายทำในช่วงเช้าก่อนเข้าเรียน หรือพักกลางวัน ที่ผ่านมาทำไปแล้ว 5 ตอน เนื้อเรื่องจะเน้นถึงพระเอกที่ชอบช่วยเหลือผู้อื่น แปลงกายเป็นหน้ากากมังกรชอนตะวัน ด้วยการกินขนมโมจิ ของฝากขึ้นชื่อของนครสวรรค์ เป็นการส่งเสริมสินค้าท้องถิ่นอีกทางหนึ่งด้วย
"เดชหน้ากากมังกรชอนตะวันเป็นภาพยนตร์สั้นแบบแอนิเมชั่นหลายตอน ใช้ศิลปะการวาดภาพประกอบเป็นฉากหลังและใช้เทคนิคการถ่ายทำ หลังจากถ่ายทำไปแล้วจะนำมาตัดต่อ ก่อนนำมาฉายให้นักเรียนชม มีครูและนักเรียนร่วมกันแสดง รวมไปถึงการพากย์และใส่เสียงเพลงประกอบ แต่ละตอนจะมีตัวร้าย สัตว์ประหลาดหรือปีศาจ ที่มาทำให้นักเรียนป่วยหรือบาดเจ็บ หลังจากนั้นจะมีหน้ากากมังกรฯ พระเอกออกมาแปลงกายช่วยนักเรียน ก่อนปรากฏกายจะมีการเป่าขลุ่ยหรือเล่นดนตรีไทย ส่งเสริมให้นักเรียนรักดนตรีไปในตัว และใช้วิธีรับประทานขนมโมจิเพื่อแปลงกายเข้าปราบเหล่าร้าย พล็อตเรื่องจะคล้ายกับภาพยนตร์ของญี่ปุ่น ที่มีฮีโร่ออกมาแปลงกายช่วยผู้เดือดร้อนจากเหล่าร้าย เป็นการปลูกฝังค่านิยมที่ดีงามด้านคุณธรรมจริยธรรม" นางณศมนกล่าว
นางณศมนกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมามีเสียงสะท้อนมากมายจากทั้งครู นักเรียน ส่วนมากจะเป็นคำชม ส่วนหนึ่งอยากมีส่วนร่วม ครูและนักเรียนหลายรายมาสมัครร่วมแสดง บางตอนก็เป็นตัวประกอบ บางตอนก็เป็นผู้ร้าย
ด้านนายมนตรี นามแฮด ครูสอนวิชาคอมพิวเตอร์ ผู้สวมบทพระเอก "กฤตย์ แมนสรวง" เปิดเผยว่า ต้องการสอนนักเรียนให้รู้จักเทคนิคการใช้คอมพิวเตอร์ตัดต่อและเขียนภาพ เทคนิคการใส่เพลงประกอบเรื่อง ในตอนแรกๆ ตนจะเแปลงกายเพื่อต่อสู้กับเหล่าร้ายด้วยตนเอง มาระยะหลังเริ่มอ้วนขึ้นจนใส่ชุดไม่ได้ จึงแสดงเพียงตอนแปลงร่าง และให้นักเรียนชั้นมัธยมปลายสวมบทฮีโร่แสดงบทบู๊แทน
"รู้สึกดีที่ได้มีส่วนร่วมทั้งการสอนและการแสดง นักเรียนหลายคนอยากมีส่วนร่วม รวมถึงอยากเป็นฮีโร่เหมือนพระเอกในภาพยนตร์ ตอนนี้ผมกำลังคิดพล็อตเรื่องและสร้างออกมาเป็นหนังสั้นในตอนที่ 6 หลังจากเผยแพร่ไปแล้ว 5 ตอน เรื่องนี้ไม่ใช่การมอมเมาเยาวชนตามที่เคยคิดกันในสมัยก่อน เพราะที่จริงแล้วภาพยนตร์แบบนี้เป็นการสอนเรื่องคุณธรรม จริยธรรม ความกล้าหาญ ความเสียสละและความสามัคคี รวมทั้งให้ความรู้ในเรื่องต่างๆ ไปพร้อมๆ กันเด็กๆ ก็เรียนรู้โดยที่ไม่รู้ตัวจากการชมภาพยนตร์" นายมนตรีกล่าว
ส่วนนายสุนทร ทวีการไถ ครูสอนคณิต ศาสตร์ ที่ให้เสียงบทพากย์ของพระเอก ผู้ร้าย กล่าวว่า เป็นเรื่องดี เพราะเป็นการเรียนแล้วนำไปใช้ได้จริง เป็นการบูรณาการหลายวิชาเข้าด้วยกัน ผสมผสานทั้งศิลปะ ดนตรี คอมพิว เตอร์และการแสดงออกในทางที่ถูกต้อง
ด้านนายสุทัศน์ เสมอเชื้อ ครูศิลปะ เจ้าของโครงการ เปิดเผยว่า โครงการเริ่มมาจากเว็บไซต์ของกลุ่มคนที่สนใจเรื่องฮีโร่ มีผู้ตั้งกระทู้ว่าอยากให้มีฮีโร่แบบไทยๆ บ้าง จึงนำมาสู่การตั้งกลุ่มของคนที่สนใจเรื่องนี้ในนครสวรรค์ ประกอบกับตนเองก็สอนเด็กเรื่องการทำเปเปอร์มาเช่ สอนให้ทำหน้ากากจากกระดาษ ตอนแรกเป็นหน้ากากเอ็งกอ ที่ใช้ในเทศกาลตรุษจีนปากน้ำโพ จนกลายมาเป็นหน้ากากฮีโร่ โดยได้รับการสนับสนุนจากนายอรรถกฤตย์ จีนมหันต์ ผจก.ทั่วไป สำนักพัฒนาประสิทธิภาพ บริษัท ซีพีเอฟ ผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด ที่ชอบสะสมตัวการ์ตูนญี่ปุ่น
นายสุทัศน์กล่าวอีกด้วยว่า ตนเคยเข้ารับการอบรมเรื่องการทำหนังสั้นเพื่อนำมาสอนเด็ก จึงนำมาประยุกต์รวมกันและวางพล็อตเรื่อง ก่อนจะเตรียมอุปกรณ์เสื้อผ้า หน้ากาก และเริ่มถ่ายทำนำมาตัดต่อเป็นตอนๆ มีนักเรียนเข้ามาร่วมจำนวนมาก บางคนก็ฝึกให้ถ่ายภาพ เขียนบทและเป็นตัวแสดง เด็กจะได้ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ไม่ไปมั่วสุมในทางไม่ถูกต้อง
ด.ช.ธีรภัทร ปัตตาเน อายุ 9 ขวบ นักเรียนชั้น ป.3 กล่าวว่า ชอบและประทับใจติดตามชมมาทุกตอน เพราะชอบตัวพระเอกที่หล่อ เก่งและเป็นคนดีมีคุณธรรม ชอบช่วยเหลือผู้ที่อ่อนแอกว่า ปราบเหล่าร้ายได้ ตนใฝ่ฝันอยากเก่งแบบพระเอกในเรื่อง นอกจากนี้ยังอยากเข้าร่วมแสดงโดยขอสมัครเป็นผู้ช่วยพระเอก เพื่อช่วยพระเอกปราบเหล่าร้ายเวลาที่พระเอกสู้ไม่ไหว
ด้านกลุ่มนักเรียนหญิง ด.ญ.อภิชญา เทน อิฐ ตัวแทนนักเรียนชั้น ป.6 เปิดเผยว่า ตนเองสมัครเข้าร่วมแสดงด้วย บางตอนก็เป็นนักเต้น บางตอนก็เป็นตัวประกอบ รู้สึกภูมิใจและดีใจมากที่ได้ร่วมแสดงเพราะเป็นการแสดงออกในทางที่ถูก เน้นคติสอนใจ อีกทั้งยังนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ โดยเริ่มแสดงมาตั้งแต่ชั้น ป.4 หลังจากแสดงไปแล้วมีเสียงสะท้อนจากครูและเพื่อนว่าดูดีมีสาระ บางคนก็ว่าตลกดี รู้สึกสนุกดี
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการต่อสู้ของฝ่ายธรรมะและอธรรม มีการตัดต่อ ใส่เอฟเฟ็กต์แสงสีเสียงเลเซอร์ให้ดูสมจริงเช่นเดียวกับหนังซูเปอร์ฮีโร่ของญี่ปุ่น เนื้อหาสอดแทรกการเรียนการสอนในด้านคุณธรรมจริยธรรม มีครู-เด็กนักเรียนหญิงและชายร่วมแสดงอย่างสนุกสนาน
Advertisement
เปิดอ่าน 24,732 ครั้ง เปิดอ่าน 14,255 ครั้ง เปิดอ่าน 18,873 ครั้ง เปิดอ่าน 9,263 ครั้ง เปิดอ่าน 13,838 ครั้ง เปิดอ่าน 11,529 ครั้ง เปิดอ่าน 13,983 ครั้ง เปิดอ่าน 11,115 ครั้ง เปิดอ่าน 8,339 ครั้ง เปิดอ่าน 14,217 ครั้ง เปิดอ่าน 11,885 ครั้ง เปิดอ่าน 13,429 ครั้ง เปิดอ่าน 58,360 ครั้ง เปิดอ่าน 31,328 ครั้ง เปิดอ่าน 35,105 ครั้ง เปิดอ่าน 11,423 ครั้ง
|
เปิดอ่าน 10,603 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 16,748 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 16,029 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 44,994 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 21,210 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 32,765 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 23,738 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡
เปิดอ่าน 10,381 ครั้ง |
เปิดอ่าน 4,140 ครั้ง |
เปิดอ่าน 11,334 ครั้ง |
เปิดอ่าน 9,381 ครั้ง |
เปิดอ่าน 34,118 ครั้ง |
|
|