Advertisement
Advertisement
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการเจาะข่าวเด่น โพสต์โดย คุณ DuangAesthetic สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
สมัยนี้การทำธุรกรรมการเงินออนไลน์หรือผ่านอินเทอร์เน็ตกำลังเป็นที่นิยมอย่างสูง เนื่องจากสามารถทำได้ง่ายดาย อีกทั้งยังสะดวกรวดเร็ว ได้ทุกที่ทุกเวลา แต่รู้หรือไม่ว่าการทำธุรกรรมการเงินผ่านระบบออนไลน์ขณะนี้กำลังเสี่ยงอันตรายจากการแฮ็คข้อมูลของกลุ่มมิจฉาชีพเป็นอย่างยิ่ง
เกี่ยวกับเรื่องนี้ รายการเจาะข่าวเด่น (5 พฤศจิกายน) จึงได้เชิญ นายปริญญา หอมเอนก ผอ.สถาบันฝึกอบรมความมั่นคงปลอดภัยทางข้อมูลสารสนเทศ (ACIS professional center) มาให้คำแนะนำถึงกรณีดังกล่าว
โดย นายปริญญา กล่าวว่า การเปิด Wi-Fi ในโทรศัพท์ มิจฉาชีพจะใช้อุปกรณ์ปล่อยสัญญาณ พร้อมกับตั้งชื่อเหมือนกับ Wi-Fi ของสถานที่ดังกล่าว เมื่อผู้ใช้กดรับเพราะเข้าใจว่าเป็น Wi-Fi ของสถานที่นั้น ๆ มิจฉาชีพก็สามารถดูดข้อมูล username และ password ของ Gmail, Hotmail, Facebook, Twitter, Instagram ฯลฯ ได้เลยทีเดียว
ทั้งนี้ นายปริญญา ได้แนะนำสำหรับการทำธุรกรรมการเงินออนไลน์อย่างปลอดภัย ว่า เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกมิจฉาชีพแฮ็คข้อมูลจากคอมพิวเตอร์, โน้ตบุ๊ค และสมาร์ทโฟน เวลาที่เข้าหน้าหลักเพื่อใส่ username และ password นั้น ก่อนที่จะกรอกข้อมูลให้สังเกตโดเมนข้างหน้าสุด จะขึ้นว่า https:// (s ย่อมาจาก secure) แต่หากถูกอุปกรณ์ปล่อยสัญญาณจากมิจฉาชีพ โดเมนข้างหน้าจะขึ้น http:// (ไม่มี s) ซึ่งสมาร์ทโฟนจะต้องระวังเป็นพิเศษเนื่องจากหน้าจอเล็กกว่า ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยควรกดเลื่อนไปดูโดเมนให้ครบถ้วนก่อนที่จะกรอกรหัสต่าง ๆ
นอกจากนี้ นายปริญญา กล่าวต่อไปว่า สำหรับวิธีป้องกันอีกอย่างหนึ่งคือ โหลดโปรแกรม SSL STRIP Guard ซึ่งตนเป็นคนเขียนเองสามารถดาวน์โหลดได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยเมื่อเข้าไปแล้วจะมีคำว่า Check now ซึ่งระบบก็จะเช็คสมาร์ทโฟนให้ว่าเครื่องถูกแฮ็คอยู่หรือไม่ โดยจะมีคำว่า Pass และ Warning
นายปริญญา กล่าวเตือนผู้ใช้สมาร์ทโฟนด้วยว่า อย่ากดรับ Socialcam ที่เพื่อนส่งมาให้เราในข้อความเด็ดขาด เพราะมันจะโหลด Trojan โดยอัตโนมัติ และมันจะส่ง SMS โดยที่เราไม่ได้อนุญาต ซึ่งเสีย SMS ละ 3 บาท และส่งไปในเพื่อนทุกคนที่เราบันทึกเบอร์เอาไว้ ซึ่งกรณีนี้ส่วนใหญ่จะเกิดกับเครื่อง iPhone ที่ทำ Jailbreak และ Android ซึ่งแฮ็คเกอร์จะนำข้อมูลความลับเหล่านี้ไปขายต่อ ถ้าเป็น username และ password ของธนาคาร มันจะเข้าไปเปลี่ยนรหัสผ่านและโอนเงิน ซึ่งผู้เสียหายบางรายสูญเงินกว่า 8 แสนบาทเลยทีเดียว โดยแฮ็คเกอร์เหล่านี้เป็นพวกรัสเซียที่อยู่แถวพัทยา และสุดท้ายนี้ขอเตือนด้วยว่า ผู้ใช้ควรปิด location service มิฉะนั้น มันจะรู้ความเคลื่อนไหวของผู้ใช้โดยตลอด
Advertisement
เปิดอ่าน 11,204 ครั้ง เปิดอ่าน 11,612 ครั้ง เปิดอ่าน 15,433 ครั้ง เปิดอ่าน 14,613 ครั้ง เปิดอ่าน 11,371 ครั้ง เปิดอ่าน 11,364 ครั้ง เปิดอ่าน 9,572 ครั้ง เปิดอ่าน 32,157 ครั้ง เปิดอ่าน 19,299 ครั้ง เปิดอ่าน 10,427 ครั้ง เปิดอ่าน 14,512 ครั้ง เปิดอ่าน 15,990 ครั้ง เปิดอ่าน 17,721 ครั้ง เปิดอ่าน 24,061 ครั้ง เปิดอ่าน 16,182 ครั้ง เปิดอ่าน 13,427 ครั้ง
|
เปิดอ่าน 111,477 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 10,771 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 14,254 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 59,094 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 41,939 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 9,263 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 28,155 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡
เปิดอ่าน 9,270 ครั้ง |
เปิดอ่าน 8,334 ครั้ง |
เปิดอ่าน 55,482 ครั้ง |
เปิดอ่าน 23,860 ครั้ง |
เปิดอ่าน 36,131 ครั้ง |
|
|