ก.ค.ศ.อนุมัติอนุมัติหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคลากรทางการศึกษาอื่น38ค(2)
ศาสตราจารย์ ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ ๑๑/๒๕๕๕ เมื่อวันที่ ๑๗ ตุลาคม ๒๕๕๕ ในประเด็นการอนุมัติหลักเกณฑ์ วิธีการฯ การสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่น ตามมาตรา ๓๘ ค.(๒) ดังนี้
► อนุมัติหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่น ตามมาตรา ๓๘ ค.(๒)
จากการที่กระทรวงศึกษาธิการ มีนโยบายที่จะให้การสรรหาบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกตำแหน่ง เป็นไปด้วยความโปร่งใส เป็นธรรม ขจัดการทุจริตเรียกรับผลประโยชน์ในทุกกรณี ก.ค.ศ. จึงได้มีการปรับหลักเกณฑ์และวิธีการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ในตำแหน่งต่างๆ ด้วยการสอบข้อเขียน แบบปรนัย โดยได้มีการปรับหลักเกณฑ์และวิธีการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งครูผู้ช่วย ตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษาและรองผู้อำนวยการสถานศึกษาไปแล้ว
ที่ประชุมจึงได้อนุมัติให้มีการปรับหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่น ตามมาตรา ๓๘ ค.(๒) ให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน โดยกำหนดให้มีการสอบภาคความเหมาะสมสำหรับตำแหน่งโดยการสอบข้อเขียน แบบปรนัย
นอกจากนี้ ได้กำหนดให้มีการเรียกบัญชีผู้สอบแข่งขันได้จากเขตพื้นที่การศึกษาหนึ่งไปบรรจุและแต่งตั้งในเขตพื้นที่การศึกษาอื่น ในอัตราตำแหน่งว่าง ๑ ตำแหน่ง ต่อ ๑ คน ตามบัญชีรายชื่อผู้สอบแข่งขันได้ที่มีคะแนนสูงสุดเท่านั้น เพื่อให้เกิดความโปร่งใส เป็นธรรม ตามนโยบายดังกล่าว
ที่มา http://www.moe.go.th/websm/2012/oct/277.html
ก.ค.ศ.ไฟเขียวสอบข้อเขียว ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษามาตรา 38 ค.(2)
ก.ค.ศ.ไฟเขียวเกณฑ์สอบตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาใช้ข้อเขียน และเรียกบัญชีผู้สอบจากพื้นที่หนึ่งไปบรรจุอีกพื้นที่หนึ่งได้โดยดูตามคะแนนสูงสุด
ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค. ศ.) เมื่อเร็วๆ นี้ที่ประชุมได้อนุมัติหลักเกณฑ์ วิธีการ การสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทาง การศึกษา ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่น ตามมาตรา 38 ค.(2) ให้เป็นในแนวทางเดียวกัน โดยกำหนดให้มีการสอบภาคความเหมาะสมสำหรับตำแหน่งด้วยการสอบข้อเขียน แบบปรนัย และนอกจากนี้ยังกำหนดให้มีการเรียกบัญชีผู้สอบแข่งขันได้จากเขตพื้นที่การศึกษาหนึ่งไปบรรจุและแต่งตั้งในเขตพื้นที่การศึกษาอื่น ในอัตราตำแหน่งว่าง 1 ตำแหน่ง ต่อ 1 คน ตามบัญชีรายชื่อผู้สอบแข่งขันได้ที่มีคะแนนสูงสุดเท่านั้น เพื่อให้เกิดความโปร่งใส เป็นธรรมในการสอบแข่งขัน อย่างไรก็ตาม การปรับหลักเกณฑ์นี้เป็นไปตามนโยบายของตนที่ต้องการให้การสรรหา บุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการ ศึกษาทุกตำแหน่ง เป็นไปด้วยความโปร่งใส เป็นธรรม ขจัดการทุจริตเรียกรับผลประโยชน์ในทุกกรณี
ทั้งนี้ ก่อนนี้ก.ค.ศ. ได้มีการปรับหลักเกณฑ์และวิธีการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการ เป็นข้าราชการครูฯ ในตำแหน่งต่าง ๆ ด้วยการสอบข้อเขียน แบบปรนัย โดยได้มีการปรับหลักเกณฑ์และวิธีการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรง ตำแหน่งครูผู้ช่วย ตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษาและรองผู้อำนวยการสถานศึกษาไปแล้ว ฉะนั้นจึงต้องมีการปรับการสอบในส่วนของบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38ค.(2)ให้สอดคล้องกัน
ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์ 22 ตุลาคม 2555