ดร.รังสรรค์ มณีเล็ก ที่ปรึกษาด้านพัฒนากระบวนการเรียนรู้ สพฐ. ได้กล่าวผ่านจดหมายเปิดผนึกฉบับที่ ฉบับที่ 7/2555 (08/10/2555) เกี่ยวกับเงินตกเบิกวิทยฐานะ ดังนี้
เงินเพิ่มค่าครองชีพ
ขณะนี้เรื่องการปรับอัตราค่าจ้างให้สอดคล้องกับระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราวฯที่ สพฐ.เสนอเข้า ค.ร.ม.นั้น ได้ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 4 (ฝ่ายเศรษฐกิจ)ซึ่งมีท่านกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานกรรมการเรียบร้อยแล้ว ผมและคณะเป็นผู้ไปชี้แจงแทนท่านเลขาธิการ กพฐ. โดยชี้แจงถึงความเป็นมาและเหตุผล ความจำเป็นที่ต้องนำเรื่องเข้า ค.ร.ม. บรรยากาศและท่าทีของกรรมการกลั่นกรองแต่ละท่านดีมากครับ ผมออกจากห้องประชุมมาด้วยความหวังที่จะเป็นจริง ที่ประชุมมีมติ
1) มอบหมายให้กรมบัญชีกลางรวบรวมจำนวนเจ้าหน้าที่/ลูกจ้างที่ได้รับค่าจ้างรายวัน/รายเดือนในลักษณะจ้างเหมาของส่วนราชการต่างๆทั้งหมด เพื่อนำเสนอคณะกรรมการกลั่นกรองฯพิจารณาภายใน 2 สัปดาห์
2) มอบหมายให้สำนักงบประมาณและกรมบัญชีกลางหารือร่วมกันในการพิจารณาหาแหล่งเงินที่เหมาะสมสำหรับการดำเนินการปรับอัตราค่าจ้างสำหรับลูกจ้างรายเดือน นักการภารโรงและบุคลากรอื่นๆของ สพฐ.และส่วนราชการอื่นๆที่ดำเนินการจัดจ้างในลักษณะเดียวกันนี้ เพื่อนำเสนอคณะกรรมการกลั่นกรองฯพิจารณาภายใน 2 สัปดาห์
3) ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับข้อสังเกตของคณะกรรมการกลั่นกรองฯไปดำเนินการต่อไป ซึ่งรายละเอียดปรากฏในหนังสือ ที่ นร 0506(คกก.4)/545 ลงวันที่ 20 กันยายน 2555 Click รายละเอียดมติคณะกรรมการกลั่นกรอง ที่แนบมาพร้อมจดหมายฉบับนี้
และคาดว่าเรื่องดังกล่าวคงถูกบรรจุเข้าในว่าของการประชุม ค.ร.ม.เร็วๆนี้ พูดแบบนี้ น้องๆหลายคนก็เขียนต่อว่าผมมาในกระทู้ว่า อ่านจดหมายของผมแล้วก็ยังไม่ชัดเจน ต้องบอกมาเลยว่าจะเข้า ค.ร.ม.เมื่อไร ผลจะเป็นอย่างไร หลอกให้มีความหวังไปเรื่อยๆ ก็ขอให้ท่านผู้อ่านโปรดใช้ดุลยพินิจเอาเองครับว่าผมมีพฤติกรรมอย่างที่ว่าหรือเปล่า
ที่มา สำนักนโยบายและแผนการศึกษาขั้นพื้นฐาน สพฐ.