ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมเรื่องราวจากสมาชิก  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

วิธีสวดมนต์ที่ถูกต้อง


เรื่องราวจากสมาชิก เปิดอ่าน : 7,176 ครั้ง
Advertisement

วิธีสวดมนต์ที่ถูกต้อง

Advertisement

วิธีสวดมนต์ที่ถูกต้อง
	บทสวดมนต์หลายบทนั้นมีอานุภาพในตัวเองมากมายมหาศาล  แต่ต้องขึ้นอยู่กับ "ผู้สวด" ด้วย
	มีหลายท่านได้ยินได้ฟังมาว่า  คนนั้นคนนี้สวดมนต์บทนั้นบทนี้แล้วจะได้รับสิ่งที่ดีๆ อย่างนั้น
อย่างนี้  จึงมีผู้เลือกเอาบทสวดมนต์ต่างๆ มาบอกเล่ากันว่าควรสวดบทไหน
	ขอเรียนให้ท่านทราบด้วยความจริง....ว่า...
	การที่สวดมนต์ตามบทสวดมนต์ต่างๆ แล้วได้สมหวังตามความปรารถนา  หรือสวดแล้วได้โชค
ลาภต่างๆ นั้น  ไม่ได้ขึ้นอยู่กับ "บทสวดมนต์" แต่เพียงอย่างเดียว  มีองค์ประกอบอย่างอื่นด้วย
	องค์ประกอบของการได้ทุกอย่างตามที่ปรารถนานั้น  มีส่วนสำคัญอยู่ 3 ส่วน
	1. กรรม		2.ตัวเราเอง     	3.ผู้ช่วยหรือสิ่งต่างๆ ช่วย

	1.กรรม  มีอัตราส่วน 50 %
	ถ้าคนเราไม่มีส่วนของการกระทำที่ได้เคยทำไว้ในอดีตมาเป็นพื้นฐานแล้ว  ไม่มีทางที่จะดีขึ้นมาได้  
เปรียบเทียบว่า กรรม ดีที่เราทำนั้น  เป็นกำลังพื้นฐานที่รองรับเรื่องราวต่างๆ
	2.ตัวเราเอง  มีอัตราส่วน 25 %
	ถ้าเราเองไม่ทำตัวให้ดี  เพื่อรองรับ  หรือรอรับสิ่งที่ดีๆ แล้ว  ก็ไม่มีทางที่จะได้ดีขึ้นมาได้
	3.ผู้ช่วยหรือสิ่งที่มาช่วย  มีอัตราส่วน 25 %
	ผู้ช่วยในที่นี้  รวมถึงทุกสิ่งทุกอย่าง  ไม่ว่าจะเป็นครูบา  อาจารย์  ผู้ที่มีจิตดี   จิตบริสุทธิ์  พรหม 
เทพ   เทวดา  สิ่งศักดิ์สิทธิ์  บทสวดมนต์  พระคาถา  เครื่องราง  ของขลัง  วัตถุมงคล ฯลฯ
	สิ่งเหล่านี้  เป็น "อุปกรณ์" เสริมที่มีความจำเป็น  เพื่อให้สิ่งที่เราต้องการ  สิ่งที่เราปรารถนา  สม
ตามความต้องการ
	นี่เป็นการเปรียบเทียบเพื่อให้เห็นชัดๆ
	สมมติว่า  ถ้าเป็นการสอบ  ต้องการคะแนน 50 เพื่อ "ผ่าน"
	ลองคิดดูง่ายๆ ว่า  ถ้าเราจัดอัตราส่วนแล้วเราต้องใช้ส่วนไหนมากที่สุด
	ถ้าใช้ส่วนที่มากที่สุด  ก็คือ ส่วนที่เป็น "กรรม"  เรามีอัตราส่วนถึง 50 % 
	ถ้าเราเคยทำกรรมดีไว้พอสมควร  คือทำกรรมดีไว้เต็มเปี่ยมได้ครบ 50 % เราก็ไม่จำเป็นต้องไป
หาคะแนนมาจากไหนมาเพิ่ม  เพราะได้ครบ 50 % แล้ว
	เคยสังเกตหรือไม่ว่า  คนบางคนแค่เพียง "นึก" ก็ได้สมตามความปรารถนาแล้ว
	ไม่จำเป็นต้อง "ร้องขอ" จากสิ่งใดๆ อีก  ก็ได้ทุกอย่างตามที่ปรารถนา
	นั่นก็แสดงว่า  บุคคลนั้นได้กระทำ "กรรม" ที่ดีๆ มาอย่างเต็มเปี่ยมแล้วในอดีต

	แต่ถ้าท่านยังทำความดีไม่เพียงพอ  กระพร่องกระแพร่ง  หรือขาดตกไปบ้าง  สมมติว่ามี "กรรมดี" 
ได้คะแนนเพียง 30 %  จำเป็นที่จะต้องหาคะแนนจากที่อื่นมาเพิ่มให้ครบ 50 คะแนน
	จะไปเอาจากไหน ก็จากที่เหลือ 2 ส่วนที่เหลือ คือจากตัวเราเองและผู้ช่วยเหลือหรือสิ่งช่วยเหลือ
	การที่จะไปหาให้ครบ 50 คะแนนนั้น  ถ้าเอามาจากตัวเองน่าจะง่ายกว่าไปหาจากคนอื่น  เพราะ
การที่ทำเอง  ก็จะได้เอง  และได้มากกว่าคนอื่นมาทำให้
	แต่ถ้าถามว่า  เราทำเองนั้น  ทำดีได้แค่ไหน  จริงใจกับการทำความดีได้แค่ไหน  หรือทำไปแล้ว  
ผลที่ได้จะเพียงพอกับคะแนนที่ต้องการหรือไม่
	สมมติว่าทำได้อีก 10 คะแนน (จาก 25 คะแนน)  เราก็ได้เพิ่มแล้วเป็น 40 คะแนน
	ยังขาดอยู่ 10 คะแนน  เราก็ต้องอาศัยผู้ช่วยเหลือ  หรือสิ่งช่วยเหลือ เช่น ครูบา  อาจารย์  ผู้ที่มี
"จิต" ดี   "จิต" บริสุทธิ์ เทพ  เทวดา  พรหม  สิ่งศักดิ์สิทธิ์  บทสวดมนต์  พระคาถา  เครื่องราง  ของขลัง  
วัตถุมงคล ฯลฯ
	เหล่านี้ก็สามารถช่วยท่านได้อีก 10 คะแนน  รวมแล้วครบ 50 คะแนน  ถือว่า "ผ่าน"
	นี่เป็นเพียงการเปรียบเทียบ  และแสดงให้เห็นว่า  ทุกส่วนต้องมีการเกื้อหนุนและประกอบกัน
	ถ้าแค่ผ่าน  ก็ใช้เพียง 50 % หรือ 50 คะแนน
	แต่ถ้าจะให้ "เยี่ยม" ต้องใช้คะแนนมากๆ
	บางคนทำคะแนนได้มากถึง 90 หรือเกือบร้อย
	เช่น  ทำแต่กรรมดี  มาตั้งแต่อดีต  เป็นคนที่ทำตัวเองดี  และได้ผู้ช่วยเหลือดี
	เลยทำให้ได้ดี  มากยิ่งขึ้น
	จำเอาไว้ว่า  กรรม 50  ตัวเอง 25  ผู้ช่วยเหลือ 25
	ไปจัดสัดส่วนเอาเอง
	ถ้าจะมานั่งรอแต่ให้คนอื่นช่วย (25 คะแนน  ซึ่งความเป็นจริง  ใครหรืออะไรจะมาช่วยได้ครบ 
25 คะแนน) แล้วไม่ทำตัวเองให้ดีๆ  ไม่ทำกรรมดีมาแต่ก่อน
	จะไปได้สิ่งที่ตัวเองต้องการ  หรือจะได้รับสิ่งที่ดีๆ ได้อย่างไร
	เพราะฉะนั้นความเป็นจริง  ตัวเราเองเป็นส่วนสำคัญ
	มีคะแนนถึง 75 % หรือ 75 คะแนน
	จากการกระทำดีของเราที่ได้เคยทำไว้  ซึ่งก็คือ "กรรม" 50
	ตัวเราเองทำดีด้วย 25
	ถ้าทำได้แค่นี้  75 คะแนนแล้ว  ผ่านได้อย่างสบายๆ
	จะมานั่งรอผู้ช่วยเหลือ  หรือสิ่งช่วยเหลือทำไม  แค่เพียง 25 คะแนนเอง
	เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว  ทำไมไม่ฝึกตัวเองก่อน
	ให้ตัวเองมี "ดี" พอก่อน  ก่อนที่จะไปหา "ดี" จากที่อื่น

	บทสวดมนต์ก็เช่นกัน  จัดอยู่ในข้อที่ 3 คือผู้ช่วยเหลือ  หรือสิ่งช่วยเหลือ
	อย่าลืมว่าเป็นเพียง "ส่วนประกอบเท่านั้น"
	คนที่ไม่มี "กรรม" ดีมาก่อน  ไม่ได้ทำตัวให้เป็นคนดีก่อน  ไม่ทำบุญทำกุศลมาก่อน   ให้สวด
พระคาถาชินบัญชร 100 จบ 1000 จบก็ไม่ได้อย่างที่ตัวเองต้องการ
	หรือเรียกง่ายๆ ว่า อาจจะไม่ได้ดีตามที่หวัง
	แต่การสวดมนต์ก็ได้ "กุศล" แล้ว  แต่ได้อย่างมากที่สุดก็ไม่เกิน 25 คะแนน
	
	รู้อย่างนี้แล้วจะมามัวมานั่งทำอย่างใดอย่างหนึ่งทำไมกัน
	ทำทั้ง 3 ส่วนให้สมดุลย์กันไม่ดีกว่าหรือ ?
	ทั้งทำ "กรรม" ดี  ทำตัวเองให้ดี (รวมถึงการทำบุญกุศล  ปฏิบัติภาวนา ฯลฯ)  และ
หาผู้ช่วยเหลือสิ่งช่วยเหลือที่ดี
	แล้วสิ่งที่คุณต้องการ...ก็จะไม่ไกลเกินความจริง

	 การสวดมนต์เพื่อให้ได้อานิสงส์สูงสุด
	1.อย่าสักแต่ว่าสวดเป็นนกแก้วนกขุนทอง  คือท่องๆ บ่ยๆ ไปตามอักขระที่อ่านหรือนึกได้
	ข้อนี้ไม่ได้หมายความว่าต้องให้รู้ความหมายด้วย  ไม่จำเป็นขนาดนั้น  เพราะการรู้ความหมาย
เป็นเพียงส่วนเสริมเท่านั้น (แต่ถ้ารู้ความหมายด้วย  ก็เป็นเรื่องดี)
	จะรู้ความหมายหรือไม่รู้ความหมายก็ไม่สำคัญเท่ากับการสวดมนต์อย่างมีสมาธิ
	2.ต้องสวดมนต์อย่างมีสมาธิ  หมายความว่า  เวลาที่จะสวดมนต์นั้น  ต้องรู้ก่อนว่าสวดมนต์
บทไหน (จะรู้ความหมายหรือไม่รู้ก็ได้)  แต่เวลาที่สวดมนต์นั้น  ให้รู้ว่าอักขระหรือตัวหนังสือที่เรากำลังจะ
ท่องนั้น คือตัวอะไร
	ฟังดูอาจจะเข้าใจยาก  เอาอย่างนี้ เวลาที่จะสวดมนต์ เช่น นะโม  ตัสสะ ฯลฯ  ก็ต้องรู้ว่าตอนนี้
กำลังสวดคำว่า นะ  คำว่า โม  คำว่า ตัส  คำว่า สะ
	คือให้รู้ตัวทุกตัวอักขระว่ากำลังสวดคำไหน
	ทำได้มั้ยครับ  ถ้าทำได้..คือรู้ตัวว่าสวดอักขระตัวไหน  เราก็จะมีสติใจจดจ่อกับคำสวดตามอักขระ  
	เมื่อมีสติเราก็จะมีสมาธิ
	การมีสติ  และมีสมาธิในเวลาสวดมนต์นั้น  จะได้รับ "พลังงาน" ที่ดี
	ทำให้ได้  แล้วจะได้รู้ว่า  สวดมนต์เวลาที่มีสติและสมาธิ  จะ "ดีกว่า" สวดมนต์แบบนกแก้วนก
ขุนทองอย่างมากมายมหาศาล

	 การเรียงการสวดมนต์  ตามที่ได้ลงในเวบนี้
	ให้สวดมนต์ตามที่ได้ลงเอาไว้  ตั้งแต่ บทสวดมนต์ที่เกี่ยวกับพระรัตนตรัย  บท
ชัยมงคลคาถา (บทพาหุง ฯ)  และจบด้วยพระคาถาชินบัญชร
	จะท่องโดยไม่ต้องดูตัวหนังสือก็ได้  แต่อย่าขี้เกียจ  หมั่นท่องจำไว้ให้ได้ก็ดี  อย่านึกว่ามีหนังสือ  
มีตำรา  แล้วเอาแต่เปิดหนังสือ  เปิดตำราท่อง
	แรกๆ ก็เปิดได้   เพราะคนไม่เคยท่องจะให้จำได้อย่างไร
	แต่ถ้านานๆ ไป  ควรท่องจำเองโดยไม่ต้องเปิดหนังสือหรือตำรา
	เพราะการท่องด้วยจิตใจที่จดจ่อกับคำที่เราท่อง  สิ่งที่เราได้ก็คือ จิตจะมีสมาธิ
	การสวดมนต์ก็คือการปฏิบัติสมาธิอย่างหนึ่งเช่นกัน

   จาก  http://www.extrasoul.com/pray.html

โพสต์โดยสมาชิกหมายเลข 3135 วันที่ 4 ก.พ. 2552

หน้าหนาวแล้ว คุณครูสนใจไหม DoDo เก้าอี้แคมป์ปิ้ง รับน้ำหนักได้เยอะ พร้อมกระเป๋าจัดเก็บ โครงอลูมิเนียมรับน้ำหนักได้200KG ในราคา ฿189 - ฿509 ที่ Shopee

https://s.shopee.co.th/9pNuttuIUm?share_channel_code=6


วิธีสวดมนต์ที่ถูกต้อง

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

ลองใช้ใจมองเพื่อน

ลองใช้ใจมองเพื่อน


เปิดอ่าน 7,163 ครั้ง
15 ชนิดมนุษย์ ...MSN

15 ชนิดมนุษย์ ...MSN


เปิดอ่าน 7,166 ครั้ง
ฉลาดเลือกครีมกันแดด

ฉลาดเลือกครีมกันแดด


เปิดอ่าน 7,176 ครั้ง
วันวานยังหวานอยู่

วันวานยังหวานอยู่


เปิดอ่าน 7,159 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

  แมลงแม่คนิ้ง   นี่แค่ส่วนหนึ่งของปาย

แมลงแม่คนิ้ง นี่แค่ส่วนหนึ่งของปาย

เปิดอ่าน 7,170 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
10 เหตุการณ์ .....ที่ทำให้เชื่อว่ามนุษย์ต่างดาวมีจริง
10 เหตุการณ์ .....ที่ทำให้เชื่อว่ามนุษย์ต่างดาวมีจริง
เปิดอ่าน 7,180 ☕ คลิกอ่านเลย

แนวทาง 10 ประการเพื่อประหยัดน้ำมัน
แนวทาง 10 ประการเพื่อประหยัดน้ำมัน
เปิดอ่าน 7,168 ☕ คลิกอ่านเลย

ขนมโบราณ...หายาก
ขนมโบราณ...หายาก
เปิดอ่าน 7,172 ☕ คลิกอ่านเลย

 เลขวันเกิด.....ทายนิสัย
เลขวันเกิด.....ทายนิสัย
เปิดอ่าน 7,186 ☕ คลิกอ่านเลย

อย่าลืมหน้าที่...แม่บ้านแม่เรือน
อย่าลืมหน้าที่...แม่บ้านแม่เรือน
เปิดอ่าน 7,200 ☕ คลิกอ่านเลย

วันสำคัญของไทยที่แม้จะมิใช่วันหยุดราชการทั้งหมด แต่ก็เป็นวันสำคัญของชาติ
วันสำคัญของไทยที่แม้จะมิใช่วันหยุดราชการทั้งหมด แต่ก็เป็นวันสำคัญของชาติ
เปิดอ่าน 7,190 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

ประวัติ วะโฮรัมย์ เหรียญทองวีลแชร์พาราลิมปิก2008
ประวัติ วะโฮรัมย์ เหรียญทองวีลแชร์พาราลิมปิก2008
เปิดอ่าน 14,627 ครั้ง

แตงโมเจลลี่ หวานฉ่ำสีสันสดใส ทำง่ายนิดเดียว
แตงโมเจลลี่ หวานฉ่ำสีสันสดใส ทำง่ายนิดเดียว
เปิดอ่าน 14,604 ครั้ง

แบ่งชนชั้นโดยการศึกษา โดย วีรพงษ์ รามางกูร
แบ่งชนชั้นโดยการศึกษา โดย วีรพงษ์ รามางกูร
เปิดอ่าน 27,055 ครั้ง

8 วิธีกำจัดขาโต๊ะสนุ้ก
8 วิธีกำจัดขาโต๊ะสนุ้ก
เปิดอ่าน 11,026 ครั้ง

ภาพแบบ Vector
ภาพแบบ Vector
เปิดอ่าน 18,382 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ