ครม.ยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่ครูและบุคลากรทางการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้
สรุปผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ ๒ ตุลาคม ๒๕๕๕ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงศึกษาธิการ คือ ยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่ครู และบุคลากรทางการศึกษาที่ปฏิบัติหน้าที่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และอนุมัติการจัดสรรวงเงินเหลือจ่ายเพื่อแก้ไขปัญหาทุนการศึกษาต่อระดับปริญญาโทของครูและบุคลากรอาชีวศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ๒๕๕๕
ครม.มีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (มาตรการภาษีเพื่อยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินค่าตอบแทนพิเศษที่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้รับจากหน่วยงานของรัฐ) ตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
ข้อเท็จจริง กค.เสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาว่า
๑. ได้หารือร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เพื่อพิจารณาประเด็นการยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่ครู และบุคลากรทางการศึกษาที่ปฏิบัติหน้าที่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามมติคณะรัฐมนตรี (วันที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๕๓)
ที่ประชุมได้มีมติเห็นควรยกเว้นภาษีเงินได้ที่เป็นค่าตอบแทนพิเศษ สำหรับบุคลากรที่ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งรัฐเป็นผู้จ่ายตามระเบียบที่กำหนด โดยให้กับผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ดังกล่าวทุกอาชีพไม่เฉพาะครูและบุคลากรทางการศึกษา เนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายให้สิทธิประโยชน์แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานซึ่งได้รับคำสั่งจากทางราชการให้ปฏิบัติงานในหน้าที่ประจำในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ตามมติคณะรัฐมนตรี (วันที่ ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๕๐) โดยให้ได้รับเงินค่าตอบแทนพิเศษตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยบำเหน็จความชอบสำหรับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.๒๕๕๐
ซึ่งเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานที่จะมีสิทธิได้รับเงินค่าตอบแทนพิเศษตามระเบียบดังกล่าว ได้แก่ ข้าราชการ พนักงานและลูกจ้างของหน่วยงานของรัฐ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน และอาสาสมัครทหารพราน ซึ่งได้รับคำสั่งจากทางราชการให้ปฏิบัติงานในหน้าที่ประจำในจังหวัดชายแดนภาคใต้
สำหรับหลักเกณฑ์และวิธีการจ่ายเงินค่าตอบแทนพิเศษนั้น เป็นไปตามที่คณะรัฐมนตรีกำหนด ตามข้อ ๑๑ ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยความบำเหน็จความชอบสำหรับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.๒๕๕๐
๒. เพื่อเป็นการสร้างขวัญ กำลังใจ และแรงจูงใจให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติดังกล่าว ซึ่งต้องปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยงภัยในภาวะไม่ปกติ สมควรยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินค่าตอบแทนพิเศษที่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานดังกล่าวได้รับ
สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง ๑) กำหนดให้เงินค่าตอบแทนพิเศษที่ผู้มีเงินได้ได้รับจากหน่วยงานของรัฐ เนื่องจากเป็นเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยบำเหน็จความชอบสำหรับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.๒๕๕๐ เป็นเงินได้พึงประเมินที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ ๒) กำหนดให้ใช้บังคับสำหรับเงินได้พึงประเมินที่ได้รับตั้งแต่ ๑ มกราคม ๒๕๕๕ เป็นต้นไป
ครม.มีมติรับทราบและอนุมัติการจัดสรรวงเงินเหลือจ่ายเพื่อแก้ไขปัญหาทุนการศึกษาต่อระดับปริญญาโทของครูและบุคลากรอาชีวศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ดังนี้
๑) รับทราบวงเงินเหลือจ่ายของ สอศ. ๑๔.๑๐ ล้านบาท โดยอนุมัติการดำเนินโครงการและอนุมัติการจัดสรรวงเงินเหลือจ่ายตาม พ.ร.ก. พร้อมทั้งอนุมัติให้ สอศ.ก่อหนี้ผูกพันหรือดำเนินโครงการก่อนการจัดสรรเงินกู้สำหรับโครงการยกระดับคุณภาพอาชีวศึกษาสู่ความทันสมัย รายการอุดหนุนทุนการศึกษาต่อระดับปริญญาโท หลักสูตรต่อเนื่อง ๒ ปี เพื่อแก้ไขปัญหาทุนการศึกษาต่อระดับปริญญาโท ของครูและบุคลากรอาชีวศึกษา จำนวน ๔๖ ทุน (ทุนละ ๓๐๐,๐๐๐ บาท) ของ สอศ. วงเงิน ๑๓.๘ ล้านบาท รวมทั้งอนุมัติให้ยกเว้นการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๘ ตุลาคม ๒๕๕๔
๒) รับทราบและอนุมัติการจัดสรรวงเงินเหลือจ่ายตาม พ.ร.ก. และเงินกู้ DPL ภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ๒๕๕๕ ดังนี้
-
รับทราบวงเงินเหลือจ่ายของ สอศ. วงเงิน ๕๑๒.๕๓๘ ล้านบาท และอนุมัติการดำเนินการโครงการและอนุมัติการจัดสรรวงเงินตาม พ.ร.ก.สำหรับโครงการก่อสร้างอาคารศูนย์วิทยบริการของ สอศ.จำนวน ๕๖ หลัง วงเงิน ๕๐๙.๖ ล้านบาท ทั้งนี้ สอศ.จะต้องเร่งรัดการดำเนินโครงการโดยลงนามในสัญญาก่อสร้างภายในสิ้นเดือนธันวาคม ๒๕๕๕ และเบิกจ่ายเงินให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน ๒๕๕๖
-
รับทราบวงเงินเหลือจ่ายของมหาวิทยาลัยมหิดล วงเงิน ๓๘๙,๓๒๘,๑๗๑.๕๔ บาท อนุมัติดำเนินโครงการและอนุมัติจัดสรรเงินกู้ DPL ภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ๒๕๕๕ เหลือจ่ายให้แก่มหาวิทยาลัยมหิดล สำหรับสาขาสาธารณสุขค่าครุภัณฑ์ทางการแพทย์จำนวน ๒๘ รายการ วงเงิน ๓๘๑,๓๖๙,๓๐๐ ล้านบาท และสาขาศึกษา สำหรับครุภัณฑ์ประจำอาคารเสริมสร้างอุตสาหกรรมชีวภาพจากนวัตกรรม จำนวน ๕ รายการ วงเงิน ๗,๘๓๘,๐๐๐ บาท รวมทั้งสิ้น ๓๓ รายการ ๓๘๙,๒๐๗,๓๐๐ บาท
-
อนุมัติจัดสรรเงินสำรองจ่ายสำหรับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี วงเงิน ๕๒,๔๗๕,๗๑๘ บาท
ที่มา http://www.moe.go.th/websm/2012/oct/264.html