ชมคลิปแล้ว มาลองศึกษาดูกันครับว่า เพลงนี้ซ่อนสาระอะไรไว้
เพลงกังนัม สไตล์ ของศิลปินเกาหลีปาร์ค แจ-ซัง หรือไซ สร้างสถิติมีผู้คลิกเข้าชมในเว็บไซต์ยูทูบ 200 ล้านครั้งแล้ว และไม่ว่าคนที่ชอบหรือชิงชังเขาต่างทราบดีว่าเพราะสาเหตุใด
หลายคนให้เหตุผลว่า ไม่ต้องเข้าใจภาษาเกาหลี เราก็สามารถสนุกไปกับเพลงได้ หลายคนติดใจกับท่าเต้น"ขี่ม้า"ที่อาจดูไร้สาระ ทว่าก็ให้ความบันเทิงไม่น้อย หลายคนก็ชอบเอ็มวี ที่เต็มไปด้วยภาพสีสันฉูดฉาดและความไร้เหตุผลของมัน
แต่ภายใต้เนื้อหนังของความแปลก ฉาบฉวย และน่าขบขัน ของเพลงที่กำลังสร้างกระแสอยู่ในขณะนี้ กลับแฝงถึงข้อเท็จจริงทางสังคมหลายประการของเศรษฐีใหม่ของเกาหลี และย่านกังนัม ที่เป็นแหล่งรวมของคนเหล่านี้ แม้จะเป็นเพียงพื้นที่เศษเสี้ยวเล็กๆของกรุงโซล แต่มันกลับสร้างแรงบันดาลใจ ให้เกิดองค์ประกอบอันน่าประหลาดล้ำของความปรารถนา ความริษยา และความขมขื่น
และนี่คือมุมมองที่มีต่อความหมายของคำว่า"กังนัม สไตล์" และชายร่างท้วม รวมถึงชุมชนที่อยู่เบื้องหลังความโด่งดังไปทั่วโลก
กังนัม, โซล, เกาหลีใต้
กังนัมเป็นพื้นที่ที่เป็นแหล่งรวมของ"ความโลภโมโทสัน"มากที่สุดแห่งหนึ่งของเกาหลีใต้ ย้อนไปเมื่อเพียงสองชั่วอายุคนก่อน ที่นี่เป็นเพียงหมู่บ้านที่เหงาหงอยและสิ้นหวัง ที่ล้อมรอบด้วยพื้นที่เกษตรกรรมและคูคลองเน่าเหม็น
คำว่า"กังนัม" แปลว่า "ฝั่งใต้ของแม่น้ำ" มีพื้นที่เพียง 15.27 ตารางกิโลเมตร เป็นหนึ่งในพื้นที่ 25 เขตที่ประกอบกันเป็นกรุงโซล และมีประชากรเพียง 1% ของกรุงโซลเท่านั้นที่อาศัยอยู่ที่นี่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้มีอันจะกิน คอนโดมีเนียมที่นี่มีราคาเฉลี่ย 716,000 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเท่ากับค่าเฉลี่ยของรายได้ต่อครัวเรือนของเกาหลีรวมกันถึง 18 ปี กระทั่งมีผู้กล่าวว่า "สาธารณรัฐกังนัม"
ย่านธุรกิจและย่านที่ทำการรัฐบาลส่วนใหญ่ จะตั้งอยู่ทางตอนเหนือของแม่น้ำฮัน ซึ่งเคยเป็นที่ตั้งบ้นเรือนของขุนนางเก่า รวมถึงเศรษฐีเก่าก็อาศัยอยู่ที่นั่นจำนวนมาก
คนที่อยู่ในย่านกังนัมจึงถูกมองว่าเป็นเศรษฐีใหม่ ที่เป็นผลมาจากการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างก้าวกระโดด ที่เริ่มขึ้นในช่วงยุค 1970 เมื่อราคาของคอนโดมีเนียมพุ่งขึ้นเป็นหลายเท่าตัว ระหว่างที่การค้าอสังหาริมทรัพย์กำลังบูมสุดขีดในช่วงก่อนปี 2000 เจ้าของที่ดินและนักเก็งกำไร กลายเป็นเศรษฐีในชั่วข้ามคืน และทำให้เศรษฐีเก่ายิ่งรวยขึ้นอีก
ความมั่งคั่งในยุคใหม่ ทำให้กังนัมเต็มไปด้วยร้านค้าแบรนด์เนม และคลีนิกศัลยกรรม และยังนำมาซึ่งการศึกษาในรูปแบบใหม่ นั่นก็คือธุรกิจการกวดวิชา ทั้งแบบกลุ่มใหญ่และส่วนตัว จากสถิติพบว่าผู้คนในย่านนั้น ใช้เงินเพื่อการศึกษามากกว่าครัวเรือนทั่วไปถึง 4 เท่า ผลการศึกษาพบว่า นักศึกษากว่า 41% ของมหาวิทยาลัยโซล ล้วนมาจากย่านกังนัมทั้งสิ้น นอกจากนั้น ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ และบริษัทยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้อย่างซัมซุงและฮุนได
ความเข้าใจกันว่า ผู้คนในย่านกังนัมสร้างฐานะจนมั่งคั่ง โดยไม่ได้เดินตามรอยค่านิยมแบบเดิมๆที่ว่าคนเราควรทำงานหนักและเสียสละ แต่เป็นเพราะพวกเขามีโอกาสได้อาศัยในพื้นที่ทำเลทอง สร้างความหงุดหงิดใจให้กับหลายคน บางรายมองว่า ชาวกังนัมครอบครองสิ่งสุดยอดไว้แต่เพียงกลุ่มเดียว ในละแวกใกล้เคียงย่านกังนัม เต็มไปด้วยโอกาสทางการศึกษาที่ดีที่สุดของประเทศ แหล่งวัฒนธรรมที่หาใครเทียบติด รวมถึงสาธารณูปโภคที่ดีที่สุด ขณะที่เต็มไปด้วยแหล่งช็อปปิ้งและสินค้าแบรนด์แนมอันน่าตื่นตา
คิม ซัคก้า นักวิจารณ์เพลงป็อปในกรุงโซล แสดงความเห็นว่า กังนัมอาจเป็นแรงบันดาลใจ ที่สร้างได้ทั้งความอิจฉาและความไร้รสนิยม ชาวกังนัมถูกมองว่าเป็นชนชั้นสูง แต่คนเกาหลีส่วนใหญ่มองว่าคนเหล่านี้สนใจแต่เรื่องของตัวเอง และขาดความเชื่อที่ว่า ผู้มั่งคั่งควรช่วยเหลือผู้ด้อยกว่า
ปาร์ค แจ-ซัง
นักร้องเค-ป๊อปหลายรายที่โด่งดังแล้วในประเทศบ้านเกิดและตลาดเอเชีย พยายามที่จะก้าวไปยังตลาดอเมริกาที่มีความใหญ่กว่า ท้าทายกว่า
แล้วปาร์ค แจ-ซัง หรือ"ไซ" แรปเปอร์วัย 34 ปี ซึ่งเคยถูกตำรวจปรับเงินเกือบ 4,500 ดอลลาร์ ฐานสูบกัญชาในที่สาธารณะเมื่อปี 2001 ได้ก้าวไปไกลถึงขั้นออกงานเอ็มทีวี หรือกระทั่งสอนบริทนีย์ สเปียร์สเต้นท่าควบม้าได้อย่างไร?
เขากล่าวระหว่างการปรากฏตัวในรายการโทรทัศน์"ทูเดย์"ของสหรัฐฯว่า เขาไม่ใช่คนหล่อ เขาไม่สูง เขาไม่มีกล้าม และเขาก็รูปร่างไม่ดี แต่เขาก็มาที่นี่ได้สำเร็จ และกล่าวว่าแรงผลักดันที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จก็คือ จิตวิญญาณและทัศนคติ
ไซมองว่าตนเองเป็นเพียง"คนนอกที่มีท่าทีประหลาด" แต่กระนั้น เขาเองก็เติบโตมาจากครอบครัวมั่งคั่ง รวมถึงได้รับการศึกษามาจากฝั่งใต้ของแม่น้ำฮัน ใกล้ย่านกังนัม
แจ ฮา-คิม คอลัมนิสต์ป๊อป คัลเจอร์ จากหนังสือพิมพ์ชิคาโก ทริบูน กล่าวว่า เขาเป็นนักเต้นที่เยี่ยมยอด เป็นแรปเปอร์ที่มีความมั่นใจและมีอารมณ์ขัน แต่อีกสาเหตุของความดังในชั่วข้ามคืนของเขาก็คือ ภาพลักษณ์ที่แทบไม่มีความเสแสร้ง
แจ ฮา-คิม กล่าวว่า กระแสเค-ป๊อปได้สร้างความตื่นตะลึงจากแฟนเพลงทั่วเอเชีย ด้วยรูปลักษณ์ของศิลปินที่มีความสวยหล่อ แต่งตัวล้ำสมัยมีสไตล์ แต่นั่นกลับไม่ใช่รสนิยมแบบที่ชาวตะวันตกต้องการ คนอเมริกัน รู้สึกพึงพอใจกับชาวเอเชียที่มีหน้าตาละม้ายเฉินหลงหรือเจ็ต ลี และไม่จำเป็นต้องดูดีเสมอเหมือนแบรด พิตต์ หรือทอม ครู๊ซแต่อย่างใด
ส่วนแรกที่ทำให้เพลงกังนัม สไตล์กลายเป็นที่ติดหูได้อย่างรวดเร็วก็คือ คนที่ดูเองก็อยากรู้ว่า การเต้นท่าประหลาดเช่นนี้เป็นมาอย่างไร แล้วหนุ่มร่างท้วมคนนี้เป็นใครและมาจากไหน และเมื่อเห็นบ่อยๆเข้าก็รู้สึกว่าอยากลองเต้นท่านี้เองสักครั้ง และทำอย่างที่เขาทำ
"กังนัม สไตล์"
ไซปรากฏตัวในมิวสิควิดีโอ ด้วยการแต่งตัวด้วยสูทสีสันฉูดฉาดและย้อนยุค แต่แทนที่เขาจะถ่ายทำในไนท์คลับสุดเก๋ แต่เขาเลือจะใช้สถานที่ที่ดูย้อนแย้งกับย่านกังนัมอันหรูหรา ตั้งตามรถบัสแบบฉิ่งฉับทัวร์ ใต้ทางด่วน ในห้องซาวน่า หรือไม่ก็ในห้องส้วม ซึ่งเป็นท่อนที่เขากำลังแร็ป และแทนที่จะใช้เครื่องไม้เครื่องมือทันสมัย แต่กลับใช้เทคนิคยุคเก่า โดยการโปรยเศษกระดาษและขยะ และใช้พัดลมเป่าให้พัดเข้าใบหน้า ขณะที่กำลังเดินร้องเพลงอยู่กับแดนเซอร์หญิงอีกสองคน
บัก อุน-ซอก นักวิจารณ์เพลงป๊อปกล่าวว่า เพลงนี้ ฉายภาพให้คนดูได้เห็นถึง ความรู้สึก "ทั้งรักทั้งเกลียด"ที่คนเกาหลีมีต่อย่านกังนัม ขณะที่คนเกาหลีที่เหลือมองคนที่อาศัยในกังนัมต่างจากที่ไซมอง เขากล่าวว่า คนเกาหลีดูดีได้ก็เพราะทำศัลยกรรม ดูดีมีสไตล์ก็เพราะมีปัญญาทุ่มเงินซื้อของแบรนด์เนม และหุ่นดีได้ก็เพราะเล่นโยคะและผู้ฝึกสอนส่วนตัว
บัก อุน-ซอก กล่าวว่า ไซดูเหมือนคนบ้านนอก และดูห่างไกลจากคำว่า"กังนัม สไตล์"โดยสิ้นเชิง และเขากำลัง"ล้อเลียนตัวเอง"
ปาร์ก บยอง ซู นักวิจารณ์สังคมกล่าวว่า มิวสิควิดีโอเต็มไปด้วยภาพของการเสียดสี ภาพของชาวบ้านทั่วไปที่ปรากฏก็เป็นสิ่งที่คนเกาหลีดูครั้งเดียวก็ต้องร้องอ๋อ ชายแก่เล่นหมากกระดานแบบเกาหลี เหล่าหญิงวัยกลางคนออกกำลังกายในสวนสาธารณะโดยสวมหมวกปีกกว้าง เป็นภาพที่ชาวเกาหลีทั่วไปชินตาเป็นอย่างดี
ไซให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวยอนฮัพนิวส์ว่า ตัวละครที่เขารับบท ก็เหมือนเป็นแบบจำลองของฮีโร่ที่ดูไม่มีพิษภัยอะไร เช่นเดียวกับในหนังเรื่อง "The Naked Gun" และ "Dumb & Dumber" และเป้าหมายสูงสุดที่เขาต้องการและพูดเสมอๆก็คือ "dress classy, but dance cheesy"
นักวิจารณ์ดนตรีรายหนึ่งกล่าวว่า ไซทำในสิ่งที่นักร้องเกาหลีรายอื่นไม่ทำกัน นั่นก็คือเขาล้อเลียนความร่ำรวยและมั่งคั่งของคนในย่านกังนัม ขณะที่คนอื่นมักแสดงออกให้เห็นถึงความดูดี หรูหราและมั่งคั่งอย่างเต็มที่
ขอบคุณที่มา มติชนออนไลน์