การเคลื่อนไหวด้วยการออกกำลังกาย เปรียบแล้วก็เหมือนกับยารักษาโรค และนี่คือประโยชน์ที่สมองของคุณจะได้รับทุกครั้งที่คุณเริ่มออกกำลังกาย
1.ช่วยให้สมองเจริญเติบโต
ยิ่งเราเเก่ตัวลงเท่าไหร่ การเกิดของเซลล์สมองก็จะยิ่งช้าลงเท่านั้น และเนื้อเยื่อในสมองของเราก็จะค่อย ๆ หดตัวลง แต่การออกกำลังกายจะช่วยเหลือในส่วนนี้ได้ จากการศึกษาผลการสแกนสมองของคนอายุ 60-79 ปี ที่มีสุขภาพดี แต่ไม่ชอบเคลื่อนไหวหรือออกกำลังกายนั้น ได้เเสดงให้เห็นว่า สมองของพวกเขามีขนาดที่ใหญ่ขึ้นภายใน 6 เดือน หลังจากที่ออกกำลังกายเเบบเต้นแอโรบิก แต่คนที่ออกกำลังกายเเบบยืด หรือคลายกล้ามเนื้อ จะได้รับผลน้อยมาก ๆ
2.ช่วยให้สมองสร้างฮอร์โมนได้มากขึ้น
การที่เราออกกำลังกาย ก็เหมือนกับการที่เราเอาสารอาหารที่จำเป็นไปใส่ไว้ในพืช ซึ่งช่วยให้พืชเจริญเติบโตรวดเร็วเเละอุดมสมบูรณ์ นักเคมีรับรู้ว่า การที่สมองได้รับสารที่มีส่วนช่วยบำรุงสมอง หรือที่เรียกว่า BDNF จะช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของสมองและเพิ่มจำนวนเซลล์สมอง นี่เป็นความจริงที่สุด โดยเฉพาะกับสมองส่วนฮิปโปเเคมปัส ซึ่งเป็นหน่วยความจำของสมอง และสมองส่วนนี้จะเสื่อมตัวลงได้ง่ายเมื่ออายุมากขึ้น ยิ่งคุณออกกำลังกายมากเท่าไหร่ ร่างกายก็ยิ่งหลั่งสารบำรุงสมองมากเท่านั้น
3.ช่วยลดความหดหู่และอาการวิตกกังวล
ความโศกเศร้าหดหู่ จะส่งผลให้ความสามารถในการประมวลผลของสมองทำงานได้ช้าลง และทำให้เราไม่สามารถมีสมาธิจดจ่อและตัดสินใจอะไรได้ รวมทั้งก่อปัญหาต่อความจำของเราอีกด้วย และหากใครที่หดหู่อย่างรุนแรง คุณหมอก็อาจจะออกใบสั่งยาแก้อาการซึมเศร้าให้ สำหรับคนที่ซึมเศร้าไม่หนักมาก การออกกำลังกายจะช่วยให้คุณอารมณ์ดีขึ้น ช่วยกระตุ้นการผลิตสารเซโรโธนิน และสารโดพามีน ซึ่งเป็นสารสำคัญที่สมองหลั่งออกมาเมื่อกำลังมีความสุข นอกจากนี้ การออกกำลังกาย ยังช่วยเพิ่มระดับของสารเอ็นโดรฟิน สารแห่งความสุขอีกด้วย
4.ช่วยลดผลจากความเครียด
ถ้าฮอร์โมน BDNF จะช่วยให้สมองของคุณดูหนุ่มขึ้น ก็มีสารตรงข้ามแบบอื่น ๆ ที่ทำให้สมองของคุณแก่ตัวลงเช่นกัน นั่นรวมไปถึงฮอร์โมนที่มีชื่อว่า คอร์ติซอล ซึ่งเป็นฮอร์โมนเเห่งความเครียด การทำอะไรช้า ๆ การที่มีความคิดกระจัดกระจาย และอาการขี้หลงขี้ลืม ล้วนแล้วแต่เกิดจากความเครียดมากกว่าที่เราจะตระหนักซะอีก
5.ช่วยพัฒนาฟังก์ชันการทำงานของสมอง
ฟังก์ชั่นการทำงานของสมอง หมายถึงความสามารถในกระบวนการคิด เช่น สามารถที่จะจดจ่ออยู่กับการทำงานที่ซับซ้อน สามารถจัดการ คิดอย่างเป็นนามธรรม และวางแผนเพื่อเหตุการณ์ในอนาคตได้ นอกจากนี้ ยังรวมไปถึงการทำงานของหน่วยความจำ เช่น ความสามารถในการจดจำหมายเลขโทรศัพท์ในหัวในระหว่างที่คุณกำลังกดโทรศัพท์
6.ช่วยสร้างเพิ่มความไวต่อการรับสารอินซูลินในร่างกาย
เมื่อคุณรับประทานอาหาร ร่างกายของคุณจะเปลี่ยนอาหารเหล่านั้นให้กลายเป็นน้ำตาลกลูโคส ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานสำคัญของร่างกาย รวมทั้งสมองด้วย การที่จะทำให้กลูโคสสามารถแทรกซึมเข้าไปในเซลล์ได้ กลูโคสต้องมีสารอินซูลินเป็นตัวช่วย แต่น่าเสียดาย ที่ร่างกายของคนบางคนมีปฏิกิริยาต่อต้านอินซูลิน ทำให้ร่างกายยิ่งเพิ่มสารอินซูลินมากขึ้นเรื่อย ๆ และเมื่อระดับน้ำตาลในเลือดสูง ก็จะทำให้กลายเป็นโรคเบาหวานประเภทที่ 2 และหากว่าคุณไม่ได้เป็นเบาหวานประเภทที่ 2 การที่ร่างกายต่อต้านอินซูลิน ก็ส่งผลเสียต่อตัวคุณอยู่ดี และเมื่อเซลล์สมองเต็มไปด้วยกลูโคส ก็จะส่งผลต่อระบบความจำและการคิด
การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยป้องกันไม่ให้ร่างกายต่อต้านสารอินซูลินได้ ยิ่งความไวในการรับสารอินซูลินมากขึ้นเท่าไหร่ ก็จะช่วยทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงสภาพมากขึ้นเท่านั้น อย่างน้อยก็ 16 ชั่วโมงหลังจากการออกกำลังกาย และยิ่งร่างกายของคุณสามารถควบคุมระดับปริมาณน้ำตาลในเลือดได้มาก ก็จะช่วยเพิ่มการปกป้องต่อการเสื่อมของกระบวนการคิดของสมองได้ด้วย
ที่มา : teenee.com