ก.ค.ศ.ไฟเขียวเกณฑ์คัดผู้บริหารโรงเรียน ขึ้นบัญชีผู้สอบผ่านเกณฑ์ 60 % ทุกคน บรรจุข้ามกลุ่ม'ประสบการณ์-ทั่วไป'ได้
เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม นางศิริพร กิจเกื้อกูล เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เปิดเผยภายหลังการประชุม ก.ค.ศ. ที่มีนาย สุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบร่างหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษาและผู้อำนวยการสถานศึกษาที่ได้ปรับเกณฑ์เพิ่มเติม โดยให้ผู้ผ่านเกณฑ์การตัดสินไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60 ขึ้นบัญชีไว้ทุกคน โดยมีอายุการขึ้นบัญชีไม่เกิน 2 ปีนับจากวันที่ประกาศขึ้นบัญชี โดยการขึ้นบัญชีจะแยกเป็นสองกลุ่ม คือ กลุ่มทั่วไป และกลุ่มประสบการณ์ จะมีการประกาศเป็นบัญชีรวมของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และบัญชีระดับเขตพื้นที่การศึกษาที่จะแยกเป็นเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาและเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา และบัญชีของสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ (สศศ.)
เลขาธิการ ก.ค.ศ.กล่าวว่า ส่วนการบรรจุและแต่งตั้งผู้ที่สอบขึ้นบัญชีได้ในกรณีบัญชีกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งมีจำนวนผู้ขึ้นบัญชีผู้ผ่านการสรรหาไม่พอกับตำแหน่งว่างที่จะบรรจุและแต่งตั้ง หรือบัญชีผู้ผ่านการสรรหากลุ่มใดกลุ่มหนึ่งหมดบัญชีก่อน ให้ใช้บัญชีกลุ่มที่เหลือในการบรรจุและแต่งตั้งได้ ส่วนกรณีผู้ผ่านการสรรหาไม่มารายงานตัวตามวันเวลาและสถานที่ที่กำหนด ให้ถือว่าผู้นั้นสละสิทธิการบรรจุและแต่งตั้ง และต้องถูกยกเลิกการขึ้นบัญชีทั้งหมด แต่หาก สพฐ.พิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นเหตุสุดวิสัยให้คงการขึ้นบัญชีของผู้ผ่านการสรรหาไว้ในลำดับเดิม เพื่อรอการบรรจุและแต่งตั้งต่อไป ทั้งนี้ สำหรับกรณีผู้ผ่านการสรรหาที่ถึงลำดับที่จะต้องเลือกสถานศึกษาเพื่อบรรจุและแต่งตั้งตามที่ระบุไว้ในการสมัครสอบ แต่หากมีผู้ผ่านการสรรหารายอื่นในลำดับที่ดีกว่าได้เลือกสถานศึกษาที่ตนเองได้เลือกไว้ไปก่อนแล้ว หรือไม่มีสถานศึกษาในเขตพื้นที่การศึกษาที่ระบุไว้ในใบสมัครและหากผู้ที่ผ่านการสรรหาไม่สมัครที่จะบรรจุและแต่งตั้งให้คงการขึ้นบัญชีไว้ในลำดับเดิมทั้งบัญชีรวมของ สพฐ.และบัญชีระดับเขตพื้นที่การศึกษา ทั้งนี้ หากเป็นกรณีที่ผู้ผ่านการสรรหาไม่ยอมบรรจุและแต่งตั้งทั้งที่มีตำแหน่งว่างตามใบสมัครที่ระบุไว้ จะต้องมีการยกเลิกการขึ้นบัญชีทั้งหมด อย่างไรก็ตาม หลักเกณฑ์ดังกล่าวจะใช้การสรรหาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาฯในครั้งหน้า
"ที่ประชุมได้พิจารณาร่างหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายผู้บริหารสถานศึกษา สังกัด สพฐ. ตามที่ สพฐ.เสนอด้วย แต่ที่ประชุมยังไม่มีมติเห็นชอบและได้ขอให้นำกลับไปพิจารณาอีกครั้งหนึ่งด้วยความละเอียดรอบคอบในประเด็นต่างๆ เช่น ขนาดของสถานศึกษาระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา เป็นต้น ส่วนการโยกย้ายครั้งใหม่นี้ให้ใช้เกณฑ์การย้ายเดิมไปก่อน ซึ่งจะเปิดให้ยื่นขอย้ายระหว่างวันที่ 1-15 สิงหาคมนี้" นางศิริพรกล่าว
ด้านนายอนันต์ ระงับทุกข์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า เกณฑ์ที่ปรับปรุงใหม่สามารถเรียกบรรจุข้ามกลุ่มระหว่างกลุ่มประสบการณ์และกลุ่มทั่วไปได้ในกรณีที่บัญชีของอีกกลุ่มไม่เพียงพอหรือหมด ส่วนที่มีผู้บริหารสถานศึกษาเสนอให้มีการยกเลิกการกันตำแหน่งว่างไว้ที่เขตพื้นที่ฯ 50% สำหรับการรับย้ายในเขตพื้นที่ฯ และระหว่างเขตพื้นที่ฯนั้น ในการสอบครั้งต่อไปจะยังคงมีเกณฑ์นี้อยู่ แต่ถึงจะมีเกณฑ์นี้หรือไม่ก็ไม่เป็นปัญหาอีก เพราะต่อไปทุกคนที่สอบผ่านเกณฑ์ร้อยละ 60 จะได้ขึ้นบัญชีทั้งหมด ฉะนั้นเมื่อมีตำแหน่งว่างจากการรับย้ายก็สามารถเรียกบรรจุจากบัญชีได้ทันที ซึ่งจะมีรายชื่อเพียงพอ ทั้งนี้ที่จำเป็นต้องมีเกณฑ์นี้อยู่ก็เพื่อให้เขตพื้นที่ฯสามารถรับย้ายผู้บริหารน้ำดีข้ามเขตพื้นที่ฯได้
ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
• ผลประชุม ก.ค.ศ.ครั้งที่ 8/2555 (31 ก.ค.2555)
http://www.kroobannok.com/52199