Advertisement
นายวันชัย ภาคลักษณ์ อธิบดีกรมทางหลวง(ทล.) เปิดเผยว่า เนื่องจากช่วงเทศกาลสงกรานต์ของทุกปีจะมีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน และประชาชนจะเดินทางกลับภูมิลำเนาเดิม เพื่อเยี่ยมญาติหรือเดินทางไปพักผ่อนท่องเที่ยวต่างจังหวัด และเดินทางพร้อม ๆ กันเป็นจำนวนมาก มักจะก่อให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัด รวมทั้งเกิดอุบัติเหตุในเส้นทางหลวงสายหลัก ๆ ซึ่งก่อให้เกิดความสูญเสียทั้งชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนเป็นประจำทุกปี เพื่อให้การเดินทางของประชาชนรวดเร็วและปลอดภัยยิ่งขึ้น กรมทางหลวงขอแนะนำเส้นทางลัดในการเดินทางไปสู่ภาค ต่าง ๆ ของประเทศ ดังนี้
เส้นทางสู่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
เส้นทางที่ 1 ใช้ถนนวิภาวดีรังสิต (ทางหลวงหมายเลข 31) หรือใช้ทางยกระดับดอนเมืองโทลเวย์ต่อสายอุตราภิมุข เข้าถนนพหลโยธิน (ทางหลวงหมายเลข 1) ถึงต่างระดับบางปะอิน เข้าถนนเอเซีย (ทางหลวงหมายเลข 32) มุ่งสู่อ่างทาง เพื่อเดินทางสู่ ภาคเหนือ หรือเข้าถนนพหลโยธิน (ทางหลวงหมายเลข1) มุ่งสู่สระบุรีเพื่อไปภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
เส้นทางที่ 2 จากถนนรัตนธิเบศร์ (ทางหลวงหมายเลข 302) ใช้ถนนบางบัวทอง – สุพรรณบุรี (ทางหลวงหมายเลข 340) เลี้ยวขวาเข้าถนนวงแหวนตะวันตก (ทางหลวงหมายเลข 9) จนถึงต่างระดับบางปะอินแล้วใช้ถนนพหลโยธิน (ทางหลวงหมายเลข1) มุ่งสู่สระบุรี เพื่อไป ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือใช้ถนนเอเซีย (ทางหลวงหมายเลข 32) เพื่อไปภาคเหนือ
เส้นทางที่ 3 จากถนนรัตนาธิเบศร์ (ทางหลวงหมายเลข 302) ใช้ถนนบางบัวทอง - สุพรรณบุรี (ทางหลวงหมายเลข 340) ผ่านสุพรรณบุรีไปสู่ชัยนาทเข้าถนนเอเซีย (ทางหลวงหมายเลข 32) ไปสู่ จ.นครสวรรค์เพื่อไป ภาคเหนือ
เส้นทางที่ 4 จากถนนรามอินทรา (ทางหลวงหมายเลข 304) ใช้ถนนต่างระดับลำลูกกา (ทางหลวงหมายเลข 9) ถึงแยกพหลโยธิน (ทางหลวงหมายเลข 1) เลี้ยวขวาเพื่อเดินทางสู่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือเลี้ยวซ้ายไปต่างระดับบางปะอิน เข้าถนนเอเซีย (ทางหลวงหมายเลข32) เพื่อสู่ ภาคเหนือ
เส้นทางที่ 5 จากบริเวณถนนแจ้งวัฒนะ (ทางหลวงหมายเลข304) ห้าแยกปากเกล็ด ใช้ถนนติวานนท์ (ทางหลวงหมายเลข 306) เลี้ยวขวาข้ามถนนบางพูน - บางปะหัน (ทางหลวงหมายเลข 347) ผ่านต่างระดับเชียงรากน้อยจนบรรจบถนนเอเซีย (ทางหลวงหมายเลข 32) ที่ อ.บางปะหัน แล้วเดินทางไป ภาคเหนือ หรือเข้าถนนพหลโยธิน (ทางหลวงหมายเลข 1) มุ่งสู่สระบุรี เพื่อไป ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
เส้นทางที่ 6 จากต่างระดับรังสิต ไปตามถนนรังสิต - องครักษ์ (ทางหลวงหมายเลข305) ผ่านทางต่างระดับธัญบุรี ตรงไปจังหวัดนครนายก, กบินทร์บุรี เพื่อไป ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
เส้นทางที่ 7 จากถนนรามอินทรา ใช้ถนนรามอินทรา - สุวินทวงค์ (ทางหลวงหมายเลข 304) ผ่านฉะเชิงเทรา, พนมสารคาม, กบินทร์บุรี, ปักธงชัย เข้าสู่ถนนมิตรภาพ (สาย 2) ไปภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
เส้นทางสู่ ภาคตะวันออก
เส้นทางที่ 8 ไปตามถนนบางนา - บางปะกง (ทางหลวงหมายเลข 34) จนถึง กม.39 เลี้ยวซ้ายเข้าถนนกรุงเทพ - ชลบุรี (ทางหลวงหมายเลข 7) ที่ต่างระดับบางควาย มุ่งสู่พัทยาไป ภาคตะวันออก
เส้นทางที่ 9 จากถนนศรีนครินทร์ (ทางหลวงหมายเลข 3344) ใช้ทางหลวงพิเศษกรุงเทพ - ชลบุรี (ทางหลวงหมายเลข7) มุ่งสู่พัทยาไป ภาคตะวันออก
เส้นทางที่ 10 จากถนนรามอินทรา (ทางหลวงหมายเลข 304) ใช้ถนนสุวินทวงศ์ (ทางหลวงหมายเลข 304) ผ่าน จ.ฉะเชิงเทรา เข้าทางหลวงหมายเลข 314 แล้วใช้ทางหลวงพิเศษกรุงเทพ - ชลบุรี (สาย 7) มุ่งสู่พัทยาไป ภาคตะวันออก
เส้นทางสู่ภาคใต้
เส้นทางที่ 11 ใช้ถนนธนบุรี - ปากท่อ (ทางหลวงหมายเลข 35 : ถนนพระราม 2) เข้าถนนเพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4) เดินทางสู่จังหวัด ภาคใต้
เส้นทางที่ 12 ใช้ถนนเพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4) ผ่าน อ.สามพราน จ.นครปฐม,โพธาราม จ.ราชบุรี เพื่อเข้าสู่จังหวัดภาคใต้
เส้นทางที่ 13 จากขนส่งสายใต้ใหม่ ใช้ถนนบางกอกน้อย - นครชัยศรี (ทางหลวงหมายเลข 338) เข้านครปฐม, ราชบุรี, เพชรบุรี สู่จังหวัดภาคใต้
อธิบดีกรมทางหลวง ได้กล่าวต่ออีกว่า กรมฯได้เตรียมความพร้อม เพื่อรองรับการเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยการออกมาตรการรองรับความปลอดภัยด้านต่างๆในช่วง 7 วันอันตราย เพื่อลดสถิติการเกิดอุบัติเหตุ ที่ผ่านมาได้สั่งการให้แขวงการทางและสำนักทางหลวงทั่วประเทศ คืนผิวจราจรที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง เพื่อเปิดเส้นทางให้ผู้ใช้รถใช้ถนน สามารถสัญจรได้ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ และยังสั่งการให้ปรับปรุงผิวจราจรที่ชำรุดและถนนที่เป็นจุดเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
รวมถึงการติดตั้งไฟส่องสว่างทุกจุดบนทางหลวง และป้ายบอกทาง ทางเลี่ยงและทางลัดต่างๆ ให้มีความชัดเจน เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนนอกจากนี้ กรมทางหลวงได้จัดพิมพ์แผนที่แนะนำเส้นทางลัด เส้นทางเลี่ยง ในการเดินทางไปยังภูมิภาคต่าง ๆ ทั้ง 4 ภาค เพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชนผู้ใช้ทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2555 โดยขอรับได้ที่สำนักงานประชาสัมพันธ์ กรมทางหลวง ถนนศรีอยุธยา เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร หรือที่สำนักทางหลวง แขวงการทาง และสำนักงานบำรุงทางในพื้นที่ทั่วประเทศ ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 0 2345 6530 หรือสายด่วนกรมทางหลวง 1586 สำหรับประชาชนที่ต้องการสอบถามข้อมูลหรือมีเหตุด่วนเหตุร้าย เดินทางไม่สะดวก สามารถแจ้งได้ตามหมายเลขโทรศัพท์ ดังนี้
สายด่วนกรมทางหลวง 1586 ,ศูนย์อำนวยการปฏิบัติงาน 24 ชั่วโมง กรมทางหลวง0 2-354 6832 – 39,หน่วยกู้ภัย มอเตอร์เวย์ กรุงเทพ – ชลบุรี (สายใหม่)0 38-57 7852 – 3 ,หน่วยกู้ภัยวงแหวนรอบนอกด้านตะวันออก (บางปะอิน – บางพลี) 0 2-509 6832 และตำรวจทางหลวง 1193
ที่มา ประชาชาติธุรกิจ
Advertisement
เปิดอ่าน 13,133 ครั้ง เปิดอ่าน 44,962 ครั้ง เปิดอ่าน 15,097 ครั้ง เปิดอ่าน 14,860 ครั้ง เปิดอ่าน 9,198 ครั้ง เปิดอ่าน 12,638 ครั้ง เปิดอ่าน 37,660 ครั้ง เปิดอ่าน 28,994 ครั้ง เปิดอ่าน 7,712 ครั้ง เปิดอ่าน 9,566 ครั้ง เปิดอ่าน 16,400 ครั้ง เปิดอ่าน 9,630 ครั้ง เปิดอ่าน 9,011 ครั้ง เปิดอ่าน 10,822 ครั้ง เปิดอ่าน 17,291 ครั้ง เปิดอ่าน 11,338 ครั้ง
|
เปิดอ่าน 18,757 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 11,316 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 18,239 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 15,000 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 1,351 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 26,245 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 11,924 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡
เปิดอ่าน 68,696 ครั้ง |
เปิดอ่าน 13,244 ครั้ง |
เปิดอ่าน 14,002 ครั้ง |
เปิดอ่าน 59,599 ครั้ง |
เปิดอ่าน 4,490 ครั้ง |
|
|