๑๓ มีนาคม ๒๕๕๕ - ศาสตราจารย์ ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีอนุมัติการจัดทำและลงนามร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการศึกษาไทย-ออสเตรเลียฉบับใหม่
รมว.ศธ.กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เสนอดังนี้
๑. อนุมัติการจัดทำและลงนาม ร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการศึกษาไทย-ออสเตรเลียฉบับใหม่ (Memorandum of Understanding on Cooperation in Education and Training between the Ministry of Education of Thailand and the Australian Government Department of Education, Employment and Workplace Relations) ทั้งนี้ ก่อนจะมีการลงนามจะต้องปรับปรุงแก้ไขร่างบันทึกความเข้าใจฯ ในส่วนที่มิใช่สาระสำคัญ โดยขอให้ ศธ.หารือร่วมกับกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เพื่อพิจารณาดำเนินการในเรื่องนั้นๆ แทนคณะรัฐมนตรีโดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีกครั้ง
๒. อนุมัติให้ รมว.ศธ.เป็นผู้ลงนาม ในบันทึกความเข้าใจฯ ด้านการศึกษาไทย-ออสเตรเลียฉบับใหม่
๓. อนุมัติให้ กต. จัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้แก่ รมว.ศธ. ซึ่งเป็นผู้ลงนาม
สาระสำคัญของร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการศึกษาไทย-ออสเตรเลียฉบับใหม่
จากการที่ ศธ.และกระทรวงศึกษาธิการ การจ้างงาน และแรงงานสัมพันธ์ของออสเตรเลีย ได้เคยจัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการศึกษามาแล้ว ๒ ฉบับ ได้แก่ บันทึกความเข้าใจด้านการศึกษา พ.ศ.๒๕๓๗ และ พ.ศ.๒๕๔๗ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นกรอบแนวทางส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือทางการศึกษาระหว่างกันนั้น ได้สิ้นสุดผลใช้บังคับลงแล้ว และคู่ภาคีทั้ง ๒ ฝ่ายได้เห็นชอบให้จัดทำบันทึกความเข้าใจฯ ฉบับใหม่ที่จะร่วมมือกันส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือทางด้านการศึกษาและวิชาการ รวมทั้งเพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนและการเรียนรู้ของนักเรียนนักศึกษา ครู และนักวิชาการ อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศทุกด้านบนพื้นฐานของความเท่าเทียมและต่างตอบแทน
โดยเนื้อหาสาระได้ระบุกรอบความร่วมมือทางการศึกษาและการฝึกอบรมอย่างกว้างๆ ครอบคลุมความร่วมมือทุกระดับ และการดำเนินงานจะเป็นไปภายใต้กฎหมายและระเบียบของแต่ละประเทศ ซึ่งจะมีคณะทำงานร่วม (Joint Working Group) เป็นกลไกสำคัญในการกำกับดูแลและการดำเนินงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
ที่มา http://www.moe.go.th/websm/2012/mar/078.html