คอลัมน์: สถานี ก.ค.ศ.: การย้ายครู โดยผลการสอบแข่งขัน
ศิริพร กิจเกื้อกูล เลขาธิการ ก.ค.ศ.
ต้องยอมรับกันว่า ในปีหนึ่งๆ จะมีข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ยื่นความประสงค์ขอย้ายด้วยเหตุผลเพื่อกลับภูมิลำเนา เพื่ออยู่ร่วมกับคู่สมรสและด้วยเหตุผลอื่นอีกเป็นจำนวนมาก แต่ด้วยข้อจำกัด เช่น อัตรากำลังของสถานศึกษาที่ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาประสงค์จะย้ายไปดำรงตำแหน่งเกินเกณฑ์ที่ก.ค.ศ.กำหนด หรือมีวุฒิไม่ตรงตามความต้องการของสถานศึกษาจึงทำให้ย้ายไม่ได้
ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาเหล่านั้น จึงหาทางออกโดยการไปสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุเข้าเป็นครูใหม่ ในเขตพื้นที่การศึกษาที่ตนเองมีภูมิลำเนาอยู่ หรือในเขตที่ใกล้เคียงกับภูมิลำเนาของตนเอง และใช้ผลจากการสอบแข่งขันได้นั้นมายื่นคำร้องขอย้าย ซึ่งคำร้องขอย้ายในกรณีดังกล่าวจะต้องนำเสนอ ก.ค.ศ.เพื่อพิจารณาอนุมัติเป็นรายๆไปก.ค.ศ.จึงได้พิจารณาเรื่องนี้แล้วเห็นว่าเพื่อความสะดวก รวดเร็ว คล่องตัว และเพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา รวมทั้งให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติที่มีเป้าหมายให้กระจายอำนาจการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาไปสู่เขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษา ก.ค.ศ.จึงมีมติมอบอำนาจให้ผู้มีอำนาจตามมาตรา 53 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2551 โดยอนุมัติอ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา หรือ อ.ก.ค.ศ.ที่ก.ค.ศ.ตั้ง เป็นผู้พิจารณาย้ายครูหรือครูผู้ช่วยผู้สอบแข่งขันได้ไปแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งในสถานศึกษาแห่งใหม่ได้ ตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ.ที่ ศธ 0206.2/ว20 ลงวันที่ 6 ธันวาคม 2554 โดยสรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
1.ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ขอย้ายต้องดำรงตำแหน่งครูหรือครูผู้ช่วยที่สอบแข่งขันได้
2.ถึงลำดับที่จะเรียกตัวมารับการบรรจุและแต่งตั้ง
3.มีความสมัครใจที่จะขอย้าย
4.ผู้บังคับบัญชาอนุญาตให้ไปสมัครสอบบรรจุใหม่และยินยอมให้ย้าย
5.ต้องย้ายไปโดยได้รับเงินเดือนตามตำแหน่งที่สอบแข่งขันได้
6.หากใครเงินเดือนสูงกว่าเงินเดือนตามตำแหน่งที่สอบแข่งขันได้ ให้ได้รับเท่าเดิมแต่ต้องไม่สูงกว่าขั้นสูงสุดของอันดับเงินเดือนของตำแหน่งที่สอบแข่งขันได้นั้น และ
7.หากใครอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้ม ให้นำผลไปดำเนินการต่อในหน่วยงานการศึกษาใหม่
หากท่านใดประสงค์จะทราบรายละเอียดเพิ่มเติมเปิดดูได้ที่ www.moe.go.th/webtcs และพบกันใหม่ในสัปดาห์หน้าค่ะ
ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน