ศาสตราจารย์ ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ หารือกับนายฮ่าวผิง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการของสาธารณรัฐประชาชนจีน เกี่ยวกับความตกลงในการส่งเสริมการเรียนการสอนภาษาจีนในประเทศไทย
ศาสตราจารย์ ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ หารือกับนายฮ่าวผิง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการของสาธารณรัฐประชาชนจีน เกี่ยวกับความตกลงในการส่งเสริมการเรียนการสอนภาษาจีนในประเทศไทย
รมว.ศธ.กล่าวด้วยว่า สำหรับความร่วมมือที่ผ่านมา จีนได้ให้การสนับสนุนการเรียนการสอนภาษาจีนในประเทศไทย ตามข้อตกลงฉบับเก่ากับฮั่นปั้น โดยมีการส่งครูอาสาจากจีนเข้ามาในไทยประมาณ ๑,๒๕๐ คน แต่ขณะนี้ไทยมีการขยายตัวในเรื่องการเรียนการสอนภาษาจีนมากขึ้น ทำให้จำนวนครูอาสาสมัครไม่เพียงพอตามความต้องการ ศธ.จึงได้ร้องขอเพิ่มจำนวนครูอาสาที่ส่งมาเป็น ๑๐,๐๐๐ คน เพราะทราบว่าจีนมีแผนส่งครูอาสาไปทั่วเอเชียเพิ่มเป็น ๑๐๐,๐๐๐ คน ในอีก ๕ ปีข้างหน้าไว้แล้ว รวมทั้งมีแผนให้ทุนชาวเอเชียไปศึกษาในจีนอีกจำนวน ๑๐๐,๐๐๐ คน โดยไม่จำเป็นต้องเรียนต่อทางด้านภาษา แต่สามารถไปเรียนต่อในสาขาใดก็ได้ เช่น ประวัติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ ฯลฯ นอกจากนั้น ศธ.ยังได้เคยหารือกับสมาคมเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทย-จีน (เฉียวปั้น) ซึ่งเป็นองค์กรเอกชนในประเทศไทย ที่ได้รับการประสานงานจากสำนักงานกิจการชาวจีนโพ้นทะเลของจีนว่า สามารถจะช่วยสนับสนุนให้ครูชาวจีนเข้ามาช่วยสอนภาษาจีนในประเทศไทยเพิ่มขึ้นได้
นายฮ่าว ผิง กล่าวว่ารัฐบาลจีนถือว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความสำคัญและคนไทยเป็นเสมือนพี่น้องกับคนจีน โดยส่วนตัวตนเคยดำรงตำแหน่งรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยปักกิ่ง และได้มีโอกาสรับเสด็จสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มาหลายครั้ง ทำให้รู้สึกผูกพันกับประเทศไทย อีกทั้งยังได้เคยมีโอกาสมาเยือนประเทศไทยด้วย โดยยังได้แสดงความรู้สึกชื่นชมศูนย์หนังสือจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่มีหนังสือที่ดีและราคาถูกจำนวนมาก
ทั้งนี้ จีนประสงค์จะจัดตั้งศูนย์ศึกษาของประเทศต่างๆ ในสาธารณรัฐประชาชนจีนประมาณ ๒๐๐ แห่ง รวมทั้ง "ศูนย์ไทยศึกษา" โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ชาวจีนได้เรียนรู้ประเทศต่างๆ ในโลกมากขึ้น และขณะนี้รัฐบาลจีนได้ตั้งเป้าหมายไว้ว่าภายใน ๕ ปีจะมีนักเรียนนักศึกษาจากประเทศอาเซียน เข้ามาศึกษาในสาธารณรัฐประชาชนจีนจำนวน ๑๐๐,๐๐๐ คน ซึ่งจะมีทุนสนับสนุนให้ โดยจะส่งเสริมให้เข้าไปศึกษาในสาขาต่างๆ ทั้งด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และสังคมศาสตร์ โดยขอให้รัฐบาลไทยส่งเสริมให้นักเรียนนักศึกษาไทยเข้าไปศึกษาในสาธารณรัฐประชาชนจีนมากขึ้น
ในขณะเดียวกันรัฐบาลจีนก็จะส่งเสริมให้นักเรียนนักศึกษาจีนมาศึกษาในสถาบันการศึกษาของไทยมากขึ้น โดยขอให้ไทยพิจารณาจัดส่งครูไทยไปสอนภาษาและวัฒนธรรมไทยให้แก่นักเรียนนักศึกษาในประเทศจีนเพิ่มขึ้นด้วย
ที่มา http://www.moe.go.th/websm/2012/mar/068.html