สพฐ.สรุปแบ่งเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ 261 เขต
สพฐ.สรุปแบ่ง สพม.78 เขต เล็งดึงใช้อัตรากำลังประถมช่วยมัธยม
วันนี้ ( 24 ม.ค.) ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)ว่า ที่ประชุมได้หารือถึงข้อเสนอของการปรับปรุงเขตพื้นที่การศึกษาใหม่หลังจากที่ประชุมกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) ซึ่งมีนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล อดีต รมว.ศธ. เป็นประธาน ได้เห็นชอบให้ปรับปรุงเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา(สพม.)ใหม่ โดยยึดเขตจังหวัดในขณะที่เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งในสัปดาห์ที่ผ่านมาสพฐ.ได้จัดประชุมประชาพิจารณ์รับฟังความคิดเห็นจากตัวแทนเขตพื้นที่การศึกษา สถานศึกษาได้เป็นข้อสรุปเบื้องต้นว่าจำนวนเขตพื้นการศึกษาทั้งหมด จะมี 261 เขต แบ่งเป็น สพม. 78 เขต จังหวัดละ 1เขต ยกเว้นกรุงเทพมหานครที่มี 2 เขตตามเดิม ส่วน สพป.มี 183 เขตตามเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร
ซึ่งจำนวนเขตพื้นที่การศึกษาดังกล่าวเป็นข้อเสนอในขณะนี้ ทั้งนี้ในขั้นตอนต่อไปทางสำนักพัฒนาระบบบริหารงานบุคคลและนิติการ(สพร.) สพฐ.จะต้องไปจัดทำกรอบอัตรากำลังตามขนาดของเขตพื้นที่การศึกษาใหม่ และทำแผนการบริหารจัดการในช่วงเปลี่ยนผ่านให้มีความชัดเจนก่อน เพราะหากมีแต่ตัวเลขแล้วเสนอเพื่อให้ศธ.ให้เห็นชอบออกเป็นประกาศศธ. แล้ว แต่มีกรอบอัตรากำลังที่ไม่สามารถปฏิบัติได้จะทำให้เกิดปัญหาขึ้น
ดังนั้น สพฐ.จะต้องมีความชัดเจนในแผนบริหารจัดการ กรอบอัตรากำลัง และการกระจายบุคลากร หรือในเขตพื้นที่การศึกษาที่อัตรากำลังไม่พอก็จำเป็นต้องมีตัวช่วยเพิ่มเติม เช่น มีครูอัตราจ้างเข้ามาช่วย เลขาธิการ กพฐ. กล่าวต่อไปว่า สำหรับเขตพื้นที่การศึกษาที่มีพื้นที่กว้างขวาง เช่น เขตพื้นที่การศึกษาประถมฯ ใน จ.ร้อยเอ็ด จ.สุรินทร์ อาจจะเสนอขอมีหน่วยบริการระดับอำเภอเข้ามาให้ สพฐ.พิจารณาได้ อย่างไรก็ตามสำหรับการจัดสรรอัตรากำลังของ สพม.ที่เพิ่มขึ้นนั้นจะต้องรอการจัดกรอบอัตรากำลังใหม่ทั้งหมดก่อน ซึ่งหาก สพป.ใดมีอัตรากำลังเกินก็อาจต้องเกลี่ยอัตรากำลังมายังสพม.ที่จะจัดตั้งมาใหม่ เพราะการปรับปรุงเขตพื้นที่การศึกษาครั้งนี้อยู่ในเงื่อนไขที่ว่าจะต้องไม่มีการเพิ่มคนขึ้นมาใหม่
ที่มา เดลินิวส์ วันอังคารที่ 24 มกราคม 2555
เคาะ78เขตพื้นที่มัธยม
เล็งเกลี่ยอัตรากำลังเขตประถม-ไม่พอจ้างเพิ่ม
เมื่อวันที่ 24 ม.ค.55 นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)ว่าที่ประชุมได้หารือถึงข้อเสนอของการปรับปรุงเขตพื้นที่การศึกษาใหม่ หลังจากที่ประชุมกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.)และนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล อดีต รมว.ศึกษาธิการ ได้เห็นชอบให้ปรับปรุงเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาใหม่ ยึดเขตจังหวัด ในขณะที่เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาไม่มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งในสัปดาห์ที่ผ่านมา สพฐ.ได้จัดประชุมประชาพิจารณ์รับฟังความคิดเห็นจากตัวแทนเขตพื้นที่การศึกษา สถานศึกษาได้เป็นข้อสรุปเบื้องต้นว่า จำนวนเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา และมัธยมศึกษา จะมีจำนวนรวม 261 เขต แบ่งเป็นเขตพื้นที่การศึกษามัธยมฯ 78 เขต จังหวัดละ 1 เขต ยกเว้นกรุงเทพฯ ที่มี 2 เขตตามเดิม ส่วนเขตพื้นที่การศึกษาประถมฯ มี 183 เขต ตามเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร ซึ่งจำนวนเขตพื้นที่การศึกษาดังกล่าวเป็นข้อเสนอ ณ ขณะนี้
สำหรับขั้นตอนต่อไป ทางสำนักพัฒนาระบบบริหารงานบุคคลและนิติการ (สพร.) สพฐ.จะต้องไปจัดทำกรอบอัตรากำลัง ตามขนาดของเขตพื้นที่การศึกษาทั้งประถมศึกษาฯ และมัธยมฯ ใหม่ และทำแผนการบริการจัดในช่วงเปลี่ยนผ่านให้มีความชัดเจนก่อน เพราะหากมีแต่ตัวเลขแล้วเสนอเพื่อให้ ศธ.ให้เห็นชอบออกเป็นประกาศศธ.แล้วอาจจะเป็นกรอบอัตรากำลังที่ไม่สามารถปฏิบัติได้จนทำให้เกิดปัญหาได้ ฉะนั้น สพฐ.จะต้องมีความชัดเจนในแผนบริการจัดการ กรอบอัตรากำลัง การกระจายบุคลากร หรือในเขตพื้นที่การศึกษา ที่อัตรากำลังไม่พอก็จำเป็นต้องมีตัวช่วยเพิ่มเติม เช่น มีครูอัตราจ้างเข้ามาช่วย
เลขาธิการ กพฐ. กล่าวต่อว่า สำหรับเขตพื้นที่การศึกษาที่มีพื้นที่กว้างขวาง เช่น เขตพื้นที่การศึกษาประถมฯใน จ.ร้อยเอ็ด และ จ.สุรินทร์ ไม่มีปัญหาที่จะขอเพิ่มเขต เพียงแต่จะต้องให้มีหน่วยบริการในระดับอำเภอเข้าช่วย ซึ่งเขตพื้นที่อาจจะเสนอขอมีหน่วยบริการระดับอำเภอเข้ามาให้ สพฐ.พิจารณาได้ อย่างไรก็ตาม สำหรับการจัดสรรอัตรากำลังของเขตพื้นที่การศึกษามัธยมฯ ที่เพิ่มขึ้นมานั้น จะต้องรอการจัดกรอบอัตรากำลังใหม่ทั้งหมดของเขตพื้นที่การศึกษาประถมฯ และมัธยมศึกษาก่อน ซึ่งหากเขตพื้นที่การศึกษาประถมฯ ใดมีอัตรากำลังเกิน ก็อาจต้องเกลี่ยอัตรากำลังมายังเขตพื้นที่การศึกษามัธยมฯ ที่จะจัดตั้งมาใหม่ เพราะการปรับปรุงเขตพื้นที่การศึกษาครั้งนี้อยู่ในเงื่อนไขที่ว่าจะต้องไม่มีการเพิ่มคนขึ้นมาใหม่
ที่่มา สยามรัฐ