นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมกระทรวงศึกษาธิการ ครั้งที่ ๕/๒๕๕๔ เมื่อเร็วๆ นี้ว่า ได้ฝากให้ผู้บริหารองค์กรหลักร่วมกันขับเคลื่อนการทำงานตามโครงการสำคัญของ ศธ. ที่จะดำเนินการในปี ๒๕๕๕ จำนวน ๙ โครงการ
๑) ยุทธศาสตร์การจัดการศึกษาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งมอบให้สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) เป็นผู้จัดทำร่างยุทธศาสตร์ดังกล่าว โดยให้มีการบูรณาการระหว่างโครงการสำคัญเร่งด่วน (Flagship) ทั้ง ๒๐ โครงการ เข้ากับแผนยุทธศาสตร์ ๒๕๕๕ ของ ศธ. โดยจะนำเสนอให้นายกรัฐมนตรี รวมทั้งสาธารณชนได้รับทราบภายในเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๕
๒) โครงการ “๒๕๕๕ ปีแห่งการรณรงค์พูดภาษาอังกฤษ” หรือ English Speaking Year 2012 ซึ่งได้กำหนดให้ภายใน ๑ สัปดาห์ จะต้องมี ๑ วันที่ครูและนักเรียนนักศึกษาได้ทำกิจกรรมและใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร พร้อมทั้งเน้นย้ำให้ผู้บริหารและบุคลากรใน ศธ.ควรดำเนินการเช่นเดียวกันด้วย โดยเริ่มต้นจากการสื่อสารหรือทักทายกันเป็นภาษาอังกฤษกันทุกๆ วันจันทร์
๓) การปรับปรุงพัฒนาโทรทัศน์เพื่อการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ETV
๔) การส่งแรงงานไทยไปทำงานในประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเป็นโครงการพิเศษร่วมกับออสเตรเลีย เพื่อพัฒนาฝีมือแรงงานไทยและส่งไปทำงานที่ประเทศออสเตรเลียในด้านการก่อสร้าง น้ำมัน แก๊ส และอื่นๆ เพราะออสเตรเลียมีความต้องการแรงงานไทยมากกว่า ๑ แสนคน
๕) คอมพิวเตอร์แท็บเล็ต ได้มีนำร่องการประยุกต์และบูรณาการคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตเพื่อการเรียนการสอนในระดับประถมศึกษาตามแนวนโยบายของรัฐบาล ใน ๕ โรงเรียนทุกภูมิภาคแล้ว ล่าสุดนายกรัฐมนตรีได้แต่งตั้งคณะกรรมการบริหารนโยบาย ๑ คอมพิวเตอร์แท็บเล็ต ต่อ ๑ นักเรียน รวมทั้งคณะอนุกรรมการด้านต่างๆ เช่น คณะอนุกรรมการด้านวิชาการ ด้านการสรรหาเครื่องคอมพิวเตอร์แท็บเล็ต ด้านการประสานงานโครงข่ายเทคโนโลยีและการสื่อสารสารสนเทศ และด้านความเหมาะสมและความปลอดภัยในการเข้าถึงข้อมูล
๖) การจัดตั้งสถาบันการอาชีวศึกษา ซึ่ง ศธ.ได้เห็นชอบหลักการในการจัดตั้งที่ยึดพื้นที่ (Area Based) เป็นหลัก โดยให้สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาเน้นการจัดตั้งแบบบูรณาการ ทั้งสถานศึกษาอาชีวศึกษาและวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี เพื่อให้เกิดการเชื่อมต่อการศึกษาทั้งระบบ
๗) ศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน โดยเน้นทั้งระดับ กศน. และอาชีวศึกษา
๘) กองทุนตั้งตัวได้ ซึ่ง ศธ.จะเน้นการเชื่อมโยงกับวิสาหกิจในสถานศึกษา รองรับกับระบบศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน โดยเน้นร่วมกันพัฒนาและประสานเครือข่าย ให้เกิดการเชื่อมโยงกับผู้ประกอบการ ธุรกิจนวัตกรรม การพัฒนาทักษะกลุ่มอาชีพหลัก โดย ศธ.จะเป็นเจ้าภาพหลักในการดำเนินการตามนโยบายนี้ ซึ่งถือเป็นโยบายสำคัญของรัฐบาล
๙) หลักสูตรพัฒนาศักยภาพ ซึ่งเป็นหลักสูตรใหม่ที่ สพฐ.ดำเนินการปรับปรุงร่วมกับมหาวิทยาลัย โดยจะใช้ในปีการศึกษา ๒๕๕๕ โดยจะได้บรรจุหลักสูตรใหม่ลงในคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตด้วย
ที่มา http://www.moe.go.th/websm/2011/dec/352.html