นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วยนางบุญรื่น ศรีธเรศ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายวิบูลย์ แช่มชื่น ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ นายศักดา บูรณ์พงศ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และผู้บริหารระดับสูง เข้าร่วมการแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ “พ.ศ.๒๕๕๕ ปีแห่งการพูดภาษาอังกฤษ” เมื่อค่ำวันที่ ๒๖ ธันวาคม ๒๕๕๔ ที่สนามหญ้าหน้า ศธ.
รมว.ศธ.กล่าวว่า การพูดภาษาอังกฤษสำหรับคนไทยในวันนี้ คงเป็นความรู้สึกใหม่ที่คนไทยจะต้องเตรียมตัวเพื่อเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ในช่วงที่ผ่านมาแม้คนไทยจะได้เรียนภาษาอังกฤษเป็นเวลานาน แต่ก็ยังไม่กล้าพูด ไม่กล้าแสดงออก ทำให้การใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันลดน้อยลง ขณะนี้คนไทยอาจจะยังขาดการฝึกฝนให้พูดภาษาอังกฤษตั้งแต่ในวัยเรียน การกระตุ้นให้นักเรียนได้พูดภาษาอังกฤษจึงเป็นสิ่งจำเป็น ซึ่ง ศธ.มีความมุ่งหวังให้คนไทยเกิดความกล้าที่จะพูด ไม่จำเป็นต้องพูดด้วยสำเนียงอังกฤษ ขอให้พูดได้ และกล้าพูด ก็ถือเป็นความสำเร็จของโครงการแล้ว
สำหรับ ศธ.ได้กำหนดให้วันจันทร์เป็นวันภาษาอังกฤษของ ศธ.ที่จะได้ใช้ภาษาอังกฤษในการทักทาย โดยไม่ต้องคำนึงถึงความถูกผิด แต่ขอความร่วมมือให้ช่วยกันพูด ที่ต้องทำเช่นนี้ เพราะต้องการกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกว่าการพูดภาษาอังกฤษเป็นเรื่องธรรมดา จากนั้นอาจจะมีการขยายเวลาของการพูด จาก ๑ วันต่อสัปดาห์ เป็น ๒ วัน หรืออาจจะเพิ่มชั่วโมงขึ้นเรื่อยๆ
การกำหนดให้วันจันทร์เป็นวันภาษาอังกฤษในโรงเรียน เป็นการพูดทักทาย เพื่อทำให้การใช้ภาษาอังกฤษเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เพื่อฝึกฝนให้เกิดความคุ้นเคย และเพื่อติดต่อสื่อสารในสังคมอาเซียนและประชาคมโลก โดย ศธ.จะให้การสนับสนุนการจัดกิจกรรมของทุกโรงเรียน ไม่ว่าจะเป็นการจัดมุมภาษาอังกฤษ การประกวดพูดภาษาอังกฤษ การจัดค่ายภาษาอังกฤษ การจัดทำสื่อและเผยแพร่ความรู้แก่ประชาชน ทั้งหนังสือพิมพ์ วารสาร นิตยสาร เป็นต้น โดยจะจัดให้มีกิจกรรมทั้งภายในโรงเรียน การประกวดแข่งขันระหว่างโรงเรียน ระหว่างภาค และในระดับประเทศต่อไป สำหรับการพิจารณาไม่ได้ดูที่ความเก่ง แต่จะดูจากการฝึกฝนให้นักเรียนที่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ให้สามารถพูดได้ จนกระทั่งสามารถพูดภาษาอังกฤษได้ทั้งโรงเรียนหรือไม่
โครงการ “พ.ศ.๒๕๕๕ ปีแห่งการพูดภาษาอังกฤษ” เป็นความร่วมมือระหว่าง ศธ. กับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ตลอดจนเครือข่ายความร่วมมือด้านการสอนภาษาต่างประเทศ ได้แก่ โรงเรียนนานาชาติ สถาบันสอนภาษาต่างประเทศ (บริติช เคาน์ซิล และเอ ยู เอ) เพื่อพัฒนาศักยภาพบุคลากรเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียน รวมทั้งเป็นการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ ๒๕๕๕ เพื่อพัฒนาการศึกษาอย่างยั่งยืน ผลิตและพัฒนาบุคลากรเพื่อสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคมบนฐานรากของความรู้ และมีความคิดสร้างสรรค์ และมีความพร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยใน ๕ ภูมิภาคของโลก การที่ประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งคือ การรณรงค์การเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นภาษาที่มีคนพูดถึงกว่า ๑,๐๐๐ ล้านคน หรือ ๑ ใน ๓ ของประชากรโลก นอกจากนั้นภาษาอังกฤษยังเป็นภาษาที่ใช้ในการทำงานของอาเซียนอีกด้วย โดยโครงการนี้จะดำเนินการต่อเนื่องทุกๆ ปี แต่จะเพิ่มความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งคนไทยทั้งประเทศสามารถพูดภาษาอังกฤษได้เป็นภาษาที่สอง
ที่มา http://www.moe.go.th/websm/2011/dec/348.html