คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ไฟเขียวเกณฑ์ย้าย “ครูคืนถิ่น” แต่สถานศึกษาที่รับย้ายควรมีอัตรากำลังไม่เกินเกณฑ์ที่ ก.ค.ศ.กำหนด ...
นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ที่ประชุมเห็นชอบหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตามโครงการครูคืนถิ่น โดยผู้ขอย้ายต้องเป็นข้าราชการครูเฉพาะสายงานการสอน ที่อยู่นอกเขตภูมิลำเนา หรือถิ่นที่อยู่ของตนเอง คู่สมรส หรือบิดามารดาของตนเองเท่านั้น และต้องดำรงตำแหน่งสายงานการสอนในสถานศึกษาที่อยู่นอกเขตภูมิลำเนา หรือถิ่นที่อยู่ดังกล่าว ติดต่อกันมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี นับถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2554 โดยเกณฑ์การพิจารณาให้พิจารณาจากองค์ประกอบดังนี้ ระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งหรือปฏิบัติหน้าที่ในสถานศึกษาที่อยู่นอกเขตภูมิลำเนา ความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ คุณวุฒิ หรือวิชาเอกตามที่สถานศึกษาต้องการเหตุผลความจำเป็น ทั้งนี้ การย้ายกลับภูมิลำเนาให้พิจารณาถึงประโยชน์ทางราชการเป็นสำคัญ
รมว.ศึกษาธิการกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ สถานศึกษาที่รับย้ายควรมีอัตรากำลังไม่เกินเกณฑ์ที่ ก.ค.ศ.กำหนด หากสถานศึกษาใดมีอัตรากำลังครบตามเกณฑ์หรือเกินเกณฑ์ แต่ยังขาดอัตรากำลังในกลุ่มสาระการเรียนรู้/สาขาวิชาที่จัดการเรียนการสอน ให้พิจารณาเป็นรายๆ ไป โดยให้ยื่นคำร้องที่สถานศึกษาภายในวันที่ 1-31 ธ.ค.นี้ สำหรับปฏิทินการดำเนินงานในส่วนของ สพฐ. มีดังนี้ 17-31 ม.ค. 2555 จะวิเคราะห์การย้ายในภาพรวมทั้งประเทศ 1-15 ก.พ. 2555 สพฐ.จะตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองระดับภูมิภาค 7 คณะ แต่มาทำงานที่ส่วนกลางและจะมีคณะกรรมการกลั่นกรองการย้ายส่วนกลางพิจารณาของ 7 คณะอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ เพราะมีการย้ายข้ามเขตพื้นที่การศึกษาด้วย สพฐ.จะสรุปผลกลั่นกรองการย้ายให้ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาไปดำเนินการภายใน 31 มี.ค. 2555 และภายใน 30 เม.ย. 2555 สพฐ.จะประกาศผลการย้าย เพื่อให้ครูมีเวลาเตรียมตัวการย้ายก่อนเปิดภาคเรียน.
ที่มา http://www.thairath.co.th/content/edu/225624
ก.ค.ศ. เห็นชอบร่างหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายข้าราชการครู ตามโครงการครูคืนถิ่น
นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ ๑๐/๒๕๕๔ เมื่อวันที่ ๒๒ ธันวาคม ๒๕๕๔ ว่าที่ประชุมเห็นชอบหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตามโครงการครูคืนถิ่น รวมทั้งผลการประชุมในประเด็นอื่นๆ ที่น่าสนใจ
เห็นชอบร่างหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายข้าราชการครู ตามโครงการครูคืนถิ่น ซึ่งมีสาระสำคัญสรุปดังนี้
หลักเกณฑ์
๑. คุณสมบัติของผู้ขอย้าย ได้กำหนดให้ใช้เฉพาะสายงานการสอน โดยต้องเป็นข้าราชการครูที่อยู่นอกเขตภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่ของตนเอง คู่สมรส หรือบิดามารดาของตนเองเท่านั้น โดยต้องดำรงตำแหน่งสายงานการสอนในสถานศึกษาที่อยู่นอกเขตภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่ดังกล่าว ติดต่อกันมาแล้วไม่น้อยกว่า ๒ ปี นับถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๔
๒. เกณฑ์การพิจารณา ให้พิจารณาจากองค์ประกอบดังต่อไปนี้ ๑) ระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งหรือปฏิบัติหน้าที่ในสถานศึกษาที่อยู่นอกเขตภูมิลำเนาฯ ๒) ความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ คุณวุฒิ หรือวิชาเอกตามที่สถานศึกษาต้องการ ๓) เหตุผลความจำเป็น ทั้งนี้ ให้ส่วนราชการ เช่น สพฐ.เป็นผู้กำหนดรายละเอียดองค์ประกอบในการพิจารณาตามเกณฑ์ข้อ ๑-๓ และจัดทำเป็นประกาศของส่วนราชการด้วย
๓. การพิจารณาการย้ายกลับภูมิลำเนา ให้พิจารณาถึงประโยชน์ที่ทางราชการจะได้รับเป็นสำคัญ โดยสถานศึกษาที่รับย้ายควรมีอัตรากำลังไม่เกินเกณฑ์ที่ ก.ค.ศ.กำหนด ทั้งนี้การคิดคำนวณอัตรากำลังข้าราชการครูในสถานศึกษา ให้นำเกณฑ์การคิดคำนวณอัตรากำลังที่ ก.ค.กำหนดไว้เดิมมาใช้โดยอนุโลม หากสถานศึกษาใดมีอัตรากำลังครบตามเกณฑ์หรือเกินเกณฑ์ แต่ยังขาดอัตรากำลังในกลุ่มสาระการเรียนรู้/สาขาวิชาที่จัดการเรียนการสอน ให้พิจารณาเป็นรายๆ ไป
วิธีการ
๑. การยื่นคำร้องขอย้าย ให้ยื่นที่สถานศึกษาภายในวันที่ ๑-๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๔ และให้สถานศึกษาส่งคำร้องขอย้ายดังกล่าวพร้อมความเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษา ให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.)
๒. ให้ สพท.นำคำร้องขอย้าย พร้อมความเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษา เสนอ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา หากเห็นชอบให้ สพท.ส่งคำร้องพร้อมความเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษา ไปยัง สพฐ.เพื่อพิจารณาดำเนินการ
๓. ให้ สพฐ.หรือส่วนราชการต้นสังกัด ตั้งคณะกรรมการ เพื่อกลั่นกรองการย้าย
๔. ให้คณะกรรมการกลั่นกรองการย้าย นำคำร้องขอย้ายของผู้ที่มีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ทุกราย มาพิจารณาตามองค์ประกอบ
๕. ให้ สพฐ.หรือส่วนราชการต้นสังกัด ส่งผลการพิจารณากลั่นกรองการย้าย ไปยัง สพท.ที่คณะกรรมการกลั่นกรองการย้ายเห็นสมควรให้ย้าย เพื่อเสนอ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาพิจารณา
๖. ให้ สพท.นำคำร้องขอย้ายของผู้ที่ได้รับการพิจารณา จากคณะกรรมการกลั่นกรองการย้าย ไปขอความเห็นจากคณะกรรมการสถานศึกษาให้แล้วเสร็จภายใน ๑๕ วัน นับจากวันที่ สพท.ส่งคำร้องให้สถานศึกษา หากพ้นกำหนดเวลาดังกล่าวแล้วมิได้รับความเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษา ให้ถือว่าคณะกรรมการสถานศึกษานั้นไม่ประสงค์จะให้ความเห็นประกอบการพิจารณาย้าย
๗. ให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา นำความเห็นของคณะกรรมการกลั่นกรองการย้ายและความเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษาประกอบการพิจารณาย้าย โดยคำนึงถึงนโยบายของ ศธ.เป็นสำคัญ
๘. เมื่อ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาอนุมัติ ให้ผู้มีอำนาจตามมาตรา ๕๓ สั่งแต่งตั้งข้าราชการครูผู้นั้น ทั้งนี้กรณีรับย้ายครูจากต่างเขตพื้นที่การศึกษา ให้ สพท.ที่รับย้ายประสานกับ สพท.ต้นสังกัดของผู้นั้นเป็นลายลักษณ์อักษร ก่อนเสนอผู้มีอำนาจตามมาตรา ๕๓ สั่งแต่งตั้ง และแจ้งให้ผู้เกี่ยวข้องทราบโดยเร็ว
๙. การแต่งตั้งครูวิทยฐานะเชี่ยวชาญพิเศษ ให้ สพฐ.หรือส่วนราชการต้นสังกัด เสนอ ก.ค.ศ.พิจารณา
๑๐. เมื่อออกคำสั่งแต่งตั้งแล้ว ให้ส่งสำเนาคำสั่งให้สำนักงาน ก.ค.ศ. และ สพฐ. จำนวน ๒ ชุด ภายใน ๗ วัน นับตั้งแต่วันที่ออกคำสั่ง
ทั้งนี้ เลขาธิการ กพฐ.กล่าวในที่ประชุมด้วยว่า ได้จัดทำปฏิทินการดำเนินงานในส่วนของ สพฐ.ดังนี้
- ๑๗-๓๑ มกราคม ๒๕๕๕ จะวิเคราะห์การย้ายในภาพรวมทั้งประเทศ
- ๑-๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ สพฐ.จะตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองระดับภูมิภาค ๗ คณะ แต่มาทำงานที่ส่วนกลาง และจะมีคณะกรรมการกลั่นกรองการย้ายส่วนกลางพิจารณาของ ๗ คณะอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้เพราะมีการย้ายข้ามเขตพื้นที่การศึกษาด้วย
- ภายใน ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๕ สพฐ.จะสรุปผลกลั่นกรองการย้าย ให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาไปดำเนินการต่อไป
- ภายใน ๓๐ เมษายน ๒๕๕๔ สพฐ.จะประกาศผลการย้าย เพื่อให้ครูมีเวลาเตรียมตัวการย้ายก่อนเปิดภาคเรียน
ที่มา http://www.moe.go.th/websm/2011/dec/342.html