นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงศึกษาธิการ
ครม.เห็นชอบในหลักการการปรับปรุงหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการเลื่อนเงินเดือนข้าราชการพลเรือน ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ ซึ่งพบว่ามีปัญหาในทางปฏิบัติหลายประการ อาทิ ปัญหาการเลื่อนเงินเดือนกรณีข้าราชการได้รับมอบหมายให้ไปปฏิบัติราชการในหน่วยงานอื่น (ในกรมเดียวกัน) และกรณีข้าราชการได้รับมอบหมายให้ไปช่วยราชการ (ต่างกรม) ปัญหาการเลื่อนเงินเดือนข้าราชการกรณีการโอนหรือย้าย ภายหลังวันที่ ๑ มีนาคม หรือ ๑ กันยายน ซึ่งได้มีการคำนวณวงเงินงบประมาณสำหรับการเลื่อนเงินเดือนไว้แล้วในวันดังกล่าว และปัญหาในทางปฏิบัติเกี่ยวกับวงเงินงบประมาณสำหรับการเลื่อนเงินเดือนและการบริหารวงเงินงบประมาณสำหรับการเลื่อนเงินเดือน
ดังนั้น เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการเลื่อนเงินเดือนข้าราชการพลเรือน โดยยังคงหลักการให้ส่วนราชการมีความยืดหยุ่นและคล่องตัวในการบริหารวงเงินงบประมาณสำหรับการเลื่อนเงินเดือนและการเลื่อนเงินเดือนตามผลงาน ครม.จึงได้เห็นชอบในประเด็นดังต่อไปนี้
๑) กรณีการมอบหมายให้ไปปฏิบัติราชการในหน่วยงานอื่น (ในกรมเดียวกัน) หรือการมอบหมายให้ไปช่วยราชการ (ต่างกรม) ให้เป็นอำนาจของผู้บังคับบัญชาในหน่วยงานที่ข้าราชการไปปฏิบัติราชการเป็นระยะเวลาเกินกว่ากึ่งหนึ่งของรอบการประเมิน เป็นผู้ประเมินผลการปฏิบัติราชการของข้าราชการดังกล่าว และให้พิจารณานำอัตราเงินเดือนของข้าราชการผู้นั้นไปคำนวณรวมเป็นวงเงินงบประมาณสำหรับการเลื่อนเงินเดือนและบริหารวงเงินในหน่วยงานที่ไปปฏิบัติราชการ
๒) กรณีการโอน หรือย้ายข้าราชการ ภายหลังวันที่ ๑ มีนาคม หรือ ๑ กันยายน ซึ่งเป็นวันที่ส่วนราชการและจังหวัดคำนวณวงเงินงบประมาณสำหรับการเลื่อนเงินเดือนข้าราชการพลเรือนในสังกัด ครั้งที่ ๑ (๑ เมษายน) และครั้งที่ ๒ (๑ ตุลาคม) ตามลำดับ ให้ผู้บังคับบัญชาในส่วนราชการ จังหวัด หรือหน่วยงานต้นสังกัดเดิมของข้าราชการก่อนการโอนหรือย้าย เป็นผู้ประเมินผลการปฏิบัติราชการ และบริหารวงเงินงบประมาณสำหรับการเลื่อนเงินเดือนของข้าราชการ แล้วให้ผู้บังคับบัญชาในต้นสังกัดใหม่ออกคำสั่งเลื่อนเงินเดือนตามผลการพิจารณาของผู้บังคับบัญชาในต้นสังกัดเดิมดังกล่าว
๓) กรณีวงเงินงบประมาณสำหรับการเลื่อนเงินเดือนและการบริหารวงเงินงบประมาณสำหรับการเลื่อนเงินเดือน ให้กำหนดผู้บริหารวงเงินงบประมาณสำหรับการเลื่อนเงินเดือนเพิ่มเติม ดังนี้ หัวหน้าส่วนราชการระดับกรมที่อยู่ในบังคับบัญชาหรือรับผิดชอบการปฏิบัติราชการขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรีหรือต่อรัฐมนตรี บริหารวงเงินสำหรับตำแหน่งรองหัวหน้าส่วนราชการระดับกรมที่อยู่ในบังคับบัญชาหรือรับผิดชอบการปฏิบัติราชการขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรีหรือต่อรัฐมนตรี และตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ (ตำแหน่งประเภทบริหาร) ส่วนหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเลขานุการรัฐมนตรี บริหารวงเงินสำหรับตำแหน่งประเภทอำนวยการ ตำแหน่งประเภทวิชาการ และตำแหน่งประเภททั่วไป ในสำนักงานรัฐมนตรี โดยส่วนราชการและจังหวัดกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการจัดสรรวงเงินที่กันไว้บริหารต่างหาก และให้ประกาศให้ข้าราชการในสังกัดทราบโดยทั่วกันก่อนออกคำสั่งเลื่อนเงินเดือน
ที่มา http://www.moe.go.th/websm/2011/nov/296.html