“วรวัจน์” ชูแนวคิด 1 จังหวัด 1 เขตมัธยม 1 เขตประถม สั่ง สพฐ.ทบทวนการแบ่งเขตพื้นที่มัธยมและประถมใหม่ ชี้ เพื่อให้การทำงานคล่องตัวขึ้น ระบุ การแบ่งที่ผ่านมาไม่เหมาะสม เพราะได้ดูแลขนาดพื้นที่กว้างใหญ่ไม่เท่ากันส่งผลต่อการบริหาร
นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า จากการแบ่งเขตพื้นที่การศึกษาที่ผ่านมาที่แบ่งเป็นสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) 42 เขต และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) 175 เขต พบปัญหาในเรื่องการบริหารจัดการ โดยเฉพาะ สพม.นั้น มีหลายเขตพื้นที่การศึกษาที่มีการบริหารจัดการบริหารจัดการคร่อมกันอยู่หลายเขต ทำให้จังหวัดเล็กหรือจังหวัดที่ไม่เป็นที่ตั้งของสำนักงานอาจจะถูกละเลย ไม่ได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง ดังนั้น จึงมีแนวคิดว่าควรจะปรับปรุงการแบ่งเขตโดยเฉพาะ สพม.จากที่มี 42 เขต อาจจะปรับโดยให้ยึดเขตจังหวัด ซึ่งได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ไปดูว่าจะทำอย่างไรจึงจะแก้ปัญหาเรื่องการบริหารจัดการเหล่านี้ และการทำงานเกิดความคล่องตัวได้ โดยให้ไปดูในเรื่องของการเพิ่มเขตหรือแบ่งเขตให้เหมาะสมที่สุด
“เช่นเดียวกัน ในส่วนของ สพป.ก็ให้ไปดูว่าเขตพื้นที่ใดที่มีพื้นที่การดูแลที่กว้างใหญ่เกินไปจนเกิดความไม่เหมาะสม ทำให้ดูแลไม่ทั่วถึง ทาง สพฐ.ก็สามารถเสนอขอปรับลดหรือเพิ่มเขตพื้นที่มาได้ ซึ่งที่ผ่านมา มีความพยายามจะให้ทบทวนเรื่องดังกล่าวมาโดยตลอด เช่น ใน 1 จังหวัด มี สพป.เขต 1-2 อาจจะให้เหลือเพียงเขตเดียว หรือในส่วน สพม.จากที่กำหนดว่า 2 จังหวัดถือเป็น 1 เขตพื้นที่ อาจจะปรับให้เป็น 1 จังหวัดต่อ 1 เขตพื้นที่เพื่อให้เกิดการกระจายของทรัพยากร และเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ” นายวรวัจน์ กล่าว
เมื่อถามว่า โรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลหรือโรงเรียนขนาดเล็กจะเดินทางมา ติดต่อทางเขตพื้นที่ได้ลำบากมากขึ้นหรือไม่นั้น นายวรวัจน์ ชี้แจงว่า เนื่องจากขณะนี้การแบ่งเขตพื้นที่ฯยังไม่มีความเหมาะสมจนทำให้เกิดปัญหา เรื่องการบริหารจัดการ ซึ่งคิดว่าเมื่อปรับโดยให้ยึดตามเขตจังหวัดน่าจะมีความคล่องตัวมากขึ้น แต่ในส่วนของการจัดสรรงบประมาณนั้นจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงยังคงเดิมทุกประการ เช่นเดียวกับจำนวนโรงเรียน จำนวนบุคลากรที่มีอยู่ในพื้นที่เดิมก็ไม่เปลี่ยน เพียงแต่ทำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อดูแลโรงเรียนที่ถูกทอดทิ้งได้อย่างทั่วถึง
ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์ 5 ตุลาคม 2554
'วรวัจน์'สั่งรื้อเขตมัธยมยึด'จว.'แทนยกเหตุคร่อมจังหวัดดูแลไม่ทั่วสพฐ.เล็งเพิ่มตำแหน่งผอ.สพม.
เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม รายงานข่าวจากกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า นายวรวัจน์เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) ได้มีแนวคิดให้ปรับปรุงเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาใหม่ จากเดิมที่มี 42 เขต จะให้ปรับโดยยึดเขตจังหวัดแทน เพื่อความสะดวกในการบริหารจัดการในเขตพื้นที่การศึกษา ซึ่งขณะนี้นายวรวัจน์ได้สั่งการให้นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ไปดำเนินการแล้ว
ด้านนายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการ กพฐ. กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้มอบให้สำนักพัฒนาระบบบริหารงานบุคคลและนิติการ (ก.พ.ร) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)ไปศึกษาว่าจำนวนเขตพื้นที่การศึกษาจะออกแบบอย่างไรเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ จากนั้นจะสรุปข้อมูลและข้อเสนอให้ที่ประชุม กพฐ. และที่ประชุมคณะกรรมการสภาการศึกษา (สกศ.)พิจารณาตามลำดับ ในฐานะผู้มีอำนาจพิจารณาโดยตอนนี้ สพฐ.จะต้องพิจารณาโดยยึดหลักที่ว่าจะทำอย่างไรให้การบริหารงานในเขตพื้นที่การศึกษามีประสิทธิภาพโดยไม่เพิ่มค่าใช้จ่าย ไม่เพิ่มบุคลากร แต่มีเขตพื้นที่การศึกษาที่เพียงพอในการปฏิบัติงาน เพราะปัญหาของการมีสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) ที่คร่อมจังหวัด ได้ก่อให้เกิดปัญหาช่องว่าง คือ โรงเรียนที่อยู่ในเขตพื้นที่การศึกษาที่ไม่ได้เป็นที่ตั้งของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) จะไม่ได้รับการดูแลเท่าที่ควร ดังนั้น จะตั้งประเด็นนี้ไปพิจารณาในการปรับเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา
เลขาธิการ กพฐ.กล่าวต่อว่า หากจะมีการปรับเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาตามเขตจังหวัดนั้น อาจจะเพิ่มเฉพาะตำแหน่งของผู้อำนวยการสพม.เท่านั้น ส่วนบุคลากรใน สพม.นั้น อาจจะเกลี่ยหรือกระจายออกไปใน สพม.ใหม่ ทั้งนี้ สาเหตุที่นายวรวัจน์มีแนวคิดดังกล่าวเพราะว่าดูแลไม่ทั่วถึง โดยเฉพาะเขตพื้นที่การศึกษาที่คร่อมจังหวัดที่มีอยู่จำนวนมาก ส่วนกรณีของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา(สพป.) ทั่วประเทศนั้น หากมีการพิจารณาทบทวน สพม.แล้ว ก็ต้องพิจารณากันใหม่เช่นเดียวกัน
ด้านนายธวัชชัย พิกุลแก้วผู้อำนวยการ สพป.กาญจนบุรี เขต 4 ในฐานะนายกสมาคมผู้บริหารเขตพื้นที่การศึกษาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เห็นด้วยกับแนวคิดของนายวรวัจน์ ที่จะให้ปรับเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาตามเขตจังหวัด เพราะเคยเสนอแนวคิดนี้มาแล้วในสมัยที่มีการจัดตั้งเขตพื้นที่ศึกษามัธยมศึกษาในช่วงแรก ซึ่งการยึดเขตจังหวัดนั้นจะสะดวกในการบริหารจัดการและยังสะดวกกับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในการติดต่อกับ สพม. เพราะในปัจจุบันหลายจังหวัดไม่มีสพม.ตั้งอยู่ เวลาติดต่อราชการต้องเดินทางไปอีกจังหวัดหนึ่ง ส่วน สพป.นั้น ส่วนตัวเห็นว่าเหมาะสมแล้ว ไม่ควรจะปรับอะไรใหม่
ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน