เพลงกล่อมเด็กประจำภาคอีส่าน
เพลงกล่อมเด็ก
เพลงกล่อมเด็กเป็นเพลงที่ใช้เนื้อร้องเพื่อกล่อมเด็กให้นอนหลับหรือหายโยเย จึงมีท่วงทำนองการขับที่ช้างๆ เนิบๆ เพื่อชวนให้ง่วงนอน เพลงกล่อมเด็กเป็นการถ่ายทอดความอาทรห่วงใยออกมาทางเสียง เพลงกล่อมเด็กมีประโยชน์ในด้านจิตวิทยา คือสามารถช่วยให้เด็กเกิดความอบอุ่นใจ และเสียงเพลงยังตอบสนองความต้องการความรักของเด็ก ซึ่งจะช่วยให้เด็กมีจิตใจที่มั่นคง เมื่อเจริญเติบโตขึ้นและซึมซับคุณธรรม ตลอดจนวิถีชีวิตตามที่ปรากฏในเพลง อีกทั้งยังช่วยให้เด็กคุ้นเสียงมนุษย์ซึ่งเป็นโอกาสอันดีสำหรับการเรียนรู้ภาษา
เพลงกล่อมเด็กนอกจากจะใช้กล่อมให้นอนแล้ว ยังเป็นการแสดงออกทางอารมณ์ของผู้ขับร้อง โดยมิได้มุ่งตกแต่งถ้อยคำให้สละสลวย แต่เป็นการพรรณนาออกมาจากส่วนลึกของจิตใจ ด้วยเหตุนี้บางครั้งเพลงกล่อมเด็กกลายเป็นวิถีทางหนึ่งที่ให้ผู้ขับร้องได้ระบายความคับข้องใจ
เพลงกล่อมเด็กแบ่งเป็น ๒ ประเภท คือ
๑. เพลงกล่อมเด็กที่มีเนื้อหาเกี่นวกับเด็ก มักเน้นให้เห็นความรักความเอาใจใส่ของพ่อแม่ต่อลูกของตน
๒. เพลงกล่อมเด็กที่มีเนื้อหาไม่เกี่ยวกับเด็ก เพลงเหล่านี้มักเป็นเนื้อเรื่องเกี่ยวกับการบรรยายสภาพความเป็นอยู่ หรือเกี่ยวกับการระบายความคับแค้นใจของผู้ขับร้อง หรือเกี่ยวกับคติสอนใจต่างๆ เพลงกล่อมเด็กประเภทนี้ เนื้อหาจะเกี่ยวข้องกับผุ้ใหญ่ที่อยู่รอบข้างผู้ขับกล่อมมากกว่าเด็กที่นอนในเปล วึ่งจะฟังเพลงท่วงทำนองขับกล่อมช้าๆ ชวนให้นอนหลับ
เพลงกล่อมเด็กของภาคอีสาน ภาคอีสานเป็นดินแดนที่ราบสูงมีเทือกเขากั้นอยู่ ทำให้การคมนาคมติดต่อกับภาคอื่นไม่สะดวก ลักษระทางเศรษบกิจที่ปรากฏอยู่ในเพลงกล่อมเด็กจึงยังเป็นการแลกเปลี่ยน หรือหาของป่าเพื่อการดำเนินชีวิตมากกว่าการค้าขาย เพราะในเพลงกล่อมเด็กบอกว่าแม่ไปทำไร่ ไปพบไข่ (แสดงว่าไม่ได้เลี้ยง) จะเอากลับมาฝากลูก แต่กลัวไข่จะแตก วิธีที่ดีที่สุดที่จะไม่ให้ไข่แตกคือ ทำให้สุกเสียก่อน แต่ที่ไร่ไม่มีภาชนะหุงต้ม ก็ต้องใช้วิหมกไข่ (คือเอาใบไม้ห่อไข่ให้มิด ใส่น้ำเล็กน้อยกันม่ให้ไข่ระเบิดเวลาร้อนจัด แล้วหมกในขี้เถ่าร้อนๆ ไข่ก็จะสุก) หรือเมื่อแม่ช้อนปลาได้ ถ้าจะเก็บไว้ไม่ให้เน่าก็ต้องจี่ (คือการก่อไฟจนฟืนกลายเป็นถ่านแดง เอาปลาวางบนถ่านนั้นจนสุก) การหมกและการจี่เป็นวิธีการทำอาหารแบบดั้งเดิมไม่ต้องอาศัยภาชนะใดๆ ในเพลงกล่อมเด้กยังแสดงให้เห็นถึงบทบาทของผู้หญิงอีสาน ที่มีหน้าที่นอกจากหาอาหารมาเลี้ยงครอบครัวแล้ว ยังมีหน้าที่ทำเครื่องนุ่งห่มด้วย เพราะมีการปลูกหม่อนไหมสำหรับการทอผ้า
ซึ่งอีสาน เป็นดินแดนที่กว้างขวางและมีประชากรมากที่สุดในบรรดา 4 ภาคของไทย เพลงกล่อมลูกจึงมีหลายสำเนียง ถ้าเป็นอีสานตอนเหนือจะมีสำเนียงคล้ายลาว ถ้าเป็นอิสานตอนใต้จะมีสำเนียงคล้ายเขมร แต่เพลงกล่อมลูกที่แพร่หลายและยอมรับว่าเป็นเอกลักษณ์ของอีสานจะเป็นสำเนียงอีสานตอนเหนือ และมักจะขึ้นต้นด้วยคำว่า "นอนสาหล่า" หรือ "นอกสาเดอ" หรือ "นอนสาแม่เยอ" มีทำนองลีลาเรียบง่ายช้าๆ และมีกลุ่มเสียงซ้ำๆ กันทั้งเพลงเช่นเดียวกับภาคเหนือ การใช้ถ้อยคำมีเสียงสัมผัสคล้ายกลอนสุภาพทั่วไป และเป็นคำพื้นบ้านที่มีความหมายในเชิงสั่งสอนลูกหลานด้วยความรักความผูกพัน
จะประกอบด้วย 4 ส่วนเสมอ คือ ส่วนที่เป็นการปลอบโยนการขู่และการขอโดยมุ่งให้เด็กหลับเร็วๆ นอกจากนี้ก็จะเป็นคำที่สะท้อนภาพวัฒนธรรมความเป็นอยู่ ทัศนคติ อุดมคติ ของคนในท้องถิ่น อันช่วยให้เกิดความเข้าใจความเป็นมาของวัฒนธรรมเป็นอย่างดี พร้อมทั้งทางด้านจิตใจและด้านการศึกษาของชาติ
เพลงกล่อมเด็กเป็นเพลงพื้นบ้านที่พร้อมด้วยสาระและความบันเทิง คือเพลงพื้นบ้านอีสาน มีลักษณะเด่นชัดกับการขับร้องอันเป็นธรรมชาติ บ่งบอกความจริงใจ ความสนุกสนาน และความสอดคล้องกลมกลืนกับเครื่องดนตรีประจำท้องถิ่น คือ แคน แม้การขับกล่อมลูกซึ่งไม่ใช้เครื่องดนตรีใดๆ ประกอบ ก็สื่อให้ผู้ฟังรู้ทันทีว่าเป็นเพลงของภาคอีสาน
ตัวอย่างเพลงกล่อมเด็กประจำภาคอีสาน
บทที่ ๑
อื่อ...อื้อ...อื้อ...นอนสาเด้อหล่าหลับตาแม่สิกล่อม นอนตื่นแล้วเจ้าจั่งแอ่วกินนม แม่ไปไฮหมกไข่มาหา แม่ไปนาจี่ปลามาป้อน แม่เลี้ยงม่อนอยู่ในป่าสวนมอน นอนตะแคงกะอยู่กกไม้เนิ่ง ฟังเสียงเอิ้นกะอ้ายบ่าวสิลา เพิ่นไปนาจับอึ่งมาแล้ว จับอึ่งแล้วเลี้ยงวัวเลี้ยงควาย ควายกูเสียอีแม่กู่ด่า เต้นเข้าป่าเห็นนกแจ้นแว้น แจ้นแว้นเอ้ยเห็นความยกู่บ่อเห็นบ่อแท้จักว่าโต๋ได๋ อื่อ...อื้อ...อื้อ...
บทที่ ๒
อื่อ...อื้อ...อื้อ...นอนสาเด้อหล่าหลับตาแม่สิกล่อม นอนแต่เซ่าเจ้าอย่าติงคิง นอนจริงจริงหลับตาจ้อยจ้อย ลูกอ่อนน้อนหลับแล้วแม่สิกวย เขาขายกล้วยแม่สิซื่อให้กิน อย่าสุติงนอนสาลูกแก้ว นอนอู่แก้วในอู่สายไหม แม่สิไกวไปมาไวไว นอนอู่ไทยกวยไปโตนเต้น กวยโอนเอ้นหลับแล้วอย่าติง อื่อ...อื้อ...อื้อ...
บทที่ ๓
นอนสาหล่าหลับตาแม่กล่อม นอนตื่นแล้วจั่งหลุกกินนม กินนมไฝ่บ่ปานนมแม่ กินนมแม่มันแซบมันหวาน มันหวานลงหวานลงคือกล้วยหวานจ้วยๆใส่ปากคำแพง เอ้อ ฮะ เอ้อ ฮะ เอ้อ ฮะ เอ้อ ๆ แม่ไปไฮ่เอาไข่มาหา แม่ไปนาเอาปลามาป้อน แม่เลี้ยงม้อนอยู่ในสวนมอน เอ้อ ฮะ เอ้อ ฮะ เอ้อ ฮะ เอ้อ นอนสาหล่าหลับตาแม่ชิกล่อม ขดอ้อมป้อมนอนแล้วอย่าตีง มิดอิ้งติ้งอย่ากวนอย่าแอ่ว นอนตื้อแล้วจังลุกกินนม เอ้อ ฮะ เอ้อ ฮะ เอ้อ ฮะ เอ้อ
บทที่ ๔
เอ้อ ฮะ เอ้อ ฮะ เอ้อ ฮะ เอ้อ นอนหนูนอนแม่จะร้องเพลงกล่อมให้เสียงดัง ๆ หนูนอนฟัง ฟังแล้วหนูจงนอนสาหล่า หลับตาแม่สิกล่อม คันแม่นนอนอู่เต้งนอนเล้งอู่ไหม นอนอู่ไหมสิไหลลงอู่แก้ว นอนอู่แก้ว นอนแล้ว แม่สิไกว อือ อื้อ แม่ไปไฮ่ สิเอาไข่มาหา พ่อไปนาสิเอาปลามาป้อน นอนสาหล่าท่ากินปลานำพ่อ รอท่ากินไขต้ม คอยท่าแม่มา อือ อื้อ ไผบ่อนอนแมวโพงสิขบแก้ม ฝาบ่อแอ้มแมวเป้าสิเขี่ยนตา แมวโพงเป้าสิขบกัน ม่าว มาว แม่สิฝั่นเซือกค่าวไปค้องคอแมว อือ อื้อ กุดกรู ๆ กะหัวนาข้าวก่ำ ค่ำมาแล้วสิพาน้องเมือนอน นกเขาน้อยกะยังนอนนำแม่ คำเอย แพรและผ้าสิหาตุ้มกะบ่อมี อือ อื้อ ตุ๋หลูหล่านอนสา แม่สิกล่อม ห่มผ้าอ้อม นอนพร้อมแม่สิไกว นอนอู่ผ้า สองวาแม่เจ้าต่ำ คำเอย นอนอู่ไม้ สองปล้องอีพ่อสาน อือ อื้อ
บทที่ ๕ หมกไข่ไก่
เอ่ เห่ เอ้ เห่ เอ่ แม่ไปไฮ่หมกไข่ไก่มาหา แม่ไปนา หมกไข่ปลามาป้อน แม่ไปเลี้ยงม้อนเก็บบักมอนมาส่ง นอนสาแม่เด่อ หลับตาสาแม่เด่อ
บทที่ ๖ แมวโพง
ขั่นว่านอนสาหล่า หลับตาเอยแม่สิก่อม ขั่นว่าอ๋ออ่อมอ้อยแมวน้อยสิตอดตา อั๋นว่าแมวโพงฮ้องในเอือนไต้ตะหล่าง
สิมาขบ แจ่มเจ้าบุตรตาแก้วแม่บ่นอน นอนสาหล่าคำเอยแม่สิก่อม ขั่นว่านอนอิ่มแล้วบุตรตาแก้วจังตื่นมา....นอ......
บทที่ ๗ เตะสองขา
เตง เล็ง เต่ง เล็งเตะเล็งเต่ง ขั่นพู่ได๋มันเก่งให้มันเต้นเข่ามา แม่สิจับสองขา ให้ดากซันเจ่งเด่ง นอนอู่ไหมไห่เจ้านอนสาเด้อหล่า บักนายเอย แม่สิก่อมคำเอ๋ย ไห่เจ้านอนอู่ไหมใหลลงอู่แก้วนอนแล้วแม่กวย แม่ไปไฮ่กะยังบ่ทันมา แม่ไปนายังมาบ่ทันฮอด ขั่นแม่มาฮอดแล้วบักนายน้อยตื่นกินนม....
บทที่ ๘ ลูกกำพ้า
บัดนี่มาจักก่าวถึงลูกกำพ้าอนาถาบ่มีพ่อก่อนแห หาแพและผ่าผืนสิตุ้มห่มหนาว ขั่นว่าอาวไห่แพวาเดี๋ยวพอได้ตุ้มแตน้องโต๋เอื้อย กะอยุ่เปือยเปือยกะเปือย บ่ได่แหลฝนแฮงตกฟ้าแฮงฮ้อง กะบองไต้กะบ่มี ไห่เจ้านอนสาเด้อหล่านอนสาอย่าสิอ้อนอู่ ขั่นแม่นลูกพู่ฮู้ นอนแล้วอย่าแอ่ววอน ไห่เจ้านอนสาเด้อหล่า นอนสาอย่า สิแอ่วแนวเฮาเป็นกำพ้า ลุงป้าเพ
บทที่ ๙ นอนเด้อหล่า
นอนเด้อหล่าหลับตาเเม่สิกล่อม เจ้าบ่นอน บ่ไห้กินกล้วย เเม่ไปห้วย หาซ่อนปลาปู เก็บผักติ้ว มาไส่เเกงเห็ด
ไปไส่เบ็ดเอาปลาข่อใหญ่ อย่าร้องให้เเมวโพงสิจ๊กตา เจ้านอนซ่าเเมวโพงสิจ๊กหำ เจ้านอนค่ำแมวโพงสิจ๊กก้น
ติง ลิง ติ่ง ลิง ติ้ง ลิง ติง สิงลูกเเก้วนอนนานำพ่อ สิงลูกเเก้วกินเเล้วจั่งนอน ติง ลิง ติ่ง ลิง ติ้ง ลิง ติง
ลิงตกส่าง หางซันจิ่งดิ่ง ตกก้นคุ อย่าขี้กลางคืน ขี้กลางคืน ย่านเสือมาพ่อ ขี้มื่อเช้า ย่านเเมวเป้ามาเห็น
ยามกลางเวน จั่งขี้จั่งเหยี่ยว เอ้อ เฮอ เออ เฮอะ เอ้อ เฮอะ เออ... นอนสาหล่าหลับตาแม่สิกล่อม
www.thaigoodview.com/node/18114
บทที่ ๑๐ น่อนสาหล่า
นอนสาหล่า หลับตา แมสิก็อม
เอ๋าะ ออม อ้อย แม่วน่อยตอดนวยต่าด่ำมั่นเด้อ....
แมไป่ไฮกะสิไป่หาปล่า
แมไป่น่าสิหาของม่าฝาก
บักหมากหว่า บักมัง บักหวาย
เอ๋าบักไฟ่ บักแงว บักส่าน
แต่งค่าฮ่านสิเอ่าม่าจิ้มแจว
บักเล็บแม่วกะสิให่ลูกหล่า
คั่นได้ปล่าสิเอ่าม่าต่ำปน
เข่าหน่าฝนปล่าไคเต่มท่อง
แมสิจ้องเอ่าม่าให่หนู
ได้กะปู่ แมสิเอ่าม่าลาบ
นกกระจาบเข่าม่าจิ๋กกิ่นเข่า
แมสิเอ่าตั๋บมั่นม่าปิ้ง
บักหัวลิ่ง แมสิให่กิ่นหวาน
ยอดบักต่าลกะสิม่าจิ้มแจว
กั๋บม่าแล่วสิม่าอุ้มลูกหล่า
กั๋บจากน่าสิพ่าค่วยเข่าคอก
ยอดผั๋กหนอกเอ่าม่าจิ้มแจวบ่อง
บทที่ ๑๒ เพลงแม่หม้ายกล่อมลูก
นอนสาหล่าหลับตาแม่สิกล่อม นอนอู่แก้วนอนแล้วแม่สิกวย นอนสาหล่ากัลยาน้อยอ่อน แม่สิสอนลูกแก้วจอมสร้อยให้ค่อยฟัง เป็นคนนี่ยำเกรงผู้ใหญ่ คารวะละผู้เฒ่าผ่านใกล้หมอบคลานหย่างใกล้เผิ่นให้เจ้าเอิ้นขอทาง เผิ่นเอิ้นขายเจ้าอย่าได้เว้าหยาบ เป็นคำบาปบ่จบบ่งาม กริยาเลวทรามขายหน้าพ่อแม่ ลูกขี้แพ้พ่อแม่อยากอาย เกิดเป็นชายวิชาเป็นทรัพย์ เผิ่นจั่งนับถือหน้าถือตา บรรพชาสมบทคือบวช ให้หมั่นกวดศึกษาเล่าเรียน การทำเพียรกำจัดกิเลศ บ่เป็นเหตุเสียชาติตระกูล ลูกหล่าแม้ให้มีใจกรุณา ใจเมตตาเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ คนดีแม่ให้มีใจก้วงขวง คนทั้งปวงละสิยอยกเจ้า ยามกินเข้าให้คิดถึงคุณควาย พระอิศวรเผิ่นจึงมาผายโผด บ่เป็นโทษกายวาจาใจเว้านำไผเผิ่นก้อชมชื่น ไปบ้านอื่นสิมีผู้บูชา เทวดารักษาปกป้อง ฝูงพี่น้องยอย่องสรรเสริญ อื้อ ฮือ อือ อื้อฮือ อือ ฮือ อื้อ อือ ... เจ้าหากแม่นหลานปู่ละคนฮู้ผู้ดี แนวเศรษฐีลังกามาเกิด ผู้ประเสริฐโตเจ้าจงนอน ให้เจ้าฟังคำ สอนละพุทโธโอวาท ฝูงนักปราชญ์เอิ้นผู้ฟังธรรม รัตนังอุควรคำมาก เหตุยุ่งยากนอนแล้วบ่หนี สวัสดีนอนหลับคนตื่น คันบวชเข้าในศาสนา เป็นบุญญาถมคุณพ่อแม่ พ่อแม่เฒ่าให้เลี้ยงรักษา ยามเพิ่นมรณาทำบุญส่งให้ ลูกจึงได้ซื่อว่าคนดี เอ่อ เอ้อ เออ เอ้อ เอ่อ เออ... อื้อ อือ อือม์ นอนสาเด้อหล่าหลับตาแม้สิกล่อม แม่สิไปเข็นฝ้ายเดือนหงายเว้าผู้บ่าว แม่สิเอาพ่อน้ามาเลี้ยงให้ใหญ่สูง แนวโตเป็นกำพร้าอนาถาบ่มีพ่อ ทุกข์แท้น้อลูกแก้วแนวเจ้าพ่อบ่มี พ่อตายแล้วซิ่นแม่ขาดคาขา พ่อตายแล้วนาก็ขาดเข้าบ่มีเสาสิค้ำขื่อแม่เด้ ความทุกข์มาสู่มื้อลุงป้าบ่ว่าดี ตั้งแต่ก่อนก่อนกี้ตั้งแต่พ่อเจ้ายังมี ไผก็ดีปานหยังหมู่ฝูงลุงป้า อาว์อาพร้อมถนอมดีเกื้อกล่อม พ่อบ่มีเพิ่นบ่เว้าลุงป้าบ่ว่าหลาน พริกกะอยู่เฮือนเหนือ เกลือกะอยู่เฮือนใต้ หัวสิงไคอยู่บ้านเผิ่น ขึ้นเฮือนลุงเพิ่นก็เว้า ขึ้นเฮือนอาว์เพิ่นก็เว้า ขึ้นเฮือนย่ากะบ่ได้กลัวย่านแต่แก่มกิน นอนสาหล่านอนอู่สายปอ นอนกะทอ ยาฮ้างสงนางบ่มีพ่อ เชือกอู่ขาดฮ้อยต่อบ่ติดกัน แม่นไผน้อสิมาฝั้นเลนปอเป็นเชือกอู่ ลูกแม่เอย นอนสาหล่าหลับตาแม่สิกล่อม นอนอู่ฝ้ายป้ายใส่อู่ไหม นางสายใจนอนสาเจ้าอย่าตื่น ฮอดมื้ออื่นยาม เซ้าแม่สิไป แม่สิไปหาไม้หลัวฟืนคั่นมาผ่า เพราะแม่เป็นแม่ฮ้างผัวสิเลี้ยง... แม่นบ่มี ผัวซิซ้อน แม่นบ่มี... เอ้ย.... นอ