เนื่องในวโรกาสวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา ๘0 พรรษา เราในฐานะคนไทยคนหนึ่งควรร่วมกันทำความดีเพื่อให้พ่อหลวงของเรามีความสุข สบายใจว่าลูกๆของท่านเป็นคนดี นอกจากนี้แล้วยังเพื่อตัวเราทุกคนด้วย
คนดี เป็นทรัพยากรบุคคลที่มีค่าของสังคม ดังนั้นทุกคนจึงอยากจะเป็นคนดี มีเยาวชนของชาติเป็นจำนวนมากอยากจะทำความดี แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นทำความดีอย่างไร จะรอให้คนทำของตกแล้วเก็บไปคืนเจ้าของรึก็นานๆ จะมี สักรายหนึ่ง การทำความดีนั้นนอกจากที่กล่าวมาแล้วเราทุกคนยังสามารถเริ่มต้นได้ง่ายๆ เริ่มจากสิ่งที่ใกล้ๆตัว คือการเป็น ลูกที่ดี ถ้าเราสามารถเป็นลูกที่ดีได้ ก็สามารถเป็นคนดีได้เช่นกัน ถ้าเป็นลูกที่ดีไม่ได้ ก็เป็นคนดีไม่สำเร็จ การเป็นลูกที่ดีนั้นเราต้องเห็นความสำคัญของพ่อแม่ของเรา ตอบแทนพระคุณท่าน ไม่ต้องเป็นเรื่องที่ยากลำบากอะไรมาก เพียงแต่เราช่วยท่านในสิ่งที่เราสามารถทำได้ เช่น การช่วยท่านแบ่งเบาภาระในการทำงานบ้าน และการที่เราตั้งใจเรียน เชื่อฟังคำสั่งสอนของท่าน นอกจากการเป็นลูกที่ดีแล้ว เราต้องทำความดีอื่นๆด้วย คือ เราต้องพยายามรักษาศีลให้ได้ ซึ่งก็คงเป็นเรื่องยากสำหรับใครหลายๆคน แต่คงไม่ยากเกินความพยายามของเรา เริ่มจากการฝึกตนเองให้มีเมตตากับสัตว์โลกทั้งหลาย ไม่รังแกสัตว์ ซึ่งนอกจากจะเป็นการทำความดีแล้ว ยังเป็นการกล่อมเกลาจิตใจของเราให้มีความอ่อนโยน เห็นค่าของทุกๆชีวิตที่อยู่ร่วมโลกใบเดียวกัน ประการที่สองคือการไม่ลักขโมยสิ่งของ เพราะเราต้องพึงระรึกอยู่เสมอว่าของๆใคร ใครก็รัก ประการที่สามคือการมีความซื่อสัตย์ ทั้งต่อเพื่อนๆ คุณครู พ่อแม่ ไม่โกหกหลอกลวง ไม่พูดเรื่องใหญ่ให้เป็นเรื่องเล็ก เรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ ไม่ยกย่องหรือสนับสนุน เห็นดีตามผู้ที่พูดปด ไม่พูดส่อเสียด การที่พูดยุยงให้คนแตกความสามัคคีกัน การพูดทำลายคนทั้งสองฝ่าย เป็นนิสัยของบุคคลที่มีนิสัยของสัตว์โลก คือชอบดูความเดือดร้อนแตกแยกของคนอื่น ไม่พูดจาด้วยถ้อยคำหยาบคายซึ่งจะเป็นผลเสียต่อผู้พูดโดยตรง เป็นการแสดงกิริยาที่ไม่ดี ไม่พูดเพ้อเจ้อ พูดจาไม่เป็นสาระซึ่งไม่เป็นประโยชน์อันใดเลยแก่ทั้งผู้พูดและผู้ฟัง ประการที่สี่การหลีกเลี่ยงจากอบายมุขทั้งปวง ซึ่งเป็นบ่อเกิดแห่งความวิบัติ เราทุกคนย่อมตระหนักดีถึงผลเสียต่างๆในการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับอบายมุข ซึ่งส่งผลเสียต่อตัวของเราทั้งร่างกายและจิตใจ ครอบครัว และประเทศชาติ
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว นี้เป็นความจริงธรรมดาที่จะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ เราปลูกต้นมะม่วงก็จะออกผลมาเป็นมะม่วง จะเป็นผลมะพร้าวไปไม่ได้ แต่การทำความดีนั้นบางคนอาจเห็นว่าเป็นเรื่องยาก บางคนอาจพาลเห็นว่า ทำทำดีได้ดีมีที่ไหน ทำชั่วได้ดีมีถมไป คนที่คิดอย่างนี้ เป็นคนที่คิดผิดไปมากที่เดียว คนที่พูดแบบนี้เห็นทีว่า จะไม่เคยทำความดี การทำความดีนั้นเมื่อผู้ที่จะกระทำมีความคิดที่จะทำก็มีความสุขแล้ว เป็นประโยชน์ในเบื้องต้น เมื่อกระทำแล้วก็เกิดผลโดยทันทีคือ จะไปไหนก็สามารถไปได้โดยสบายใจ เพราะมีคนอยากให้อยู่ ทำอะไร ก็สามารถสำเร็จได้โดยง่าย เพราะมีคนอยากช่วยเหลือ
การทำความดีนั้น จะต้องทำให้ พอดีด้วย คำว่าพอดีนี้หมายความว่า ต้องให้ถูกกาลเทศะ โอกาสที่เหมาะสมด้วย อย่าทำดีเพื่อเอาหน้า หรือออกหน้าออกตาเกินไป การทำความดีนั้นเป็นของดีแต่ถ้าทำอะไรที่เกินเลยไป ก็ไม่ดี เพราะคนในสังคมมีหลายประเภท อย่างที่หลวงวิจิตรวาทการท่านว่า
"อันที่จริงคนเขาอยากให้เราดี
แต่ถ้าเด่นขึ้นทุกทีเขาหมั่นไส้
จงทำดีแต่อย่าเด่น จะเป็นภัย
ไม่มีใครอยากเห็นเราเด่นเกิน"
ตามที่กล่าวมาแล้วว่า "ใครทำกรรมอันใดไว้ จะดีหรือชั่วก็ตาม จะเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น" เพราะอะไร ก็เพราะว่าทำความดีมันจะดูดดีเข้ามา ทำความชั่วมันก็จะดูดชั่วเข้ามาเช่นกัน ตามกฎของแรงดึงดูดในทางวิทยาศาสตร์นั่นเอง เช่น แม่เหล็กมันก็จะดูดได้แต่เหล็ก จะไม่ดูดไม้หรือวัตถุอื่น ๆ เราทำแต่ความดีมีความซื่อสัตย์สุจริตขยันขันแข็งในการทำงาน ไปทำงานที่ไหน บริษัทห้างร้านไหนก็ยินดีรับเข้าทำงานทั้งนั้น นี่คือ ดีดูดดี ดูดทั้งงาน ดูดทั้งเงิน ดูดเจ้านายผู้บังคับบัญชาให้มารักใคร่เอ็นดู อันเป็นผลของการทำความดีนั่นเอง ในทางตรงกันข้าม คนที่สร้างความชั่วไว้มาก ๆ ก็เป็นแรงดึงดูดเหมือนกัน แต่มันดูดเอาสิ่งที่ไม่น่าปรารถนาให้มาทำลายตน เช่น ดูดเอาความเกลียดชัง คุกตะราง ดูดลูกปืน ลูกระเบิด เป็นต้น บางคนที่ร้ายมาก ๆ สามารถดูดเอาตำรวจทั้งโรงพักให้วิ่งตามไปจับ ไปทำลาย ก็มี นี่คือ ชั่วดูดชั่ว ซึ่งเป็นผลของการทำความชั่ว
ดังนั้น เราทั้งหลายไม่ว่าจะอยู่ในวัยใด ก็ตาม จะเชื่อเถิดว่า ถ้าได้กระทำความชั่วแล้วจะไม่ได้รับผลชั่วที่เป็นบาปเป็นทุกข์นั้นเป็นไปไม่ได้ จะต้องได้รับแน่ ๆ เร็วหรือช้าเท่านั้น ถึงแม้ชาตินี้ผลกรรมชั่วยังไม่ให้ผลก็จะต้องได้รับในชาติต่อ ๆ ไปอย่างแน่นอน
เพราะฉะนั้น ยังไม่สายเกินไปที่จะเริ่มทำความดี ถ้าได้ประพฤติปฏิบัติโดยสม่ำเสมอจนเป็นปกตินิสัยแล้ว นั่นก็คือเราได้พัฒนาจิตของเราให้สูงขึ้น เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกายและจิตใจ และจะเป็นคนดีได้ตลอดไปด้วย
การกระทำอย่างไรที่เป็นความดี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงแสดงไว้เป็นแบบอย่างแก่เราชาวไทยไว้แล้ว โดยพระองค์ได้ประพฤติตนเป็นแบบอย่าง วิธีการต่างๆนั้น ขอเพียงแต่เราทั้งหลายพยายามกระทำตามแม้ไม่ได้เสมอเหมือน เพียงได้ส่วนหนึ่งก็นับว่าดีแล้ว การทำความดีที่กล่าวมาข้างต้นนั้น เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการทำความดี เราทุกคนสามารถทำความดีได้ทุกวัน นับตั้งแต่เรื่องง่ายๆใกล้ตัว การทำความดีเป็นเรื่องที่ไม่ยากเลยหากเราพยายาม เราทุกคนจะดำรงชีวิตอยู่ในโลกร่วมกับคนอื่นอย่างสงบสุขด้วยการทำแต่ความดี ทั้งทางกาย ทางวาจาและใจ รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา มีความเมตตากรุณา ซื่อสัตย์สุจริตต่อกัน ไม่อาฆาตพยาบาทจองเวรกัน ละการใช้อารมณ์และใช้เหตุผลตัดสินปัญหาข้อขัดแย้งต่าง ๆ ก็จะทำให้เราดำรงชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข สมความปรารถนาด้วยกันทุกคน และอย่างลืมว่า ......
ความดีไม่มีขาย
อยากได้ต้องทำเอง