“คำศัพท์” ถือเป็นปัจจัยสำคัญสู่การส่งเสริมทักษะด้านการฟัง พูด อ่าน และเขียน "ภาษาอังกฤษ" ยิ่งวัยเรียนมีคลังคำศัพท์ในความจำมากเท่าไหร่ ยิ่งสามารถหยิบจับมาใช้ได้สะดวกเท่านั้น แต่อุปสรรคส่วนใหญ่ที่หลายคนมักประสบจนพาลขี้เกียจเรียนรู้ไปเลย นั่นคือ “นึกศัพท์ไม่ออก” หรือ “แปลศัพท์ไม่ได้” ซึ่งแท้จริงแล้วปัญหาดังกล่าวแก้ได้ไม่ยาก เพียงฝึกฝนสม่ำเสมอด้วยเทคนิคต่อไปนี้
เรียนคำศัพท์จาก “ชีวิตประจำวัน” อาจเริ่มในสิ่งที่สนใจก่อน เช่น ฟังเพลง ดูหนัง หรือเมื่อพบข้อความตามสื่อต่าง ๆ ควรหมั่นอ่านอยู่ตลอดแม้ไม่รู้เรื่องทุกถ้อยคำ นอกจากจะช่วยสร้างความคุ้นเคยกับศัพท์มากมายแล้ว ยังเป็นการทบทวนความหมายของคำที่พบบ่อย ๆ ด้วย
เรียนคำศัพท์จาก “พจนานุกรม” โดยพกขนาดกะทัดรัดติดตัวไว้เปิดหาความหมายเมื่อเกิดข้อสงสัย ทั้งนี้ ควรเลือกใช้แบบอังกฤษ-อังกฤษ เพื่อฝึกทักษะการแปล หากมีตัวอย่างการใช้ศัพท์ด้วยจะดีทีเดียว
เรียนคำศัพท์จาก “กระดาษโน้ต” ด้วยการจดศัพท์ พร้อมคำแปลอย่างน้อยวันละ 10 คำ แล้วแปะไว้ในที่ ๆ มองเห็นได้ง่าย เช่น กระจกโต๊ะเครื่องแป้ง โต๊ะหนังสือ ตู้เย็น ผนังห้องนอน ฯลฯ โดยเมื่อกระทบสายตาเมื่อไหร่ให้ท่องเมื่อนั้น เป็นอีกหนึ่งเทคนิคช่วยจำได้ดี ขณะเดียวกัน ยังช่วยฝึกทักษะการเขียนอีกด้วย
เรียนคำศัพท์จาก “การจัดหมวดหมู่” โดยจำศัพท์ที่มีความสัมพันธ์กัน หรือมีความหมายตรงข้ามกัน จากนั้น ลองนึกถึงคำภาษาไทย แล้วแปลเป็นภาษาอังกฤษ ก่อนจะแต่งประโยค เพื่อฝึกการเรียบเรียงต่อไป
หลักการจำคำศัพท์ที่สำคัญอีกประการ คงต้องอยู่ที่ความขยัน และหมั่นทบทวน เพื่อประสิทธิภาพการเรียนรู้อย่างเห็นผลนั่นเอง.
ทีมเดลินิวส์ออนไลน์
ขอบคุณที่มาจาก เดลินิวส์