ก.ค.ศ.เตรียมประเมินสมรรถนะต่ออายุ หากพบความย่อหย่อนอาจไม่ได้ไปต่อ..ระบุประเมินวิทยฐานะครูทุกสังกัด นับแสนราย
นายอภิชาติ จีระวุฒิ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยถึงการประเมินคงวิทยฐานะของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่ได้รับวิทยฐานะครบ 5 ปีว่า ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครุและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) กำลังเร่งจัดทำหลักเกณฑ์ เพื่อนำเข้าพิจารณาในคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) วิสามัญ ในวันที่ 20 ก.ค.54 โดย ก.ค.ศ.จะต้องเร่งดำเนินการ เพราะเป็นผลประโยชน์ของประเทศชาติ ซึ่งจะได้ทราบว่าข้าราชการครูฯ เหล่านี้มีความพร้อมและมีความรู้ความสามารถที่จะดำรงวิทยฐานะต่อไปหรือไม่ หากประเมินแล้วพบว่ามีความย่อหย่อนก็ไม่สมควรจะได้รับเงินวิทยฐานะต่อไป ทั้งนี้ มิใช่ว่าผ่านประเมินครั้งเดียวแล้วจะได้เงินวิทยฐานะตลอดอายุราชการ
"เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่ ก.ค.ศ. หรือผม หรือ รมว.ศึกษาธิการ คิดขึ้นมาเอง แต่เป็นกฎหมายที่ระบุให้ต้องมีการตรวจสอบว่า วิทยฐานะที่ได้รับไปนั้น เหมาะสมหรือไม่ ถ้าไม่ทำก็ถือว่าบกพร่องต่อหน้าที่ เพราะกฎหมายของข้าราชครูฯ แตกต่างจากกฎหมายของข้าราชการประเภทอื่น เมื่อครบกำหนดที่ได้วิทยฐานะแล้วต้องเข้ารับการประเมินใหม่อีกครั้ง ดังนั้นจะต้องเร่งดำเนินการโดยเร็ว เพราะหากล่าช้าและเมื่อครบรอบแล้วประเมินไม่ผ่าน แต่จ่ายเงินไปล่วงหน้าแล้วครูจะต้องจ่ายเงินคืนหลวงภายหลังจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ เพราะผู้ที่ครบรอบวิทยฐานะในทุกสังกัดมีจำนวนเป็นแสนคน"
ปลัด ศธ.กล่าวและว่า การประเมินวิทยฐานะข้าราชการครูฯ ไม่ต้องเตรียมอะไรมากมาย เพราะสามารถเข้าไปดูผลสัมฤทธิการสอน กระบวนการเรียนการสอน สมรรถนะในการจัดการเรียนการสอนได้เลย ส่วนผู้บริหารก็ดูสมรรถนะการบริหาร ศึกษานิเทศก์ ก็ดูสมรรถนะทางการนิเทศก์การศึกษา ซึ่งก็เป็นงานในหน้าที่ของทุกคนอยู่แล้ว
นายอภิชาติ ยังถึงประเด็นเรื่องการเร่งปรับปรุงหลักเกณฑ์การสรรหาผู้บริหารและรองผู้บริหารสถานศึกษา ซึ่งผ่านคณะทำงานแล้ว รอเพียงการพิจารณา อ.ก.ค.ศ.วิสามัญ ในวันที่ 20 ก.ค.54 ทั้งนี้เกณฑ์การสรรหา เดิมเป็นบัญชีรวมประถมศึกษากับมัธยมศึกษา แต่เกณฑ์ใหม่จะแยกออกมาชัดเจน บัญชีประถมฯ ก็บรรจุประถมฯ บัญชีมัธยมฯ ก็บรรจุมัธยมฯ นอกจากนี้ยังมีหลักเกณฑ์การโยกย้ายผู้บริหารสถานศึกษาต้องฟังเสียงประชาคมด้วย
ที่มา สยามรัฐ