นักวิทยาศาสตร์ระบุ อีโคไลตัวใหม่นอกจากจะผลิตสารพิษร้ายแรงได้ ยังสามารถฝังตัวในลำไส้ผู้ป่วย ซ้ำร้ายทนทานยาปฏิชีวนะได้สูง คาดใช้เวลานับเดือนกว่าจะหาทางแก้ได้
องค์การอนามัยโลกระบุว่า แบคทีเรียอีโคไลที่กำลังระบาดคร่าผู้ติดเชื้อชาวยุโรป 17 ราย และทำให้ล้มป่วยอีก 1,624 ราย เป็นเชื้ออีโคไลสายพันธุ์ใหม่ ด้านผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าแหล่งที่มาของโรคน่าจะอยู่ในเยอรมนีเอง
โดยปกติแบคทีเรีย "เอสเคอริเคียโคไล" หรืออีโคไล ไม่มีอันตราย แต่สายพันธุ์ใหม่ที่สังหารผู้ได้รับเชื้อในยุโรปนั้น มีชื่อสายพันธุ์ว่า "0104:H4" และจัดอยู่ในสายพันธุ์ที่สามารถผลิตสารพิษชิกะท็อกซิน
อีโคไลสายพันธุ์นี้สามารถฝังตัวเองในลำไส้ใหญ่แล้วผลิตสารพิษออกมาสู่ร่างกายเหยื่อ ทำให้มีอาการคลื่นไส้และท้องร่วง ไปจนถึงมีอาการ "เม็ดเลือดแดงแตก-ไตวาย" (เอชยูเอส) ซึ่งมีอันตรายถึงชีวิต
ดร. โรเบิร์ต ต็อกซ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเชื้อโรคที่แพร่กระจายผ่านอาหาร แห่งสำนักงานควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ ระบุว่า ขณะนี้ในเยอรมนีมีผู้ป่วยอาการเอชยูเอสทั้งหมด 470 รายแล้ว นับว่ามีจำนวนเป็น 10 เท่า ของการแพร่ระบาดเชื้ออีโคไลสายพันธุ์ใกล้เคียงกันในสหรัฐปี 2537
สถาบันพันธุกรรมวิทยากรุงปักกิ่ง ซึ่งจัดวางรหัสพันธุกรรมของเชื้ออีโคไลสายพันธุ์ใหม่ ชี้แจงว่า อีโคไลสายพันธุ์ใหม่นี้มีความทนทานต่อยาปฏิชีวนะ ดร.ต็อกซ์กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเหตุใดเชื้อสายพันธุ์จึงมีภูมิต้านทานยาสูง และแนะนำว่าไม่ควรใช้ยาปฏิชีวนะในการรักษาผู้ป่วย เพราะอาจจะทำให้เชื้อดื้อยามาขึ้น
การแพร่ระบาดของเชื้อโรคยังส่งผลต่อการค้าและทำให้เกิดความขัดแย้งในทวีปยุโรป ด้านรัสเซียได้สั่งแบนสินค้าพืชผักที่นำเข้าจากยุโรป ส่งผลให้สหภาพยุโรปวิจารณ์ท่าทีดังกล่าวและเรียกร้องให้ยกเลิกการแบนสินค้าโดยทันที ส่วนเยอรมนี ออกมาขอโทษสเปนหลังก่อนหน้านี้กล่าวหาว่าผักนำเข้าจากสเปนเป็นต้นเหตุการระบาด แต่ผลการพิสูจน์พบว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกัน
ขอบคุณที่มาจาก http://hilight.kapook.com/view/59371