Advertisement
คนจำนวนมากมักเข้า ใจผิดว่า โรคข้อเข่าเสื่อมเป็นโรคของผู้สูงอายุ แต่ความจริงแล้ว คนหนุ่มสาว โดยเฉพาะวัยทำงานก็มีความเสี่ยงเป็นโรคข้อเข่าเสื่อมเช่นกัน
หากไม่รู้จักถนอมร่างกาย รศ.นพ.พัชรพล อุดมเกียรติ ภาควิชาศัลยศาสตร์ ออร์โธปิดิกส์ คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เล่าถึงสาเหตุของอาการข้อเข่าเสื่อมว่า เกิดจากกระดูกอ่อนที่คลุมอยู่ บริเวณปลายข้อต่อหัวเข่าบางลง หรือผุลง จนปลายกระดูกเริ่มเข้าใกล้และเสียดสีกัน ทำให้เกิดอาการเจ็บเวลาเดิน หรืองอเข่า เริ่มเดินขาโก่งและในที่สุดก็กลายเป็นโรคข้อเข่าเสื่อม โดยทั่วไป โรคข้อเข่าเสื่อมจะพบมากในผู้สูงอายุ ตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป และผู้หญิงมีความเสี่ยงมากกว่าผู้ชาย เพราะกล้ามเนื้อแข็งแรงน้อยกว่า
|
|
|
“คุณหมอพัชรพล” ยังกล่าวเสริมว่า ปัจจุบันคนไทยมีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคข้อเข่าเสื่อม เพราะพฤติกรรมการกินที่เปลี่ยนไป
ทำให้คนไทยมีน้ำหนักตัวเฉลี่ยสูงขึ้น น้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น 1 กิโลกรัม จะทำให้มีน้ำหนักกดทับผ่านข้อเข่าเพิ่มขึ้น 4-7 กิโลกรัม และยิ่งมีแรงผ่านข้อเข่ามาก ก็จะยิ่งทำให้เพิ่มความเสี่ยงของโรคดังกล่าว แม้กระทั่งการใส่รองเท้าส้นสูงของสาวๆในวัยทำงาน ก็เป็นสาเหตุให้เกิดอาการข้อเข่าเสื่อมได้ เนื่องจากกล้ามเนื้อต้นขาต้องเกร็งตลอดเวลา ทำให้ข้อเข่าต้องรองรับน้ำหนักเพิ่มขึ้นมาก โดยสัญญาณอันตรายที่บ่งชี้ถึงการมาเยือนของโรคข้อเข่าเสื่อมคือ มีอาการเจ็บเวลาเดินติดต่อกันอย่างน้อย 2-4 อาทิตย์ ในระยะแรก เวลาเดินขึ้นลงบันไดจะรู้สึกเจ็บ ระยะต่อมาอาจมีอาการเดินธรรมดา ก็รู้สึกเจ็บ จนในที่สุดถึงขั้นเดินขาโก่ง หรือขาแยก
อย่างไรก็ดี “คุณหมอพัชรพล” บอกว่า แม้โรคข้อเข่าเสื่อมจะเป็นภัยเงียบที่น่ากลัว
แต่ปัจจุบันมีเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัยในการรักษา โดยรูปแบบการรักษามีหลายแบบด้วยกัน ขึ้นอยู่กับอาการและความรุนแรงของโรค ไล่ตั้งแต่การทำกายภาพบำบัด, บริหารกล้ามเนื้อขา, ทานยาบำรุงกระดูกอ่อน, ฉีดสารเพิ่มความหนืดของน้ำในข้อ ตลอดจนการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมในรายที่มีอาการรุนแรง คุณหมอยังอธิบายเพิ่มเติมว่า ในระยะ 5-6 ปีนี้ วิวัฒนาการทางการแพทย์ ในการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมได้ก้าวล้ำหน้าไปมาก เครื่องมือผ่าตัดก็ทันสมัยขึ้น มาก ทำให้ขนาดของแผลเล็กลง จากขนาด 17-25 ซม. เหลือแค่ 8-14 ซม. อาการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อก็ลดลงมาก และผู้ป่วยสามารถฟื้นตัวได้เร็วขึ้น ใช้เวลาราว 3-5 วัน ก็สามารถกลับบ้านได้
นอกจากนี้ เทคโนโลยีสมัยใหม่ยังมีความแม่นยำ เพราะมีเครื่องคอมพิวเตอร์นำร่องทำหน้าที่เหมือนนาวิเกเตอร์ ทำให้คำนวณองศาที่จะต้องผ่าตัดได้แม่นยำ
แม้เทคโนโลยีทางการแพทย์จะทันสมัยขึ้นเยอะ แต่ “คุณหมอพัชรพล” แนะนำว่า ทางที่ดีควรป้องกันตนเองจากโรคข้อเข่าเสื่อมตั้งแต่เนิ่นๆ โดยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต อาทิ ดูแลน้ำหนักตัวไม่ให้เกินมาตรฐาน, หมั่นบริหารกล้ามเนื้อต้นขา ด้วยการนั่งเหยียดและกระดกปลายเท้า โดยไม่งอเข่า, หลีกเลี่ยงอิริยาบถที่ต้องงอเข่ามากๆ เช่น นั่งพับเพียบและหากพบสัญญาณอันตราย รู้สึกเสียวเข่า หรือเจ็บเข่า ควรรีบไปพบแพทย์ เพื่อยืดอายุการใช้งานของข้อเข่าให้นานที่สุด.
|
|
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
อีกทางเลือก ที่จะยืดอายุข้อเข่าและไม่ต้องผ่าตัด สนใจ คลิ๊ก!! http://yim-health.blogspot.com/2008_07_01_archive.html
http://submit-submit.blogspot.om
http://submit.iblog.co.th |
วันที่ 26 ธ.ค. 2551
Advertisement
เปิดอ่าน 7,271 ครั้ง เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง เปิดอ่าน 7,195 ครั้ง เปิดอ่าน 7,148 ครั้ง เปิดอ่าน 7,139 ครั้ง เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง เปิดอ่าน 7,143 ครั้ง เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง เปิดอ่าน 7,147 ครั้ง เปิดอ่าน 7,136 ครั้ง เปิดอ่าน 7,148 ครั้ง เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง
|
เปิดอ่าน 7,146 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,186 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,136 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,143 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,137 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,140 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,143 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡
เปิดอ่าน 59,102 ครั้ง |
เปิดอ่าน 14,661 ครั้ง |
เปิดอ่าน 608 ครั้ง |
เปิดอ่าน 11,009 ครั้ง |
เปิดอ่าน 11,306 ครั้ง |
|
|