คอลัมน์: สถานีก.ค.ศ.: เกณฑ์ประเมินวิทยฐานะเชิงประจักษ์(1)
ศิริพร กิจเกื้อกูล
เลขาธิการ ก.ค.ศ.
ตามที่นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะประธาน ก.ค.ศ.ได้มีนโยบายสร้างขวัญกำลังใจให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้มีความรู้ความสามารถและมีศักยภาพในการปฏิบัติงานเพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียน/คุณภาพการศึกษา จนได้รับรางวัลระดับชาติหรือระดับนานาชาติ มีผลงานดีเด่นที่ประสบผลสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ เป็นที่ยอมรับในวงวิชาชีพ แต่ไม่มีความถนัดในการเขียนและเรียบเรียงออกมาเป็นผลงานทางวิชาการอย่างเต็มรูปแบบ ให้รับการส่งเสริมให้มีหรือเลื่อนวิทยฐานะอย่างเหมาะสมโดยมอบหมายให้สำนักงาน ก.ค.ศ.ดำเนินการยกร่างหลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีและเลื่อนวิทยฐานะตามแนวทางดังกล่าว ซึ่งสำนักงาน ก.ค.ศ.ได้ดำเนินการมาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2553 และนำเสนอ ก.ค.ศ. เพื่อให้ความเห็นชอบในหลักการไปเมื่อเดือนมกราคม 2554 ที่ผ่านมา และที่ประชุม ก.ค.ศ.ได้มอบหมายให้สำนักงาน ก.ค.ศ.ไปจัดทำคู่มือการประชุมในแต่ละสายงานนำเสนออีกครั้งหนึ่ง ซึ่งได้มีการให้ข้อมูลแก่สื่อมวลชนไปบ้างแล้วนั้น
ในการประชุม ก.ค.ศ.เมื่อปลายเดือนมีนาคม 2554 สำนักงานก.ค.ศ.ได้นำหลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้มีผลงานดีเด่นที่ประสบผลสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ มีวิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะเป็นวิทยฐานะชำนาญการพิเศษและวิทยฐานะเชี่ยวชาญ พร้อมคู่มือการประเมินเพื่อใช้ในการประเมินในแต่ละสายงาน เสนอต่อที่ประชุม ก.ค.ศ. ซึ่งที่ประชุมพิจารณาแล้วเห็นชอบหลักเกณฑ์และวิธีการที่สำนักงาน ก.ค.ศ.เสนอสรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
หลักการ
1.หลักเกณฑ์และวิธีการนี้ใช้สำหรับการขอให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่มีผลงานดีเด่น ขอมีหรือเลื่อนเป็นวิทยฐานะชำนาญการพิเศษและวิทยฐานะเชี่ยวชาญ ทุกสายงาน
2.กำหนดให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา และผู้บังคับบัญชา เป็นผู้ยื่นคำขอและให้ส่วนราชการต้นสังกัด พิจารณากลั่นกรองก่อนเสนอรายชื่อให้ ก.ค.ศ.พิจารณา
คุณสมบัติของผู้ที่จะได้รับคัดเลือก
1.ต้องเป็นผู้มีคุณสมบัติตามมาตรฐานวิทยฐานะ (ถ้าขอมีวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ ต้องดำรงวิทยฐานะชำนาญการมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี ถ้าขอมีวิทยฐานะเชี่ยวชาญ ต้องดำรงวิทยฐานะชำนาญการพิเศษมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี หรือดำรงวิทยฐานะชำนาญการมาแล้วไม่น้อยกว่า5 ปี)
สำหรับคุณสมบัติ 2-4 จะเป็นคุณสมบัติที่เหมือนกันคือ
2.มีภาระงานการสอนขั้นต่ำ หรือภาระงานตามที่ส่วนราชการกำหนด
3.ปฏิบัติงานตามหน้าที่และความรับผิดชอบย้อนหลัง 3 ปี4.มีผลงานดีเด่นที่ประสบผลสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ (มีความสามารถพิเศษ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ได้รับรางวัลสูงสุดระดับชาติขึ้นไปหรือเป็นผลงานที่ส่วนราชการต้นสังกัดพิจารณาแล้วเห็นว่าเทียบเคียงได้กับรางวัลดีเด่นระดับชาติ ซึ่งจะต้องส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพการปฏิบัติงานจนเป็นที่ประจักษ์)
กล่าวถึงตรงนี้ ก็จะมีข้อข้องใจกันต่อไปอีกว่า ผลงานที่ว่าได้รับรางวัลระดับชาตินั้นพิจารณาจากที่ไหนอย่างไร ในสัปดาห์หน้าจะนำรายละเอียดต่างๆ มานำเสนอให้ได้รับความกระจ่างขึ้นไปอีก
ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน