Advertisement
|
ภาพประกอบทางอินเตอร์เน็ต |
|
|
นักวิจัยได้หลักฐานเพิ่มมากขึ้นว่า การเกิดแผลพุพองที่ริมฝีปาก ทำให้เจ้าตัวตกอยู่ในความเสี่ยงของโรคสมองเสื่อม
นักวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ของอังกฤษกล่าวว่า ไวรัสที่ทำให้เป็นเริม เป็นตัวการใหญ่ ทำให้เกิดคราบโปรตีนจับที่สมอง ดังที่พบอยู่ในผู้ป่วยเป็นโรคสมองเสื่อม แต่ในทางตรงกันข้าม การค้นพบก็ทำให้รู้ว่าพวกยาต้านไวรัส ที่ใช้รักษาแผลพุพองเหล่านั้น ก็อาจใช้ในการป้องกันโรคสมองเสื่อมได้เช่นกัน
ศาสตราจารย์รูธ อิตซากี้ กับคณะ ได้ค้นพบหลักฐานดีเอ็นเอ อันเป็นสารพันธุกรรมของไวรัสเริม แบบที่ 1 ใน คราบสมองของ ผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมถึงร้อยละ 90
และได้สรุปว่า การค้นพบส่อให้เห็นอย่างแข็งแรงว่า ไวรัสที่ทำให้เกิดแผลพุพอง เป็นสาเหตุอันเป็นรากฐานของโรคสมองเสื่อม อาจารย์รูธอธิบายให้ฟังว่า “เราเชื่อว่าเชื้อไวรัสเริมแบบที่ 1 เข้าสู่สมองของผู้สูงอายุ ในยามที่ระบบภูมิคุ้มกันโรคเสื่อมโทรมลง ฝังตัวก่อการอักเสบขึ้นเงียบๆ และเมื่อผู้นั้นเกิดเครียด หรือภูมิคุ้มโรคอ่อนแอลง ก็จะไปปลุกมันขึ้นหนแล้วหนเล่า”.
|
ที่มา หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
|
วิธีป้องกันสมองเสื่อม..............
|
หลาย ๆ คนอาจจะกำลังกังวลถึงความจำของตัวเองที่หลัง ๆ เริ่มจะมีอาการขาด ๆ หาย ๆ บ้างไปบางระยะ
เท่านั้นยังไม่พอความจำที่เคยจำได้ดีก็ไม่เหมือนก่อน ฉะนั้นถ้าคุณอยากมีความจำดี ก็จำเป็นต้องหาวิธีที่จะดูแลป้องกันไม่ให้ โรคสมองเสื่อมมาเยือน วันนี้มีวิธีง่าย ๆ ป้องกันสมองเสื่อม มาฝากกันค่ะ
1. กินอาหารที่มีประโยชน์ การกินผักและผลไม้เป็นประจำจะทำให้ร่างกายได้วิตามินบีหลายตัว ผักใบเขียวจัด ๆ ยังมีสารโคลีนที่สามารถซึมเข้าไปได้ถึงสมองโดยตรง ร่างกายของเราจะอาศัยสารที่มีประโยชน์จากผักใบเขียวนี่แหละไปสร้างสื่อสัญญาณประสาท ทำให้สมองของเราทำงานไม่ติดขัด ความจำดี นอกจากนี้แล้วการกินผักผลไม้ จะทำให้ร่างกายเราได้รับวิตามินที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย
ผักและผลไม้ที่เป็นแหล่งของวิตามิน บี 6 ซึ่งเป็นสารอาหารจำเป็นสำหรับการทำงานของสมอง ได้แก่ ใบบัวบก กระหล่ำดอก บร็อกโคลี แคนตาลูป ถั่วเหลือง ถั่วลิสง เป็นต้น ดังนั้นพืชผักเหล่านี้จึงสมควรกินเป็นประจำ
2. ออกกำลังกาย เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับคนที่อยากมีสุขภาพดี เช่น การวิ่ง การปั่นจักรยาน หรือ แอโรบิก ช่วยให้ระบบไหลเวียนของเลือดทำงานดีขึ้น และช่วยกำจัดไขมันที่เกาะตามเส้นเลือด นั่นหมายความว่าเลือดจะสามารถนำออกซิเจนและสารอาหารไปหล่อเลี้ยงสมองได้ดียิ่งขึ้นนั่นเอง การออกกำลังกายยังช่วยให้คุณนอนหลับสนิท ทำให้สมองได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ไม่ต้องถึงขนาดวิ่งวิบากก็ได้ แม้แต่การฝึกชี่กง โยคะ ก็ช่วยให้พัฒนาสมองได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นกัน แต่อย่าลืมดื่มน้ำหลังการออกกำลังกายด้วย เพราะการขาดน้ำอาจทำให้สมองทำงานได้ไม่เต็มที่
3. บริหารสมอง หากต้องการชะลอความเสื่อมของสมอง คนเราจะต้องรู้จักใช้สมองในหลายขอบเขต แตกต่างกันไป เช่น ถ้าคุณมีความสามารถในเรื่องของการคิดเลขเร็ว คุณอาจจะต้องหัดรู้จักศิลปะด้วย ทั้งนี้เพื่อเป็นการกระตุ้นสมองอีกด้านหนึ่ง ไม่ให้ทำงานด้านเดียวจนเกินไป เพราะว่าการที่เราหัดทำอะไรที่เราไม่เคยทำมาก่อน จะเป็นการกระตุ้นให้เราสามารถใช้สมองได้อย่างเต็มที่ สมองของเราก็จะเสื่อมช้ากว่า อายุก็จะยืนยาวมากกว่า
4. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ นึกถึงตอนที่คุณเมาจนจำไม่ได้ว่าเมื่อคืนคุณทำตัวน่าอายแค่ไหนนั่นแหละครับ แม้จะเป็นเพียงแก้วสองแก้ว แอลกอฮอล์ก็สามารถไปรบกวนการสร้างความจำระยะยาว (Long-term memories) ได้เหมือนกัน การวิจัยอีกหลายชิ้นก็ชี้ว่า ยิ่งดื่มแอลกอฮอล์มากเท่าไรก็ยิ่งเสี่ยงต่อการทำลายความจำมากขึ้น เห็นแบบนี้แล้วอย่าใช้มันเป็นข้ออ้างในการดื่มเพื่อลืมเธอเลยนะคุณ ใจก็เสียไปแล้ว อย่าให้สมองเสียไปอีกเลย
|
|
วันที่ 19 ธ.ค. 2551
Advertisement
เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง เปิดอ่าน 7,138 ครั้ง เปิดอ่าน 7,143 ครั้ง เปิดอ่าน 7,150 ครั้ง เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง เปิดอ่าน 7,145 ครั้ง เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง เปิดอ่าน 7,139 ครั้ง เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง เปิดอ่าน 7,139 ครั้ง เปิดอ่าน 7,137 ครั้ง เปิดอ่าน 7,144 ครั้ง เปิดอ่าน 7,147 ครั้ง
|
เปิดอ่าน 7,137 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,142 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,144 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,143 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,139 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,143 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,143 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡
เปิดอ่าน 21,880 ครั้ง |
เปิดอ่าน 65,785 ครั้ง |
เปิดอ่าน 5,230 ครั้ง |
เปิดอ่าน 58,925 ครั้ง |
เปิดอ่าน 45,013 ครั้ง |
|
|