Advertisement
ศึกษาธิการ - นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ ๒๔ มกราคม ๒๕๕๔ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ๒ เรื่อง คือ เห็นชอบการขอคืนอัตราว่างข้าราชการครูจากผลการเกษียณอายุราชการ และรับทราบรายงานผลทุนเรียนดีมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์แห่งประเทศไทย ครั้งที่ ๗
การขอคืนอัตราว่างข้าราชการครูจากผลการเกษียณอายุราชการ
รับทราบรายงานผลการดำเนินการตามมติ ครม. เรื่อง ทุนเรียนดีมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์แห่งประเทศไทย ครั้งที่ ๗
ครม.รับทราบรายงานผลการดำเนินการตามมติ ครม. เรื่อง โครงการพัฒนากำลังคนด้านมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ (ทุนเรียนดีมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์แห่งประเทศไทย) ครั้งที่ ๗ (พฤษภาคม–พฤศจิกายน ๒๕๕๓) และให้ ศธ.รายงานผลการดำเนินการโครงการนี้ต่อ ครม.ทุกสิ้นปีงบประมาณจนกว่าจะสิ้นสุดระยะเวลาของโครงการ
สาระสำคัญของเรื่อง สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ได้รายงานผลการดำเนินโครงการดังกล่าวในปีที่ผ่านมา โดยได้โอนเงินค่าใช้จ่ายของนักเรียนทุน แยกเป็นทุนในประเทศ ได้ประสานสถาบันอุดมศึกษาที่เป็นสถาบันฝ่ายผลิตให้จัดส่งรายละเอียด พร้อมหลักฐานของนักเรียนทุนทุกระดับ ส่วนทุนในต่างประเทศ ได้ประสานสำนักงาน ก.พ. และโอนเงินค่าใช้จ่ายของนักเรียนทุนเพื่อให้ดำเนินการเกี่ยวกับนักเรียนทุนโครงการฯ ที่พร้อมจะเดินทางไปศึกษาได้ตั้งแต่เดือนมิถุนายน-กันยายน ๒๕๕๓ จำนวน ๓๗ คน แยกเป็นระดับปริญญาตรี ๔ คน และปริญญาโท-เอก ๓๓ คน จากนักเรียนทุนทั้งสิ้น ๖๑ คน
ทั้งนี้ ได้พิจารณาจัดสรรทุนที่เหลือจากปีงบประมาณ ๒๕๕๓ และทุนตามงบประมาณที่ได้รับการจัดสรรในปี ๒๕๕๔ โดยรวบรวมทุนที่จัดสรรแล้วแต่ไม่มีผู้สอบผ่านเป็นผู้รับทุน พร้อมพิจารณาผลการจัดสอบ ปัญหา/อุปสรรคที่ผ่านมา เพื่อปรับแก้ไขปัญหาในการประกาศสอบครั้งต่อไป รวมทั้งพิจารณาแนวทางการจัดสรรทุนเป็น ๓ แนวทาง คือ ๑) เปิดสอบแข่งขันสำหรับบุคคลทั่วไป ๒) พัฒนาศักยภาพบุคลากรในสถาบันอุดมศึกษา ๓) แสวงหานักเรียนทุนจากผู้ที่กำลังศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยที่อยู่ในการจัดลำดับที่ดี และไม่มีภาระทุนผูกพัน โดยการหาทางจูงใจให้เข้ามาสู่ระบบ
หลังจากนั้น สกอ.ได้แจ้งสถาบันอุดมศึกษาที่ได้รับการจัดสรรทุนเพื่อยืนยัน/สละสิทธิ์การรับจัดสรรทุนที่ไม่มีผู้สอบผ่าน เพื่อนำมาประกาศรับสมัครใหม่ ซึ่งในกรณีที่สถาบันต้นสังกัดขอยกเลิกการขอรับการจัดสรรทุน จะนำทุนมาจัดสรรรวมกับทุนในปีงบประมาณ ๒๕๕๔ รวมทั้งแจ้งให้สถาบันอุดมศึกษาทุกแห่งที่เปิดสอนด้านมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ และประสงค์เข้าร่วมโครงการให้จัดทำแผนพัฒนางานวิชาการ เพื่อใช้พิจารณาประกอบการจัดสรรทุน
การนำทุนที่เหลือจากการสอบแข่งขันฯ และงบประมาณของปี ๒๕๕๓ มารวมกับปี ๒๕๕๔ เพื่อพิจารณาจัดสรรทุนและประกาศสอบแข่งขันเพื่อรับทุนโครงการฯ ในระดับปริญญาตรี และปริญญาโท-เอก ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และทุนระดับปริญญาตรี-โท ในต่างประเทศ เพื่อให้สอดคล้องกับระยะเวลาที่ต้องเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จ เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จจึงจะดำเนินการพิจารณาทุนพัฒนาศักยภาพในการทำงานวิจัยของนิสิต นักศึกษา ระดับปริญญาโท-เอก จำนวน ๕๐ ทุน
สำหรับการพิจารณาจัดสรรทุนในปีการศึกษา ๒๕๕๓-๒๕๕๔ เพื่อให้ได้สาขาวิชาที่มีความจำเป็น หรือขาดแคลน หรือเป็นสาขาวิชาที่ตอบสนองการพัฒนาศักยภาพของสถาบันอุดมศึกษา รวม ๑๙๖ ทุน และจัดสอบแข่งขันเข้ารับทุนโครงการฯ โดยความร่วมมือของสำนักงานบริหารโครงการฯ เป็นหน่วยดำเนินการจัดสอบแข่งขันรับทุนโครงการฯ ในช่วงระหว่างวันที่ ๒๓ สิงหาคม – ๗ ธันวาคม ๒๕๕๓ โดยการดำเนินโครงการดังกล่าวใช้งบประมาณรวมเป็นเงิน ๑๖๙ ล้านบาm
ส่วนปัญหาที่พบในการดำเนินการ คือ สาขาวิชาของโครงการฯ มีความหลากหลายมาก ทำให้การพิจารณาจัดสรรทุนต้องใช้ระยะเวลาและการจัดหาข้อมูลเพื่อใช้ประกอบการพิจารณา นอกจากนี้การกำหนดคุณสมบัติของผู้ที่จะสมัครสอบแข่งขันเพื่อรับทุนโครงการฯ มีความแตกต่างกันตามสาขาวิชาที่หลากหลาย การกำหนดให้ผู้รับทุนในระดับปริญญาตรีต้องผูกพันชดใช้ทุนในสถาบันอุดมศึกษาทำได้ยาก เนื่องจากสถาบันอุดมศึกษาจัดการศึกษาตั้งแต่ระดับปริญญาตรี อัตรากำลังรองรับที่จะบรรจุเข้าทำงานจึงต้องเป็นระดับปริญญาเอก และอาจมีบางสาขาที่จำเป็นต้องรับในระดับปริญญาโท
ในขณะเดียวกันระยะเวลาการศึกษาของผู้รับทุนในบางสาขาวิชาไม่สามารถสำเร็จการศึกษาตามที่กำหนดไว้ในโครงการฯ (ปริญญาตรี ๔ ปี ปริญญาโท ๒ ปีปริญญาเอก ๓ ปี และปริญญาโท-เอก ๕ ปี) ได้ เช่น สาขาโบราณคดี หลักสูตรระดับปริญญาโท ในประเทศ ใช้เวลาประมาณ ๓-๔ ปี รวมทั้งงบประมาณที่จัดสรรสำหรับทุนการศึกษาในต่างประเทศ จากการประสานกับสำนักงาน ก.พ. พบว่ามีค่าใช้จ่ายในส่วนที่เพิ่มขึ้นจากที่กำหนดไว้ในโครงการฯ ซึ่งจำเป็นต้องจัดให้เนื่องจากเป็นการเตรียมก่อนเข้าศึกษา เช่น ค่าใช้จ่ายด้านภาษา และค่าใช้จ่ายเพื่อเตรียมตัวก่อนการเดินทางไปศึกษาในต่างประเทศ ซึ่งโครงการได้มีแนวทางแก้ปัญหาด้านต่างๆ ดังกล่าวไว้แล้ว เพื่อให้ทุนเรียนดีสาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ในปีต่อๆ ไปเกิดประสิทธิภาพมากขึ้น
ที่มา http://www.moe.go.th/websm/2011/jan/037.html
ครม.มีมติในการพิจารณาการขอคืนอัตราข้าราชการครูจากผลการเกษียณอายุราชการ ดังนี้
ให้ ศธ.ปฏิบัติตามมติ ครม. เมื่อวันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๕๑ (เรื่อง รายงานผลการศึกษาเรื่องสภาวะการขาดแคลนครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา และข้อเสนอแนวทางแก้ไข) โดยให้ ศธ.จัดทำรายละเอียดการขอคืนอัตรากำลังให้คณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐรับไปประกอบการพิจารณาตามเหตุผลความจำเป็น โดยให้รับความเห็นของสำนักงาน ก.พ.ร. สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐไปดำเนินการด้วย
ให้คณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐเร่งรัดดำเนินการจัดสรรอัตราข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา จากผลการเกษียณอายุราชการเมื่อสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๕๓ ให้แล้วเสร็จภายในเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๔
ให้ ศธ.ร่วมกับคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐจัดทำแผนการคืนอัตรากำลังข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา จากผลการเกษียณอายุราชการในแต่ละปีของปี ๒๕๕๔–๒๕๕๖ เพื่อให้การบริหารจัดการกำลังคนให้สมดุลสอดคล้องกับภารกิจด้านการศึกษาขั้นพื้นฐาน และมีการบริหารทรัพยากรด้านการศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
Advertisement
เปิดอ่าน 32,521 ครั้ง เปิดอ่าน 9,315 ครั้ง เปิดอ่าน 11,414 ครั้ง เปิดอ่าน 5,945 ครั้ง เปิดอ่าน 36,029 ครั้ง เปิดอ่าน 2,168 ครั้ง เปิดอ่าน 3,175 ครั้ง เปิดอ่าน 10,404 ครั้ง เปิดอ่าน 17,423 ครั้ง เปิดอ่าน 14,266 ครั้ง เปิดอ่าน 5,937 ครั้ง เปิดอ่าน 10,611 ครั้ง เปิดอ่าน 3,332 ครั้ง เปิดอ่าน 14,276 ครั้ง เปิดอ่าน 13,667 ครั้ง เปิดอ่าน 20,556 ครั้ง
|
เปิดอ่าน 15,468 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,907 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 6,993 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,062 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 8,576 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 10,161 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 15,980 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡
เปิดอ่าน 41,562 ครั้ง |
เปิดอ่าน 10,171 ครั้ง |
เปิดอ่าน 23,443 ครั้ง |
เปิดอ่าน 41,565 ครั้ง |
เปิดอ่าน 28,984 ครั้ง |
|
|