ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมความรู้ทั่วไป  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

8 ข่าวสุขภาพที่ไม่ควรลืมประจำปี 2010


ความรู้ทั่วไป เปิดอ่าน : 14,155 ครั้ง
Advertisement

 8 ข่าวสุขภาพที่ไม่ควรลืมประจำปี 2010

Advertisement

❝ ปี 2553 ที่่ผ่านมา มีเรื่องราวสุขภาพที่น่าสนใจมากมายเกิดขึ้นจากทั่วทุกมุมโลก มีข่าวอะไรเด่น ๆ ที่เราไม่ควรลืมกันบ้าง ไปติดตามกันเลย ❞  1.สาวไทยมากกว่าครึ่ง ไม่เข้าใจโรคเอดส์

          ข่าวดีก็คือผู้ป่วยเอดส์รายใหม่ของประเทศเรา ลดลงจาก 17,600 คนในปี 2550 เหลือเพียงแค่ 2,400 คนในปีนี้ ส่วนข่าวร้ายก็คือ หากความเข้าใจเรื่องโรคเอดส์ยังเป็นอย่างปัจจุบันนี้ ก็เป็นไปได้ว่า โรคเอดส์จะกลับมาระบาดหนักอีกรอบ โดยเฉพาะมีผู้หญิง อายุ 15-59 ปี เพียงร้อยละ 36.4 เท่านั้น ที่มีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับโรคเอดส์

          และที่น่ากลัวขึ้นไปกว่านั้นก็คือ การตรวจเลือดก่อนแต่งงาน เพื่อหาทาลัสซีเมียหรือโรคเอดส์ ก็มีแนวโน้มลดลงเหลือร้อยละ 21.7 จึงกล่าวได้ว่า สถานการณ์โรคเอดส์ในบ้านเรายังไม่สามารถวางใจได้ หากผู้หญิงเรายังไม่ระมัดระวังตัวแบบนี้

 2.วิธีใหม่ ตรวจวัณโรคเจ๋งกว่าเดิม

          ในปี 2010 ทั่วโลกมีผู้ป่วยวัณโรคเพิ่มขึ้นกว่า 10 ล้านเคส ซึ่งเป็นจำนวนที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์ แต่ความจริงวัณโรคนั้น สามารถรักษาได้หากได้รับการวินิจฉัยทันท่วงที และพื้นที่จำนวนมากในโลก อย่างเช่น จีน แอฟริกา หรืออินเดีย ใช้การตรวจเลือดซึ่งเชื่อถือไม่ค่อยได้ แถมใช้เวลานานด้วย

          แต่ เมื่อต้นเดือนธันวาคม องค์กรอนามัยโลกออกมากล่าวถึงวิธีใหม่ ที่ตรวจสอบได้ถึงระดับโมเลกุลและมีความแม่นยำ ถึง 99% และรู้ผลภายใน 2 ชั่วโมง หากวิธีนี้เป็นที่แพร่หลาย นั่นแปลว่า ตั้งแต่ปี 2011 เป็นต้นไป เราจะสามารถช่วยชีวิตคนนับล้านจากวัณโรคได้รวมถึงคนไทยด้วย นี่จึงเป็นข่าวดีที่สุดส่งท้ายปีเก่าค่ะ

  3.สิ่งประดิษฐ์สุดแจ่ม "กลีบเขมือบ" กันข่มขืน

          ข่าวดีประจำปีสำหรับสาว ๆ ที่ในที่สุดเรา ก็มีเครื่องมือที่ช่วยให้การกลับบ้านดึก ๆ ปลอดภัยขึ้นมาอีกนิด ได้แก่ "Rape-axe" ห่วงอนามัย ซึ่งในแอฟริกาใต้มีสถิติว่าทุก ๆ 17 วินาที จะมีการข่มขืนเหยื่อหนึ่งราย และมีเพียง 8% เท่านั้นที่สามารถเอาผิดคนร้ายได้

          พญ. ซอนเน็ต เอห์เลอร์ ผู้รักษาเหยื่อที่ถูกข่มขืนบ่อย ๆ จึงได้คิดค้นห่วงดังกล่าวขึ้นมาให้ผู้หญิงใส่ หากคนร้ายพยายามจะสอดใส่ให้ได้ เงี่ยงบนห่วงจะเกาะกับองคชาต จนทำให้เจ็บปวดเหมือนกับเวลาผู้ชายรูดซิปติด และจะเอาออกไม่ได้หากไม่ใช่แพทย์ แน่นอนว่าเมื่อมาหาแพทย์ก็ต้องอับอาย และถูกจับตามระเบียบ สะใจดีมั้ยล่ะคะ!

 4.ทวิตเตอร์ บ่อนทำลายสุขภาพคุณได้

          ไม่ใช่เฉพาะทิวตเตอร์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงข้อมูลทุกอย่างที่เราได้จากอินเทอร์เน็ต และ โดยเฉพาะฟอร์เวิร์ดเมล์ ซึ่งการศึกษาจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบียเปิดเผยว่า ทุก ๆ ครึ่งเดือนจะมีข้อมูลผิด ๆ เกี่ยวกับสุขภาพถึง 700 ทวีต เช่น คำแนะนำให้กินยาปฏิชีวนะ เพื่อสู้กับไวรัสหวัดและไข้หวัดใหญ่ ทั้งที่ยาปฏิชีวนะจะมีผลกับแบคทีเรียเท่านั้น จึงทำให้เชื้อไวรัสดื้อยา แถมยังไม่ช่วยให้อาการเจ็บป่วยที่เป็นอยู่หายเร็วขึ้นแต่อย่างใด ดังนั้น ก่อนจะเชื่อตามคำแนะนำที่ได้จากเน็ต อย่าลืมหาข้อมูล และสอบถามผู้เชี่ยวชาญให้เรียบร้อยนะ

 5.กินแคลเซียมไม่ถูกวิธีเสี่ยงโรคหัวใจ

          ทั้ง ๆ ที่มักจะมีคำแนะนำให้ผู้หญิงวัยทองขึ้นไปกินแคลเซียม เพื่อเสริมสร้างกระดูก แต่เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยดาร์ธเมาท์เปิดเผยในวารสาร BMU ว่า การกินแคลเซียมเสริมมากกว่า 500 มิลลิกรัมต่อวัน โดยไม่มีวิตามินดีร่วมด้วยนั้น อาจเพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจได้ถึง 30% อย่างไรก็ตาม คนที่กินแคลเซียมเสริมเป็นประจำที่ไม่ควรจะหยุด หากยังไม่ได้ปรึกษาแพทย์เสียก่อน...ทราบแล้วเปลี่ยน!

 6.นอนตุนไว้ล่วงหน้า มีประโยชน์จริง ๆ

          คุณทราบรึเปล่าคะว่า คนเราสามารถสะสมชั่วโมงการนอน เพื่อเตรียมการอดนอนไว้ก่อนได้ โดยการเปิดเผยในวารสาร Sleep บอกว่า หากวันสองวันข้างหน้าจะต้องอดตาหลับขับตานอนแน่ ๆ คุณก็สามารถออมชั่วโมงนอนเก็บไว้ได้ และการศึกษาดังกล่าวยังชี้ว่า คนที่นอนตุนไว้หนึ่งสัปดาห์ ก่อนที่จะอดนอนในสัปดาห์ต่อมานั้น จะมีสติและกระตือรือร้นมากกว่าคนที่ไม่ได้นอนเก็บไว้เลย ถามว่าข่าวนี้ดีอย่างไร ก็เป็นข้ออ้างเอาไว้ตื่นสายโด่งวันเสาร์-อาทิตย์ยังไงล่ะคะ!

 7.การจราจรติดขัดเครียดกว่าที่คิด

          คนที่อยู่ในจังหวัดใหญ่ ๆ ย่อมรู้ดีถึงสภาพการจราจรในชั่วโมงเร่งด่วน และปีที่ผ่านมา การศึกษาจากโรงพยาบาลมหาวิทยาลัย Lund ในสวีเดนก็เปิดเผยว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับร่างกายในระหว่าง ที่รถติดนั้นน่ากลัวมาก เสียงเครื่องยนต์สามารถทำให้ระดับฮอร์โมนแห่งความเครียดเพิ่ม โอกาสที่จะมีภาวะความดันโลหิตสูงถึง 45% แต่คุณก็สามารถหลีกเลี่ยงได้ด้วยการนั่งรถประจำทาง เดิน หรือปั่นจักรยานไปทำงานแทน พร้อม ๆ กับกินอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ปลา ธัญพืช ผัก และผลไม้ ที่สำคัญคือ อย่าลืมออกกำลังเป็นประจำด้วย

 8.เด็กไทยเป็นโรคอ้วน เสี่ยงเบาหวานเพิ่ม 10 เท่า

          สถานการณ์เบาหวาของคนไทยกำลังจะเข้าชั้นวิกฤตแน่ ๆ แล้ว โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ ศ.พญ. วรรณี นิธิยานันท์ อุปนายกสมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทย ชี้ว่าโรคเบาหวานเป็นหนึ่งในสาเหตุของอาการเจ็บป่วย และการตายอันดับต้น ๆ ของคนไทย ซึ่งสอดคล้องพอดีกับที่เรามีภาวะอ้วนลงพุงสูงมาก

          โดยประชากรที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไปจะมีภาวะความดันโลหิตสูงถึงร้อยละ 21.4 และในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เรามีอัตราผู้ป่วยวัยรุ่นเป็นเบาหวานเพิ่มมากขึ้น และปัจจุบันพบว่าเด็กมักป่วย เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ซึ่งปกติจะพบในผู้ใหญ่มากกว่า เนื่องจากเราให้เด็กกินมากแต่ออกแรงน้อย เด็กจึงเป็นโรคอ้วนโดยตรงอย่างนี้นี่เองค่ะ

แปลกที่สุดของปี : เครื่องรางของขลังมีผลจริง ๆ

          เราไม่ทราบว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองเราอยู่หรือเปล่า แต่การศึกษาในปีที่ผ่านมาจากมหาวิทยาลัยแห่งโคโลญจน์ ชี้ว่า คนที่มีเครื่องรางของขลังไว้กับตัวจะรู้สึกมั่นใจ และมีผลการทดสอบความจำกับความคล่องแคล่วดีกว่า ตอนที่ไม่ได้พกเครื่องราง ดังนั้น การจะมีถุงเท้านำโชคสักคู่ เอาไว้ใส่สมัครงาน ก็ดูจะไม่ไร้สาระนัก...เนอะ?


ขอบคุณความรู้จาก : LISA


8 ข่าวสุขภาพที่ไม่ควรลืมประจำปี 2010

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

ขจัดกลิ่นเท้าด้วยมะนาว

ขจัดกลิ่นเท้าด้วยมะนาว


เปิดอ่าน 11,335 ครั้ง
ทายนิสัยจากฤดูที่ชอบ

ทายนิสัยจากฤดูที่ชอบ


เปิดอ่าน 24,443 ครั้ง
8 วิธีกำจัดขาโต๊ะสนุ้ก

8 วิธีกำจัดขาโต๊ะสนุ้ก


เปิดอ่าน 10,985 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

ประโยชน์ที่ไม่ธรรมดา ของกล้วยเล็บมือนาง

ประโยชน์ที่ไม่ธรรมดา ของกล้วยเล็บมือนาง

เปิดอ่าน 1,574 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
เปิดกลุ่มงานเงินเดือนดี๊ดีสำหรับคนเก่งภาษา
เปิดกลุ่มงานเงินเดือนดี๊ดีสำหรับคนเก่งภาษา
เปิดอ่าน 10,684 ☕ คลิกอ่านเลย

ทำอย่างไรเมื่อคุณก้าวเข้าสู่วิกฤตวัยกลางคน (midlife crisis)
ทำอย่างไรเมื่อคุณก้าวเข้าสู่วิกฤตวัยกลางคน (midlife crisis)
เปิดอ่าน 14,613 ☕ คลิกอ่านเลย

อาหารเพิ่มน้ำหนักลูก
อาหารเพิ่มน้ำหนักลูก
เปิดอ่าน 12,336 ☕ คลิกอ่านเลย

Facebook และ Twitter ใช้ยิ่งมาก...สุขภาพยิ่งดีกว่านะ
Facebook และ Twitter ใช้ยิ่งมาก...สุขภาพยิ่งดีกว่านะ
เปิดอ่าน 10,810 ☕ คลิกอ่านเลย

วัยไหนให้ดูทีวี
วัยไหนให้ดูทีวี
เปิดอ่าน 17,754 ☕ คลิกอ่านเลย

บูชาแล้วรวย
บูชาแล้วรวย
เปิดอ่าน 14,525 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

ประวัติการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก
ประวัติการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก
เปิดอ่าน 21,255 ครั้ง

อันตรายจากการกินของดอง
อันตรายจากการกินของดอง
เปิดอ่าน 24,112 ครั้ง

รวม ส.ค.ส.พระราชทานจากในหลวง อดีตจนถึงปัจจุบัน เป็นสิริมงคลคนไทยทุกคน
รวม ส.ค.ส.พระราชทานจากในหลวง อดีตจนถึงปัจจุบัน เป็นสิริมงคลคนไทยทุกคน
เปิดอ่าน 21,074 ครั้ง

ระเบียบการเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทน พ.ศ.๒๕๔๗
ระเบียบการเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทน พ.ศ.๒๕๔๗
เปิดอ่าน 18,164 ครั้ง

ประโยชน์ของน้ำขิง
ประโยชน์ของน้ำขิง
เปิดอ่าน 2,900 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ