นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มอบนโยบายการรับนักเรียน ปีการศึกษา ๒๕๕๔ แก่ผู้บริหารสถานศึกษาที่มีอัตราการแข่งขันสูง สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ทั่วประเทศ เมื่อวันที่ ๑๒ มกราคม ๒๕๕๔
รมว.ศธ. กล่าวว่า นโยบายการรับนักเรียนของ ศธ.ในปีการศึกษา ๒๕๕๔ ไม่ต้องการให้มีการฝากและเรียกรับเงินอย่างเด็ดขาดนั้น เป็นกลไกเล็กๆ ที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเพื่อสร้างความเสมอภาค ความเป็นธรรม จึงต้องการทำความเข้าใจ เพื่อสร้างหลักคิดและนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งนโยบายนี้จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในวงการศึกษาไทย ยอมรับว่าสิ่งใดที่มีการเปลี่ยนแปลง ย่อมมีแรงต้านทานเสมอ แต่ไม่มีอะไรที่จะทำให้การเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่ดีๆ ไม่ได้เกิดขึ้นได้ ที่ผ่านมาโลกจึงมีการเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ดีกว่าเสมอ
ในการรับนักเรียนในปีนี้ ได้วางนโยบายหรือกฎเหล็ก ๙ ข้อ ซึ่งทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจะต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ได้แก่
๑) ต้องประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจถึงค่านิยมที่ถูกต้องในการรับนักเรียนตามนโยบาย โดยต้องพูดให้เป็นเสียงเดียวกันว่า ในปีนี้รับนักเรียนต้องโปร่งใส เป็นธรรม เพื่อคุณภาพการศึกษาและสร้างความเป็นธรรมเปิดโอกาสให้นักเรียนทุกคน โดยไม่มีการฝาก การเรียกรับเงิน ทั้งนี้ตนได้สั่งการให้ สพฐ.จัดทำป้ายไวนิลติดประกาศไว้หน้าสถานศึกษาทุกแห่งอย่างชัดเจนว่า "เพื่อคุณภาพการศึกษา และความเสมอภาค การรับนักเรียนทุกระดับทั่วประเทศ จะเป็นธรรม โปร่งใส ไม่มีการฝาก และเรียกรับเงินอย่างเด็ดขาด ผมขอความร่วมมือ"
๒) ต้องวางแผนการรับนักเรียนที่ชัดเจน และประสานแผนกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา รวมทั้งโรงเรียนคู่พัฒนาอีก ๔ โรงเรียน ให้เกิดความชัดเจนและโปร่งใส
๓) การรับนักเรียนต้องรับรอบเดียว ห้องละ ๔๐ คน หากมีความจำเป็นสามารถเพิ่มได้ไม่เกินห้องละ ๑๐ คน แต่รวมแล้วต้องรับได้ไม่เกินห้องละ ๕๐ คน
๔) นักเรียนทุกคนต้องมีที่เรียน ให้มีการเลือกโรงเรียนตามลำดับคะแนนและตามความสามารถของนักเรียน
๕) สถานศึกษาต้องดำเนินการตามแผนการรับนักเรียนให้นักเรียนทุกคนมีที่เรียนอย่างเคร่งครัด หากสถานศึกษาใดที่จะมีการจับสลาก การสอบ หรือโควตาผู้มีพระคุณ ต้องประกาศก่อนให้ชัดเจน
๖) หากใช้วิธีการสอบคัดเลือก ต้องประกาศผลการสอบและระบุคะแนนตามลำดับที่ที่สอบแข่งขันได้อย่างชัดเจน
๗) ห้ามไม่ให้มีการฝากเด็ก หรือการเรียกรับเงิน หรือผลประโยชน์อื่นใดในช่วงการรับนักเรียน
๘) สถานศึกษาต้องอำนวยความสะดวกในการขอรับทราบข้อมูลในการรับนักเรียน ของนักเรียน ผู้ปกครอง คณะกรรมการติดตามการรับนักเรียน และส่วนกลาง
๙) ให้ทุกสถานศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา จนถึงสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ถือว่านโยบายการรับนักเรียนเป็นภารกิจหลักในการรับนักเรียนที่จะต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามนโยบาย
รมว.ศธ.กล่าวด้วยว่า การรับนักเรียนที่ผ่านมา มักจะมีการกล่าวอ้างถึงนักการเมือง ข้าราชการระดับสูง เพื่อเรียกร้องหาผลประโยชน์ แต่ในปีนี้ต้องการให้การรับนักเรียนเป็นไปอย่างโปร่งใส ต้องทำลายกระบวนการหาผลประโยชน์โดยไม่ชอบจากเรื่องนี้ให้ได้ ซึ่ง ศธ.ไม่สามารถดำเนินการได้เอง จึงต้องอาศัยผู้เสียหาย ได้แก่ ผู้ที่ถูกกล่าวอ้าง สถานศึกษา ทั้งนี้หากพบว่ามีผู้เรียกหาผลประโยชน์ในการรับรับนักเรียน ตั้งแต่ระดับโรงเรียนจนถึงระดับกระทรวง ไม่ว่าจะเป็นทางตรงหรือทางอ้อม จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด และหากเกิดขึ้นใน ศธ.จะดำเนินการโดยเด็ดขาดทันที ตั้งแตระดับปลัดกระทรวงไปจนถึงหน้าห้อง ซึ่งขณะนี้ตนได้สั่งการให้เลขาธิการ กพฐ. กันตำแหน่งไว้ที่ส่วนกลางแล้ว ๑๐ ตำแหน่ง สำหรับผู้ที่จะต้องเข้ามาช่วยราชการยังส่วนกลาง หากมีปัญหาเรื่องการรับฝากเด็กเกิดขึ้น โดยตนจะยึดกฎของซุนวู ที่ว่าหากทุกคนเข้าใจตรงกันแล้ว ผู้บังคับบัญชาออกคำสั่งแล้ว แต่ทำไม่ได้ คนออกคำสั่งเองก็ต้องถูกลงโทษด้วย
รมว.ศธ.กล่าวด้วยว่า หากพบเห็นว่ามีการเรียกรับเงิน ให้ร้องเรียนมาที่ www.chinnaworn.com หรือโทร. ๑๕๗๙ หรือเบอร์โทรศัพท์ส่วนตัว โทร. ๐๘๑-๔๘๑ ๙๔๙๔ หรือ ๐๘๙-๕๙๙ ๙๕๕๙ ยืนยันว่านโยบายการรับนักเรียนในปีนี้ จะทำให้เป็นประวัติศาสตร์ได้จดจำว่า เราเปลี่ยนแปลงภาพการรับนักเรียนให้มีความเชื่อมั่นเหมือนกับการสอบเอ็นทรานซ์สมัยก่อน และหวังว่าผู้บริหารทุกท่านจะให้ความร่วมมือช่วยทำการรับนักเรียนปีนี้เป็นไปด้วยความเป็นธรรมและโปร่งใส ไม่มีการฝาก และเรียกรับเงินอย่างเด็ดขาด
ที่มา http://www.moe.go.th/websm/2011/jan/017.html