ดิฉันก็เป็นหนึ่งในหลายคนที่ไม่ประสบความสำเร็จในครั้งนี้ แต่ไม่ใช่ว่าการที่เราไม่ผ่านการประเมินวิทยฐานะจะทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตพังไปหมด ดิฉันไม่คิดเช่นนั้น ตอนแรกเลยนั้นก็อาจจะรู้สึกเสียใจบ้างเพราะเราทุ่มเททั้งเวลาและความเป็นส่วนตัว ชีวิตครอบครัวให้กับงานอย่างจริงจัง ดิฉันใช้เวลาปีครึ่งเพื่อจะได้ส่งผลงานที่ตั้งใจคิดมาเลยล่ะค่ะ แต่เมื่อไม่เป็นดังหวัง เราก็คงต้องพักทำใจสักระยะหนึ่ง ทุกคนมีโอกาสเท่าๆ กัน ที่จะสุข สมหวัง และเสียใจ เราต้องทำใจให้เป็นกลางปราศจากอคติและความลำเอียง แล้วจึงย้อนกลับมาเปิดดูซองคอมเม้นท์ที่ท่านคณะกรรมการทั้ง 3 ท่าน ได้ให้ข้อคิดและข้อเสนอแนะเรามา แล้วเราจะพบว่างานที่เราคิดว่าดีที่สุดสำหรับเราแล้วในตอนนั้น มันยังมีอีกหลายอย่างที่ยังบกพร่องอยู่มาก คราวนี้เราก็ต้องตั้งต้นใหม่ เพื่อแก้ไขและพัฒนางานของเราให้ดีขึ้น
ขั้นแรก ดิฉันจะปรับปรุงในสิ่งที่คิดว่าน่าจะทำได้อย่างสบายใจที่สุดก่อน นั้นคือ รายงานการปฏิบัติงานไม่เกิน 10 หน้า ค่อยๆ แก้ไปตามที่คณะกรรมการแต่ละท่านคอมเม้นท์เรามา เมื่อแก้และพัฒนาตรงนี้เสร็จจึงจะเริ่มไปตามลำดับความยากต่อไป อย่าลืมให้ผู้ที่ประสบความสำเร็จและผู้รู้ช่วยดูและให้คำแนะนำเราด้วยนะคะ
ขั้นที่สอง ดิฉันจะเริ่มต้นดูนวัตกรรมของเรา ว่าเราจะต้องปรับแก้ตรงส่วนไหนบ้าง เหมือนเดิมค่ะ ให้ผู้รู้ช่วยอ่านและแนะนำเราด้วย น่าจะไม่น้อยกว่า 3 คนนะคะ ที่สำคัญชิ้นงานของเราต้องให้เค้าช่วยดูและเขียนแนะนำได้ด้วย
ขั้นที่สาม ดิฉันจะดูวิจัย 5 บทค่ะ เป็นสิ่งที่ตนเองไม่ถนัด แต่มีความพยายามสูงมาก ค้นอะไรมาได้ก็ใส่ลงไป ก็เลยมีขยะอยู่เต็มงานวิจัยเลยค่ะ ใส่มากจนดูเหมือนหลงประเด็นไปเลย บทคัดย่อ แนวความคิด ค่าสถิติ เราเอาของใครมาต้องลงในบรรณานุกรมให้หมดนะคะ อ้างถึงอะไรต้องลงในบรรณานุกรมให้หมด บอกถึงที่มาให้ได้ งั้นเดี๋ยวโดนถามถึงค่ะ กรรมการท่านมีความละเอียดมาก ตรงไหนที่เราขาดท่านเจอหมดเลยค่ะ การประเมิน วิธีการประเมิน หลักเกณฑ์การประเมินเป็นอย่างไรบอกให้ละเอียด สิ่งสุดท้ายผลที่เกิดขึ้น เกิดกับใตรบ้างบอกมาให้หมด
ขอเอาใจช่วยเพื่อนครูทุกคนร่วมทั้งตัวดิฉันเองด้วย ให้ประสบความสำเร็จในการพัฒนาวิชาชีพของเราทุกคนนะคะ สิ่งสำคัญอยู่ที่ใจของเราท้อได้แต่อย่าถอยค่ะ เพื่อก้าวเดินไปสู่ความฝันที่เราตั้งใจไว้ โชคดีจงเป็นของเพื่อนครูทุกท่านค่ะ