วิกฤตการณ์ทางการเมืองในประเทศไทยที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและค่อนข้างยาวนานนั้น มีชื่อเรียกมากมาย เป็นต้นว่า ...ความเห็นต่าง... ความขัดแย้ง... การเผชิญหน้า... การเลือกข้าง....การแบ่งฝ่าย ก็เรียกกันไปไม่ผิดกติกา เพราะเป็นคำที่สื่อความหมายให้พี่น้องประชาชนเข้าใจได้ถูกต้อง ไม่ไขว้เขวและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เรียกไปเถอะครับ คำไหนก็ได้แล้วแต่ชอบ..........แต่มีอยู่คำหนึ่งที่น่าพูดถึง>>>>พวกเราบางคน เรียกว่า๑๑๑๑ “ความวุ่นวาย”๑๑๑๑ ซึ่งไม่น่าจะถูก
คำว่า “วุ่นวาย” มันมีที่มาของมันอยู่นะ ใช่ว่าอยู่เฉยๆ มันจะเกิดขึ้นเองได้ ตรงๆ เลยก็คือ เป็นผลกระทบซึ่งเกิดกับบุคคลจนถึงจุดที่ทนไม่ได้ (สำหรับใครที่ทนได้ก็ไม่เรียกอย่างนี้)
"แกรู้ไหม ฉันนะรำคาญเต็มทีแล้ว เมื่อไรเรื่องวุ่นวายจะหมดไปเสียที เสียเวลาทำมาหากิน ปิดถนนเป็นว่าเล่น รถราติดขัด ไม่ไหวแล้ว"
เหล่านี้คือตัวอย่าง.
.....ก็น่าเห็นใจ....น่าเห็นใจ...แต่เห็นว่า >>ท่านเหล่านี้ ซึ่งยังขาดความเข้าใจในสภาพของประเทศเราซึ่งอยู่ในระหว่างพัฒนาประชาธิปไตย เมื่อใดก็ตามที่มีความขัดแย้งทางการเมือง ความไม่สะดวก ความไม่สบายในการประกอบอาชีพ หรือในในการใช้ชีวิตประจำวัน ต้องเกิดขึ้นแน่นอน ไม่มากก็น้อย อยากจะเลี่ยงอย่างไรก็ไม่มีทางเลี่ยงได้พ้นหรอก คิดเสียว่าคนส่วนน้อยยอมลำบากเพื่อคนส่วนใหญ่ เพื่อความผาสุก ความสะดวกสบายแก่ลูกหลานของเราในวันข้างหน้า เอาอย่างนี้ก็แล้วกันนะพี่น้องเอ๋ย
เรื่องในบ้านเรายุติลงแล้ว แม้จะไม่เบ็ดเสร็จเด็ดขาด อย่างน้อยก็ทำให้คนไทยคลายเครียดลงได้ เป็นอันมาก
เหตุการณ์ที่เกิดในกรุงเทพฯ ประเทศในกลุ่มอาเซียนก็ให้ความสนใจเยอะเลย แต่ส่วนใหญ่จะเป็นการตำหนิ หรือไม่ก็กระแนะกระแหน หวังจะให้เขาเห็นอกเห็นใจน่ะหรือ ยาก....บอกว่ายากก็แล้วกัน
ขอยกให้ดูเป็นตัวอย่าง......ขอเลือกฟิลิปปินส์ว่า เขามองประเทศไทยอย่างไร ปรากฏว่า เมื่อไม่นานมานี้
นายแอนโทนี โกเลซ Anthony Golez รองโฆษกประจำตัวประธานาธิบดี กลอเรีย อโรโย ได้ออกข่าวว่า
ความขัดแย้งทางการเมืองจนเกิดความไม่สงบขึ้นในประเทศไทยนั้น ยากที่จะเกิดขึ้นได้ในประเทศของเรา
เพราะคนปินส์มีความเข้าอกเข้าใจ และมีความตื่นตัวทางการเมืองสูงมาก
เท่านั้นแหละงานเข้าทันที แหล่งข่าวบอกว่า เอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศฟิลิปปินส์ (ฯพณฯนายกุลกุมุท สิงหรา ณ อยุธยา) เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนทันที เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (๓ ธันวาคม ๒๕๕๑) ลึกๆในใจท่านทูต
คงคิดว่า แหม!! รองโฆษกออกมาพูดจาแบบนี้ หมันหยามหัวใจกันเหลือเกิน จะหมายความเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ นอกจากว่าคนไทยเป็นพวกอ่อนหัด ไม่ประสีประสาทางการเมืองเอาเลย
ท่านตัดสินใจฝากบอกไปยังรัฐบาลฟิลิปปินส์ผ่านสื่อมวลชนในมนิลาว่า การประท้วงในกรุงเทพฯ แท้จริงเป็นเรื่องเสรีภาพ เป็นการใช้สิทธิของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ พร้อมสำทับกลับไปว่า ลืมแล้วหรือ เราต่างก็เป็นสมาชิกอาเซียนด้วยกัน หลักการในการรวมตัวกันเป็นอาเซียน ระบุชัดเจนว่า ประเทศสมาชิกจะต้องไม่ก้าวก่ายในกิจการภายในของกันและกัน
ต้องขอสดุดี และคารวะท่านกุลกุมุท สิงหรา ณ อยุธยา มาด้วยใจจริง ว่าท่านทำหน้าที่ได้ดี และสมบุรณ์อย่างยิ่ง ในการปกป้องรักษา เกียรติภูมิของชาติไทยและคนไทย มา ณ ที่นี้
|