ดิฉันได้มีโอกาสดีมากที่ได้เป็น ครู ศศช.มอโพทะ อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2542 - 2 กุมภาพันธ์ 2544 กว่าจะได้เป็นครูในครั้งนี้ ก็ลำบากน่าดู ตั้งแต่การมาสมัคร การไปดูพื้นที่ทั้งที่พึ่งมาสมัครงาน การสอบแข่งขัน แต่ดิฉันได้ได้โอกาสดี ที่สอบได้ ที่ 16 จากคนสมัคร 500 และคนสอบ 300 ศศช.มอโพทะนี้อยู่ไกลมาก เป็นกลุ่มศศช.ที่อยู่ไกลจริงๆ ทั้งกลุ่ม มี 6 ศศช. ด้วยกัน แต่ศศช.ชาวบ้านยังไม่เคยมีโรงเรียน ยังไม่เคยมีครูมาสอน ยังพูดและฟังภาษาไทยไม่เข้าใจ 99 % โครงการให้มีครูสอน ศศช.นี้ เป็นโครงการของเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน ให้ครูสอนภาษาไทยให้กระเหรี่ยง จะได้รักประเทศไทย แต่กลายเป็นว่ากะเหรี่ยงต้องมาสอนภาษาให้ครูคนไทย ไม่อย่างนั้นก็สื่อสารกันไม่เข้าใจ ด้วยความที่เราสามารถเรียนรู้ได้เร็วกว่า เลยต้องทำแบบนี้ไปก่อน ทราบไหมว่าข้าพเจ้าได้อะไรจากการเป็นครู ที่ทำได้ครั้งเดียวแบบนี้
สิ่งที่ได้มีแต่สิ่งดีๆ
1. เพื่อน ไม่เคยเลยที่จะสนิทกับเพื่อนที่ใดมากเท่ากับเพื่อนที่อาชีพตรงนี้ ได้แม้กระทั่งดมอึซึ่งกันและกัน ทุกข์กาย -ใจ ด้วยกัน กินแล้วก็เดิน แล้วก็นอนด้วยกัน
2. การเดินทาง - รถยนต์ขึ้นเขา ลื่น มีเหว อันตราย รถรถ 1-2 วันก็มี (รถไม่มีสัญจรมากนัก) โบกรถ ก็มี (ทำบ่อย)เส้นทาง จากเชียงใหม่-เสรียง ,แม่เสรียง-แม่สอด ,-แม่สอด-แม่ระเมิง
- การเดินเท้า 1 วันเต็ม จนค่ำมืด หรือ 2 วัน พอดีเดินได้
3. การกิน อยู่ หลับนอน -นอน ชายหญิงนอนกองกัน - การกิน ต้องแบกอาหารไปเอง ให้พอตลอดทั้งเดือน กับชาวบ้านก็นำพริก อร่อยไม่ลืม คือข้าวตำครก สีแดง -การอาบนำ เข้าส้วม แบกะดิน อาบน้ำกลางห้วย -ความหนาวเย็นหนาวที่สุดในชีวิตที่เคยเจอ มา เสื้อ 3 ชั้น อย่างหนา ถุงนอน 1 ผืน ผ้าห่ม1 ผืน ถุงเท้า 2 ชั้น ถุงมือ หมวกไอ้โม่ง ยังหนาวจนนอนไม่หลับคิดดู
4. การแบ่งปัน ทั้งอาหาร น้ำใจ แม้กระทั่วอุปกรณ์การเรียนของแต่ละโรงเรียน
ประสบการณ์ที่ไม่เคยลืม ตลอดชีวิต กับสิ่งดีๆที่ได้รับ
การตัดสินใจเลิกเป็นครูแบบนี้ เพราะเรายังมีพ่อ แม่ พี่ น้อง รอเราอยู่เราอยู่ตรงนั้นตลอดไม่ได้ เราแค่ได้ผ่านจุดนั้นมาในช่วงหนึ่งของชีวิต อุดมการณืมันกินและใช้ไปตลอดไม่ได้ในบางอย่าง แต่ความอยากเป็นครูเราก็ยังมี ต่อไปคือการตั้งใจสอบบรรจุครู เป็น อ.1 ระดับ 3 ดำเนินชีวิตครูอีกแบบที่คนรู้จักโดยทั่วไป