Advertisement
ตอน การเดินธุดงค์
หลังจากที่ผมได้อบรมทั้งภาคทฤษฎี และปฏิบัติในหลักสูตร ครูสมาธิแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะต้องเดินธุดงค์แล้ว ผมโชคดีหรือร้ายไม่ทราบ ได้ออกธุดงค์ช่วงฤดูร้อนพอดี บนดอยอินทนนท์ ก็มองในแง่ดีว่าไม่หนาวแน่ ก่อนเดินทางก็มีการประชุมในเรื่องการเตรียมอุปกรณ์ต่าง ๆ แถมได้ข่าวว่ารอบนี้มีฝรั่งจากแคนาดามาร่วมธุดงค์ด้วย ก็เตรียมซ้อมภาษากันใหญ่ พอถึงวันเดินทางเราออกรถเป็นขบวนเวลา 07.00 น. ไปถึงดอยอินทนนท์ ก็ประมาณ 09.00 น. ไปถึงทางสถานปฏิบัติธรรมก็มีอาหารเช้าเลี้ยง ระหว่างนั้นเราก็วุ่นวายกับการจัดกลุ่ม และซื้อไม้เท้าที่ชาวบ้านเอามาเร่ขายกัน ทำไมต้องซื้อ เพราะเวลาขึ้นเขาต้องใช้ค้ำช่วยในการเดินน่ะสิ จากนั้นฝ่ายลูกหาบเค้าก็จะมาเอาสัมภาระของเราล่วงหน้าไปก่อน เรามีหน้าที่เอาของที่จำเป็นเช่นกระติกน้ำ ฯลฯ ติดตัวไปเท่านั้น หลังจากนั้นก็พักผ่อนเอาแรงจนประมาณ 10.00 น. หลวงพ่อวิริยังค์ ได้เดินทางมาถึงพร้อมกับฝรั่งแคนาดา พวกเราตื่นเต้นกันมาก เพราะหวังจะได้ใกล้ชิดกับหลวงพ่อที่เป็นศิษย์ของหลวงปู่มั่น จากนั้นหวงพ่อก็เข้าไปฉันเพล และพักผ่อน จนถึงเวลาประมาณ 13.00 น. เราก็เริ่มทำพิธีอธิษฐานธุดงค์ เมื่อเสร็จก็เตรียมขบวนเดินขึ้นเขาวันแรก พวกผมได้กลุ่มที่ 13 กลุ่มแคนาดาจะเป็นกลุ่มแรกที่ได้เดินไปกับหลวงพ่อ วันแรกของการเดินยอมรับว่าร้อนสุด ๆ เพราะเดินตอนบ่าย แต่ยังไงก็สู้ตาย ได้เตรียมปลอกแขน หมวก ที่ปิดหน้าไม่ให้แดดเผาเรียบร้อยแล้วนี่ ระหว่างทางก็มีครูพี่เลี้ยงคอยเดินให้กำลังใจตลอด ให้ท่องคาถา โส อะ อะ กันตลอดทาง นัยว่าไม่ให้เหนื่อย เค้าเรียกว่าคาถาหัวใจกระต่าย แต่บางคนก็บอกให้ภาวนาพุทโธ ไปด้วย แต่พวกเราก็ไม่ได้ทำสักอย่าง เพราะคุยกันไปตลอด สนุกสนาน ในระหว่างเดินก็จะมีพ่อค้าแม่ค้าซึ่งเป็นคนแถวนั้นหาบน้ำไปขายตลอดทาง เราก็ใช้บริการได้ตลอดเส้นทาง พวกเราจะเรียกลับหลังว่า เซเว่นเคลื่อนที่ กลุ่มนี้เค้าตามเราไปจนเสร็จการธุดงค์จริง ๆ สุดยอดมาก ๆ เดินไปประมาณ 3 ชั่วโมงก็ถึงที่พักวันแรก ได้ยินเสียงน้ำตกไหล เราก็อุ่นใจว่าเดี๋ยวก็ได้พักแล้ว พอถึงที่พักปรากฏว่าเจ้าหน้าที่เค้าได้กางเต้นท์และจัดกลุ่มของเราเรียบร้อยแล้วในเต้นท์ สัมภาระของเราก็ไปอยู่เรียบร้อยแล้ว ยอมรับว่าจัดการได้อย่างมีระบบ สิ่งที่เราเห็นแปลกคือเต้นท์เล็ก ๆ รูปจรวด ซึ่งเราก็สงสัยว่าคืออะไร มาทราบภายหลังว่าเป็นห้องน้ำเคลื่อนที่ แต่มีคนบอกว่าไม่จำเป็นอั้นได้ก็อั้นดีกว่า หรือถ้าจะเข้าต้องเป็นคนแรก เพราะคนที่เข้าภายหลังจะเจอกลิ่นที่รุนแรงมาก ๆ อันนี้ผมยืนยันได้ว่าจริง ตอนแรกก็มีทีท่าว่าจะปวดหนัก พอไปเจอเข้าจริงๆ อั้นดีกว่า หลังจากอาบน้ำและรับประทานอาหารเสร็จ พวกเราก็รวมตัวกันที่ลานกว้าง เพื่อจะสวดมนต์ทำวัตรเย็น และนั่งสมาธิ หลังจากนั้นก็จะมีการสลับกันแสดงความรู้สึกระหว่างคนไทย และแคนาดา โดยจะมีล่ามเป็นคนแปล หลายท่านอาจจะสงสัยแล้วแคนาดา สวดมนต์อย่างไร เค้าก็จะมีหนังสือสวดมนต์เป็นภาอังกฤษ เป็นคำอ่านแบบบาลีให้สวด วันแรกก็เจอเลยระหว่างนั่งสมาธิ รู้สึกเหมือนมีคนเดินมาอยู่ตรงหน้าเรา แรกๆก็คิดว่าสงสัยพวกครูพี่เลี้ยงมาดุว่าเรานั่งถูกไหม เลยตั้งใจ แต่พอลืมตาหลังจากออกจากสมาธิ เราก็ว่าพื้นที่แคบขนาดนี้ใครจะมายืนได้ แต่คุยกับเพื่อนที่นั่งข้าง ๆ เค้าก็บอกว่ารู้สึกเหมือนกัน ตกลงคืออะไรกันแน่ หลังจากนั้นก็แยกย้ายกันเข้านอนเพื่อจะตื่นมาปฏิบัติกันตอน 04.00 น. ปรากฎว่าคืนแรกนอนไม่หลับ เพราะกลุ่มข้าง ๆ ส่งเสียงคุยกันทั้งคืน อันนี้ก็ถือว่าเป็นการทดสอบขันติเหมือนกันนิ กว่าจะหลับได้ก็ประมาณเที่ยงคืนกว่า ๆ ก็มาสะดุ้ง เพราะประมาณ ตี 2 คนแก่นอนไม่หลับก็ลุกมาทำอะไรกุกกัก จนนอนไม่หลับ ก็คงให้เราฝึกอดทนอีกแหละ จนถึงตี 4 ก็ได้ยินเสียงประกาศว่าให้ลุกมาทำสมาธิในเต้นท์ ประมาณ 30 นาที จากนั้นทุกคนก็ทำกิจวัตรส่วนตัว มารับประทานอาหารเวลา 07.00 น. จากนั้นก็รวมตัวสวดมนต์ทำวัตรเช้า ทำสมาธิอีก 30 นาที ครูพี่เลี้ยงก็เอาอาหารกลางวันมาแจก และเตรียมเดินกันต่อ พวกเราต้องระวังมาก ๆ ในเรื่องอาหาร เพราะเป็นที่รู้กันว่าการข้าไปนั่งในส้วมเคลื่อนที่กลิ่นมันเป็นอย่างไร ไม่ว่าคนกินเนื้อหรือกินมังสวิรัติ พออกมาก็กลิ่นรุนแรงเหมือนกัน ทำให้ปลงได้ว่าร่างกายคนเรามีแต่ของสกปรก อาหารที่กินเข้าไปก็เป็นปฏิกูล ก่อนเข้าปากสวยยังไง เวลาออกมาก็ไม่น่าดูชมเหมือนกัน วันที่สองก็เดินดุเดือด คือเดินตั้งแต่ 08.00 น. – 16.00 น. ถึงที่พัก ตรงนี้ดีหน่อยที่พักแรมแถวสถานที่น้ำตกแม่กลาง มีร้านอาหารประเภท ส้มตำ ไก่ย่างมากมาย วันนี้เราไม่สนอาหารที่เค้าจัดเลี้ยง จัดการซื้อจากแม่ค้ามากินกันในช่วงเย็น จากนั้นก็ทำวัตรเย็น และทำสมาธิเช่นเคย แต่พอแสดงความคิดเห็น บางท่านก็ออกมาตำหนิกัลยาณมิตรบ้าง บางท่านก็แสดงศรัทธาอย่างรุนแรงบ้าง แล้วแต่ว่าใครจะมีความเห็นอย่างไร แต่ถึงตอนนี้นอกจากเราจะได้ฝึกขันติแล้ว เราก็ได้ฝึกมองตัวเองด้วยว่าเราปฏิบัติถึงไหนแล้วจากอารมณ์ที่มากระทบไม่ว่าจะพึงใจหรือไม่ เหตุการณ์ไม่มีอะไรจนถึงช่วงเช้า มีการนั่งสมาธิ ก็เกิดนิมิต เป็นงูตัวโตเล็ดสีทองเลี้อยผ่านไป เราก็ตกใจว่าคืออะไร แต่ก็ยังหลับตาภาวนาต่อไป จนกระทั่งออกจากสมาธิ ก็ถามเพื่อนกับครุพี่เลี้ยงเค้าก็ได้แต่ยิ้ม ๆ เราเองก็เฉยๆ เพราะตามที่เรียนมามันก็คือนิมิตชนิดหนึ่ง ซึ่งไม่ควรไปยึดถือ เพราะถ้ายึดแล้วมันอาจจะหลงได้ จากนั้นเราก็มีโอกาสได้ถ่ายรูปกับหลวงพ่อวิริยังค์ เรามีโอกาสได้ใกล้ชิดท่านเลย ปลื้มสุด ๆ จากนั้นก็เดินทางต่อ รอบนี้เดินทรหดที่สุด เพราะต้องขึ้นดอยสูงชันมาก จนกระทั่งถึงยอดเขาตอนเย็นอันเป็นที่พักวันสุดท้าย พวกเราฉลองด้วยการกินอาหารอย่างเต็มที่ โดยไม่กลัวท้องเสีย เพราะมั่นใจว่ายังไงเราอั้นได้แน่ จากนั้นก็นั่งสมาธิอีก ครานี้นิมิตเกิดอีกเห็นเป็นยักษ์ตัวสูงถือกระบอกมานั่งคุกเข่าข้าง ๆ เรา เราก็ถามจิตว่า ใครคือผู้รู้ตามที่ครูบาอาจารย์สอน เพื่อที่จะให้แน่ใจว่าสิ่งที่เห็นหลอกหรือจริง พูดง่าย ๆ คือเรียกสติมาน่ะแหละ ถ้านิมิตหายแสดงว่าเราคิดไปเอง ถ้ายังอยู่เนี่ยของจริง ปรากฏว่าหายไป ก็ถือเป็นแบบทดสอบว่าในอนาคตถ้าเจอแบบนี้เราจะเรียกสติทันไหม จากนั้นก็เข้านอน ประมาณ 04.00 น. เราก็ตื่นเพื่อทำกิจวัตรประจำวันกัน จากนั้นหลวงพ่อก็ให้เร้าทำพิธีขอขมาเจ้าป่าตลอดวิญญาณที่อยู่บนดอยอินทนนท์ และแผ่เมตตา เสร็จแล้วเราก็เดินลงมาข้างล่าง เพื่อทำพิธีปัจฉิมนิเทศ ที่สถานปฏิบัติธรรม เพื่อเป็นเครื่องหมายว่าเราจบหลักสูตรกันอย่างสมบูรณ์แล้ว ยอมรับว่าการเดินทางครั้งนี้คุ้มค่าและสนุกจริง ๆ ถ้ามีโอกาสอยากจะชวนท่านมาเรียนหลักสูตรครูสมาธิกัน และฝึกสมาธิกันมาก ๆ รับรองมีแต่ได้ ไม่มีเสีย คงไม่ต้องถามนะครับเมื่อลงดอยมาสิ่งแรกเราคิดถึงอะไร หลังจากที่เก็บมันมาหลายวัน อิๆๆ
วันที่ 27 พ.ย. 2551
Advertisement
เปิดอ่าน 7,144 ครั้ง เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง เปิดอ่าน 7,144 ครั้ง เปิดอ่าน 7,145 ครั้ง เปิดอ่าน 7,147 ครั้ง เปิดอ่าน 7,377 ครั้ง เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง เปิดอ่าน 7,143 ครั้ง เปิดอ่าน 7,144 ครั้ง เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง เปิดอ่าน 7,164 ครั้ง เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง เปิดอ่าน 7,136 ครั้ง เปิดอ่าน 7,147 ครั้ง เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง
|
เปิดอ่าน 7,165 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,138 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,144 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,145 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,143 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,151 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,142 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡
เปิดอ่าน 16,934 ครั้ง |
เปิดอ่าน 9,338 ครั้ง |
เปิดอ่าน 37,682 ครั้ง |
เปิดอ่าน 56,680 ครั้ง |
เปิดอ่าน 14,063 ครั้ง |
|
|