ลมหนาวมาแล้ว หลายท้องที่เย็นยะเยือกจนผู้คนจับไข้หวัดอ่วมอรทัยไปตามๆ กัน แต่บางพื้นที่ยังพอตั้งตัวทัน คว้าเสื้อกันหนาวหนามาให้ความอบอุ่น และบางคนที่รวยสักหน่อยอาจคิดถึงการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่
คำถามที่ตามมาคือว่าแล้วใครกันที่จำเป็นต้อง ฉีดวัคซีนป้องกัน เรื่องนี้ แมรี พิคเคทท์ แห่งฮาร์วาร์ด เมดิคัล สคูล ในสหรัฐฯ เขียนบทความลงเว็บไซต์ www.intelihealth.com สรุปได้ว่า การฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่นั้นเป็นหนทางที่ดีทางหนึ่งในการป้องกัน โดยส่วนใหญ่คนที่ได้รับวัคซีนจะไม่เจ็บป่วยด้วยโรคนี้ และถ้าเป็นก็จะอาการเบาลง
อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องทราบไว้ก่อนคือว่าการจะป้องกันได้ดีที่สุดนั้น จำเป็นต้องมีการฉีดวัคซีนซ้ำในทุกปี เพราะตัวไวรัสไข้หวัดใหญ่จะเปลี่ยนไปเรื่อย ทุกปีมีไวรัสตัวใหม่เกิดขึ้น และทุกปีผู้เชี่ยวชาญก็จะผลิตวัคซีนใหม่มาต้านทาน นั่นหมายถึงว่าวัคซีนที่ถูกฉีดเข้าไปนั้นมันป้องกันได้จำกัดสายพันธุ์ ที่กระจายอยู่ในฤดูนั้นๆ
สำหรับกลุ่มคนที่ควรแก่การฉีดวัคซีนก็ได้แก่ คนอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป หรือเด็กอายุ 6 เดือน ถึง 19 ปี คนที่เป็นโรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคปอด ผู้ที่มีอาการเจ็บป่วยที่จะต้องไปคลินิกหรือไปโรงพยาบาลบ่อยๆ ระหว่างฤดูไข้หวัด หรือทำงานอยู่ในโรงพยาบาล คนที่กินยาที่มีฤทธิ์กดภูมิคุ้มกัน เป็นต้น
คนในกลุ่มที่ยกมาเป็นตัวอย่างข้างต้นนี้หากจะมีการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ป้องกันไว้ก่อนก็นับว่าเป็นการดี เข้าทำนองที่ว่า “กันไว้ดีกว่าแก้” ตามคำโบราณท่านว่าไว้นั่นเอง
ข้อมูลและภาพจาก ไทยรัฐ