การที่ลูกน้อยตัวกะเปี๊ยกในวันนี้ อนาคตเติบโตมา โดยถูกหล่อหลอมให้กลายเป็นคนที่ตรงต่อเวลา ก็เป็นเครื่องหมายการันตีระดับหนึ่งแล้วค่ะ ว่าเป็นคนเอาการเอางาน มีระเบียบและไว้เนื้อเชื่อใจได้
ซึ่ง ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ นักวิชาการ นักคิด นักเขียน และคอลัมน์นิสต์ของ M&C แม่และเด็ก ของเรา เคยกล่าวไว้เกี่ยวกับเรื่องการตรงต่อเวลาว่า พ่อแม่ควรสอนให้ลูกดำเนินชีวิตอย่างมีเป้าหมาย เด็กๆ ควรเรียนรู้ว่า เวลาในแต่ละวันนั้นมีจำกัดและเป็นสิ่งที่มีค่า เพราะเมื่อมันผ่านไปแล้วก็ผ่านไปเลย ไม่สามารถย้อนกลับคืนมาใหม่ได้ และบางครั้งก็อาจทำให้เขาเสียโอกาสที่ดี ๆ ในชีวิตไป หลายคนอาจมีความคิดว่า "ไว้ค่อยสอนลูกตอนโตก็ได้นี่นา สอนตอนนี้เขาก็ยังไม่รู้เรื่องหรอก"
ก็ไม่ผิดค่ะ - ไว้ตอนโตก็ได้ แต่หากเริ่มต้นเร็วก็ยิ่งได้เปรียบกว่ามิใช่รึ สอนซะตั้งแต่ยังเล็ก ๆ อยู่ เขาก็จะซึมซับ รับเข้าไปในวิถีชีวิต ติดตัวไปตลอดไป ยิ่งเด็กในช่วงวัยนี้ด้วยแล้ว ซึ่งทางวิทยาศาสตร์ก็ย้ำหนักแน่นว่า เป็นวัยที่สมองของเด็กมีการพัฒนาสูง หรืออาจกล่าวอย่างคุ้นเคยว่า "เป็นช่วงเวลาทอง" ในการเรียนรู้และซึมซับสิ่งต่าง ๆ ได้รวดเร็วกว่าวัยอื่น ๆ
ตามธรรมชาติความซุกซน ดื้อรั้นของเด็กก็อาจเป็นการยากสักหน่อย ต่อจากนี้ ก็ขึ้นอยู่กับจิตวิทยาของพ่อแม่แล้วค่ะ ว่าจะมีวิธีการล่อหลอกอย่างไรบ้าง เพราะเด็กแต่ละคน ก็ถูกเลี้ยงดูในสภาพแวดล้อมที่ต่างกัน วิธีต่าง ๆ ก็อาจต้องปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์เรื่อย ๆ
การสอนลูกวัยนี้ในเรื่องตรงต่อเวลา ในที่นี้เราอาจร่วมประดิษฐ์นาฬิกาของเล่นร่วมกับลูกก็ได้ คือมีส่วนร่วมด้วยความเต็มใจ พร้อมสนุกสนานไปด้วย เราอาจสอนลูก เช่น เขาควรรู้ว่า เวลาไหนควรเข้านอน ควรตื่น ควรกินอาหาร ควรเล่น ตัวอย่าง เวลานอน พ่อแม่ก็อาจชี้ที่เข็มนาฬิกาแล้วบอกกับเขาว่า "ถ้าเข็มสั้นถึงเลข 7 คือแม่จะเล่านิทานให้หนูฟัง" และ "ถ้าเข็มสั้นอยู่ที่เลข 8 คือเวลาที่หนูต้องนอน" หรือ เวลาเล่นของหนูคือ เลข 9 แล้วถ้าเข็มสั้นชี้ที่เลข 10 หนูต้องเก็บของเล่นแล้วนะ สิ่งเหล่านี้ นอกจากช่วยสอนให้ลูกน้อยเคารพเวลาแล้ว เขาก็สามารถบังคับตนเองเพื่อให้บรรลุเป้าหมายความสำเร็จที่ตั้งใจไว้ และรู้จักรอคอย มีน้ำอดน้ำทนมากขึ้น ไม่โวยวาย แสดงอาการเจ้าโลกต้องได้เดี๋ยวนั้นเดี๋ยวนี้ค่ะ
หัวใจหลัก...สอนลูกตรงต่อเวลา
ควรทำให้เป็นเรื่องสนุกสนาน อารมณ์ดี โดยอาจใช้วิธีการจูงใจต่าง ๆ ให้ลูกอยากทำ ทั้งคำชมเชยให้กำลังใจ การให้รางวัล โดยอาจใช้วิธีทำตารางดาวแบบง่าย ๆ ก็ได้ค่ะ ถ้าสะสมดาวครบ 5 ดวง คุณแม่จะพาไปกินไอศกรีม หรือถ้ารอจนครบ 10 ดวง ก็อาจพาไปเที่ยวทะเล หรือเขาดิน และที่สำคัญ ควรอธิบายเหตุผลอย่างง่าย ๆ แต่ละเรื่องที่เราสอนเขาว่า ถ้าเขาทำแบบนี้แล้วจะมีผลลัพธ์ที่ดีอย่างไร ทุก ๆ ครั้งร่วมไปด้วย เพื่อเป็นการตอกย้ำอย่างสม่ำเสมอถึงประโยชน์การตรงต่อเวลา
ขอบคุณแหล่งที่มา :: M&C แม่และเด็ก