โดยการสำรวจพบว่า กว่า 75% ของพ่อแม่ชาวอเมริกัน มักจะแอดเฟซบุ๊กของลูก ๆ ไว้ในลิสต์รายชื่อเพื่อนของตัวเอง เพื่อติดตามเรื่องราวและความรู้สึกนึกคิดของลูกวัยรุ่น รวมไปถึงพฤติกรรมของพวกเขาที่ปฏิบัติกับเหล่าเพื่อน ๆ ในอินเทอร์เน็ต
เรจิน่า เลวิส หนึ่งในคณะสำรวจ ได้กล่าวว่า ตอนนี้ประเด็นเรื่องการแอดเฟซบุ๊กของลูกกลายเป็นประเด็นอันดับ 1 ที่บรรดาพ่อแม่กำลังถกกันอยู่ เนื่องจากจะเป็นวิธีการที่ให้ประโยชน์มาก ในการสร้างความใกล้ชิดกับลูก ๆ และติดตามพฤติกรรมของพวกเขาผ่านอินเทอร์เน็ต โดยขณะนี้ เปอร์เซ็นต์ของผู้ปกครอง ที่แอดเฟซบุ๊คของลูกไว้ในลิสต์นั้นมีจำนวนมากเลยทีเดียว เรียกว่านับเป็น 70% ของผู้ปกครองทั้งหมดในสหรัฐฯ เลยก็ว่าได้ แต่ในขณะเดียวกัน เหล่าวัยรุ่นกว่า 30% กลับยอมรับว่า ถ้าเลือกได้พวกเขาไม่อยากจะเพิ่มเฟซบุ๊คของพ่อแม่เข้าเป็นเพื่อนเลย เนื่องจากบางอย่างก็เป็นเรื่องส่วนตัวมากเกินไป และคิดว่าผู้ปกครองอาจรับไม่ได้
นอกจากนี้ ยังได้มีการเก็บข้อมูลจากผู้ปกครองทั้งหมด 1,024 ครอบครัว และบรรดาวัยรุ่นอายุ 13-17 ปี อีก 500 คน ปรากฏว่า บรรดาวัยรุ่นกว่าครึ่งรู้จักเพื่อนในลิสต์ของตัวเองไม่ถึงครึ่ง จากจำนวนเพื่อนตัวเองทั้งหมด ขณะที่ 41% ของผู้ปกครองเปิดเผยว่า พวกเขารู้จักเพื่อนลูก ๆ เกินครึ่งของเพื่อนลูกทั้งหมดในเฟซบุ๊ก และอีก 20% กล้าที่จะบอกลูกตัวเองเพื่อลบรายชื่อเพื่อนบางคนออกจากลิสต์ เมื่อพบว่าเพื่อนคนนั้นมีพฤติกรรมส่อไปในทางที่ไม่ดี
อย่างไรก็ตาม เลวิส ผู้จัดทำแบบสำรวจ ได้แสดงความคิดเห็นว่า ไม่ว่าผู้ปกครองจะมีความเห็นอย่างไรเกี่ยวกับการแอดเฟซบุ๊กของลูกก็ตาม แต่การดูแลลูก ๆ ในการใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อติดต่อกับเพื่อนในโลกออนไลน์ ก็ควรที่จะต้องอยู่ในความดูแลของพ่อแม่ผู้ปกครองอยู่ดี และเธอก็สนับสนุนอย่างยิ่งที่พ่อแม่จะติดตามพฤติกรรมของลูก ๆ ผ่านเฟซบุ๊กของพวกเขา
แหล่งข่าว :: สำนักข่าวรอยเตอร์ส