ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมเรื่องราวจากสมาชิก  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

BEST PRACTICE กับ การตรัสร้ของพระพุทธเจ้า


เรื่องราวจากสมาชิก เปิดอ่าน : 6,405 ครั้ง
BEST PRACTICE    กับ  การตรัสร้ของพระพุทธเจ้า

Advertisement

     

 
     
    

 


Best Practice กับการจัดการความรู้อย่างง่าย

            วิจารณ์  พานิช  (อ้างถึงใน วันทนา เมืองจันทร์ และเต็มจิต  จันทคา 2548 : 12) กล่าวว่า วิธีการจัดการความรู้อย่างง่าย คือ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากวิธีการทำงานแบบ Best Practice  

            องค์ประกอบสำคัญประการหนึ่งของการจัดการความรู้ คือ การมีฐานข้อมูลเกี่ยวกับวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศของหน่วยงานต่างๆ ที่มีผลงานดีเด่นเป็นที่ยอมรับในด้านต่างๆ  (เช่น ด้านแนวคิด กระบวนการวางแผน การดำเนินงานตามแผน การประเมินผล และการมีส่วนร่วมของชุมชน) โดยมีการเผยแพร่วิธีปฏิบัติงานที่เป็นเลิศ  เพื่อให้หน่วยงานอื่นได้นำไปปรับใช้ ซึ่งเป็นไปตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.. 2546 ในมาตรา 11 ระบุว่า ส่วนราชการมีหน้าที่พัฒนาความรู้ในส่วนราชการ เพื่อให้มีลักษณะเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้อย่างสม่ำเสมอ

Best Practice  คือ อะไร

            Best  Practice คือ วิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ ในการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งให้สำเร็จ ซึ่งเป็นผลมาจากการนำความรู้ไปปฏิบัติจริง แล้วสรุปความรู้และประสบการณ์นั้น เป็นแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดของตนเอง (บูรชัย  ศิริมหาสาคร,2548)

            Best  Practice จึงเป็นบทสรุปของวิธีการปฏิบัติที่เป็น Tacit Knowledge (ความรู้ในตัวคน) ซึ่งเผยแพร่เป็น Explicit Knowledge (ความรู้ที่ปรากฏให้เห็นชัดแจ้งในรูปแบบต่างๆ) เพื่อให้ผู้อื่นได้นำไปทดลองปฏิบัติ

Best Practice  กับทฤษฎีการเรียนรู้ของ Thorndike

            Edward  Lee Thorndike (พ.. 2417-2492) เป็นนักจิตวิทยาชาวอเมริกันผู้ค้นพบทฤษฎีความต่อเนื่อง (Connectionism)  ทฤษฎีนี้ มีความเชื่อว่า การเรียนรู้เกิดจากการลองผิดลองถูก เช่น เมื่อให้ผู้เรียนทำกิจกรรมอะไรอย่างหนึ่งซึ่งไม่มีความรู้ในเรื่องนั้นมาก่อน ผู้เรียนจะทำแบบลองผิดลองถูก เพื่อเลือกที่จริง ทิ้งที่เท็จ จนกระทั่งจับได้ว่า ควรทำอย่างไร จึงจะถูกต้องและรวดเร็ว ก็จะเลือกทำด้วยวิธีนั้นในครั้งต่อไป

            นั่นคือ ผู้เรียนได้สร้าง  Best Practice  ในการทำงานของตนเอง ซึ่ง Best Practice  ของผู้เรียนแต่ละคน อาจจะเหมือนหรือไม่เหมือนกันก็ได้ เพราะเป็นข้อสรุปวิธีการทำงานที่ต่างคนต่างค้นพบตามแนวทางของตนเอง เมื่อนำมาเปรียบเทียบกัน จึงจะรู้ว่า วิธีการของใครดีที่สุด

Best Practice  กับการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า

            พระพุทธเจ้าเป็นศาสดาที่แตกต่างจากศาสดาของศาสนาอื่น กล่าวคือ มิได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าด้วยเทวโองการ ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์จากสวรรค์ที่ดลบันดาลประทานให้  แต่ทรงตรัสรู้ด้วยวิธีการจัดการความรู้ (Knowledge Management) แล้วสรุปผลการปฏิบัติ เป็น Best Practice  (วิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ) อันได้แก่ ทางสายกลางหรือมัชฌิมาปฏิปทา ในพระพุทธศาสนา ทรงใช้เวลานาน 6 ปี ในการจัดการความรู้ ก่อนที่จะสรุปเป็น Best Practice  โดยมีวิธีการต่างๆ ดังนี้          

            1. การแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับผู้อื่น (Share & Learn) โดยสมัครเข้าศึกษาธรรมในสำนักของอาฬารดาบส และอุทกดาบส จนสำเร็จสมาบัติ 7-8 ซึ่งเป็นสมาธิขั้นสูงสุด ทรงมีวิจารณญาณว่า  วิธีการดังกล่าว ยังมิใช่หนทางดับทุกข์ได้อย่างสิ้นเชิง (ไม่ใช่ Best Practice)

            2. การปฏิบัติแบบลองผิดลองถูกด้วยตนเองตามความเชื่อของคนในยุคนั้น คือ การบำเพ็ญทุกรกิริยา ด้วยการทรมานตนเอง ให้ได้รับความลำบากมากที่สุด เพื่อเป็นการชดใช้กรรมให้หมดและขอให้เทพยดาประทานพรให้ ทรงทรมานตนเองถึงขั้นอุกฤษฎ์ ด้วยการอดอาหารจนเกือบสิ้นพระชนม์ แต่ก็ไม่พบหนทางแห่งการดับทุกข์

            3. การสรุปบทเรียน (Lesson Learned) ทบทวนสิ่งที่ได้ปฏิบัติไปแล้ว เป็น Best Practice  โดยปรียบเทียบกับพิณ 3 สาย คือ สายหย่อน สายตึง และสายกลาง ดังนี้

                        3.1 สายหย่อน (กามสุขัลลิกานุโยค) คือ การแสวงหาความสุขด้วยการบริโภคกาม ลุ่มหลงในรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ตามแบบคนทั่วไป ทรงพบว่า ไม่ใช่หนทางแห่งการดับทุกข์ เพราะทรงใช้ชีวิตตามแนวทางนี้มาแล้ว เมื่อครั้งเป็นเจ้าชาย

                        3.2 สายตึง (อัตตกิลมถานุโยค) คือ การทรมานตนให้ได้รับความลำบาก ก็ทรงทำมาแล้วแต่ก็ไม่พ้นทุกข์

                        3.3 สายกลาง (มัชฌิมาปฏิปทา) คือ การปฏิบัติตามมรรคมีองค์ 8 ไม่ตึงหรือหย่อนจนเกินไป

            ภายหลังที่พระองค์ได้จัดการความรู้แล้ว ทรงยินดีในทางสายกลาง และทรงเลือกปฏิบัติตามวิธีการนี้ ทำให้ตรัสรู้ (อริยสัจ 4 ) เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และทรงประกาศพระศาสนาให้มัชฌิมาปฏิปทาหรือ ทางสายกลาง เป็น Best Practice ที่พุทธศาสนิกชน ควรนำไปปฏิบัติ ดังปรากฎในธัมมจักกัปปวัตตนสูตรปฐมเทศนาที่ทรงแสดงแก่ปัญจวัคคีย์

            ด้วยพระปัญญาธิคุณอันเป็นผลมาจากการจัดการความรู้ในครั้งนั้น ทำให้คนรุ่นหลังในกาลต่อมาได้ วิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) เป็น เอกายโน มค.โค (ทางสายเอก) โดยไม่ต้องเสียเวลาลองผิดลองถูกเหมือนกับพระองค์

Best Practice  มีความสำคัญอย่างไร

            จากหลักการที่ว่า ถ้าได้นำความรู้ไปใช้ ความรู้นั้น ก็ยิ่งเพิ่มคุณค่า เพราะทำให้เกิดการต่อยอดความรู้ให้แตกแขนงออกไปอย่างกว้างขวาง ดังนั้น เป้าหมายสำคัญประการหนึ่งของการจัดการความรู้ในองค์กร คือ เพื่อให้คนในองค์กร มี Best  Practice  ในการทำงาน ที่ช่วยเพิ่มผลผลิตทั้งในด้านคุณภาพและปริมาณ ดังคำกล่าวของ Peter  Senge  ที่ว่า ความรู้ คือ ความสามารถในการทำอะไรก็ตาม อย่างมีประสิทธิผล (Knowledge is the capacity for effective actions

Best  Practice  กับองค์กรแห่งการเรียนรู้

            David  Garvin (อ้างถึงในบุญดี  บุญญากิจ และคณะ 2547 : 26) กล่าวว่า การจัดการความรู้เป็นเรื่องสำคัญที่ทำให้เกิดการเรียนรู้ และประยุกต์ใช้ความรู้ รวมทั้งแปลงความรู้ของคนไปเป็นความรู้ขององค์กร การจะเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้นั้น จะต้องมีทักษะใน 5 ด้าน  ได้แก่

                        1. การแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ

                        2. การทดลองศึกษาหาแนวทางใหม่ๆ

                        3. การเรียนรู้จากประสบการณ์ในอดีต

                        4. การเรียนรู้จากวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศของคนอื่น

                        5. การถ่ายทอดความรู้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพทั่วทั้งองค์กร

                        จะเห็นว่า Best  Practice  เป็นสิ่งที่มีความสำคัญ เพราะเป็น 1 ใน 5 ของทักษะในองค์กรแห่งการเรียนรู้

Best  Practice  กับการฝึกอบรมผู้บริหารสถานศึกษา

             ตามหลักสูตรการฝึกอบรมพัฒนาผู้บริหารสถานศึกษา ของสถาบันพัฒนาผู้บริหารการศึกษากำหนดให้ผู้เข้ารับการอบรมต้องฝึกปฏิบัติงานในสถานศึกษาต้นแบบ เพื่อศึกษา Best  Practice  ของสถานศึกษานั้น ว่ามีวิธีการบริหารงานอย่างไร  จึงประสบความสำเร็จ แล้วจัดทำเป็นเอกสารการสัมมนา เพื่อนำเสนอในห้องอบรม เป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน ทำให้ได้แนวทางปฏิบัติที่จะนำไปใช้บริหารโรงเรียนของตน ไม่ต้องบริหารแบบลองผิดลองถูก

            ผู้เขียนได้มีโอกาสไปศึกษาดูงาน เรื่อง National  Leadership ที่ประเทศนิวซีแลนด์ จากการพูดคุยกับผู้บริหารสถานศึกษาที่มีชื่อแห่งหนึ่ง คือ Rutherford  College  พบว่า ในการคัดเลือกบุคคล เพื่อแต่งตั้งให้เป็นผู้บริหารสถานศึกษาของนิวซีแลนด์ จะให้บุคคลนั้น นำเสนอ Best  Practice  ด้านการบริหารของตนเอง ให้คณะกรรมการใช้ประกอบการพิจารณาว่า มีคุณสมบัติเหมาะสมหรือไม่

Best  Practice  เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาไทย

            การจัดการความรู้เพื่อพัฒนาการเรียนการสอน ควรจะเริ่มต้นจากการค้นหา รวบรวม Best  Practice ด้านการสอนในกลุ่มสาระต่างๆ จากครูที่มีความเชี่ยวชาญ เช่น ครูแห่งชาติ ครูต้นแบบ ครูแกนนำหรือครูดีเด่นในวิชาต่างๆ เพื่อให้ครูเหล่านั้น ได้ถ่ายทอดความเชี่ยวชาญไปสู่ครูอื่นๆ  เพื่อเป็นเครือข่ายแตกสาขาออกไปคล้ายดาวกระจาย  โดยใช้ฐานความรู้และประสบการณ์ของครูที่ประสบความสำเร็จด้านการสอน เป็นแรงขับเคลื่อนในการพัฒนาครูให้ขยายออกไปอย่างกว้างขวาง

            ตัวอย่างเช่น การศึกษา เรื่อง Best  Practice  ของครู สังคม  ทองมี ซึ่งเป็นครูศิลปศึกษาที่ประสบความสำเร็จในการสอนวิชาศิลปศึกษา สามารถพัฒนาเด็กให้มีผลงานด้านศิลปะ ได้รับรางวัลการประกวดผลงานด้านศิลปะของเด็กในระดับนานาชาติ มากกว่า 3,000 รางวัล

ตัวอย่างหัวข้อเรื่องที่ควรทำ Best  Practice

            ในทัศนะของผู้เขียน หัวข้อเรื่องที่ควรทำ Best  Practice  เพื่อพัฒนาการศึกษา น่าจะเป็น ดังนี้

                        1. 10 วิธีการเรียนรู้ที่หนูชอบ

                        2. สอนอย่างไร ให้เด็กเก่ง

                        3. 108 วิธี ที่ไม่ต้องตีเด็ก

                                    ……….ฯลฯ……….

การเรียนรู้วิธีการทำงานแบบ Best  Practice  ในสถานศึกษา

            การทำงานแบบ Best  Practice  คือ วิธีการทำงานที่เกิดผลงานในลักษณะที่มีผลสัมฤทธิ์ทั้งในเชิงคุณภาพ และปริมาณ  ก่อให้เกิดความภาคภูมิใจ สถานศึกษาต้องหา Best  Practice  ด้านการเรียนการสอนของครูต้นแบบ แล้วนำมากำหนดเป็นมาตรฐานในการทำงานของครูในโรงเรียน จัดให้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างครูต้นแบบที่เป็น Best  Practice  กับครูผู้สอนคนอื่นๆ เพื่อพัฒนาให้ครูเหล่านั้น สามารถจัดการเรียนการสอนได้มาตรฐานตามที่กำหนดไว้

Best  Practice  กับการพัฒนาแบบก้าวกระโดด

            วิธีการที่ใช้พัฒนาองค์กรเพื่อเพิ่มผลผลิตอย่างต่อเนื่องมีหลายวิธี  แต่วิธีที่สามารถทำให้องค์กรพัฒนาแบบก้าวกระโดด (Leap Frog) สามารถย่นระยะเวลาในการปรับปรุงประสิทธิภาพขององค์กร มีอยู่ไม่กี่วิธี และวิธีการหนึ่งที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง คือ การศึกษาวิธีการปฏิบัติที่เป็นเลิศ หรือ Best  Practice ซึ่งเป็นการเรียนรู้จากประสบการณ์ของผู้ที่ประสบความสำเร็จหรือทำได้ดีกว่าเรา แล้วนำมาเป็นแนวทางในการพัฒนาให้ดีกว่าเดิม

            เช่นเดียวกับประเทศญี่ปุ่นหลังพ่ายแพ้สงครางโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นใช้นโยบายฟื้นฟูประเทศแบบก้าวกระโดด คือ เลียนแบบ เพื่อการเรียนรู้ และเรียนรู้เพื่อพัฒนาให้ดีกว่า หรือ ต้องก้าวให้ทัน แล้วแซง ญี่ปุ่นจึงเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วได้อย่างรวดเร็วทัดเทียมกับยุโรป และอเมริกา ทั้งที่เป็นประเทศแพ้สงคราม เพราะได้ศึกษา Best  Practice  ด้านอุตสาหกรรมของประเทศที่เจริญแล้วในยุโรป และอเมริกา ทำให้สินค้าอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นเป็นที่ยอมรับของทั่วโลก

Best  Practice  กับการจัดการความรู้ที่เป็น Tacit  Knowledge 

            การจัดการความรู้จะบรรลุเป้าหมายได้ ต้องทำให้ Best  Practice  ที่เป็น Tacit  Knowledge ซึ่งอยู่ในตัวคน ให้กลายเป็น Explicit  Knowledge หรือความรู้ที่ปรากฏให้เห็นชัดแจ้ง เช่น เอกสารรายงาน คู่มือการปฏิบัติงาน เพื่อให้ผู้อื่นได้นำไปใช้พัฒนางานแบบต่อยอดความรู้ และสามารถจัดเก็บ Best  Practice นั้น ไว้ในคลังความรู้ขององค์กร ไม่ให้ความรู้นั้นหายไปกับบุคคล เมื่อบุคคลนั้น ออกจากหน่วยงานแล้ว

            ประพนธ์  ผาสุขยืด (2547 : 48) ได้กล่าวว่า จากประสบการณ์ทำงานที่ผ่านมา มีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นมากมายภายในองค์กรของเรา มีสิ่งที่เรียกว่า Best  Practice เกิดขึ้นในองค์กร แต่คนในองค์กรเองกับไม่รู้ผล ก็คือ เวลาจะทำอะไร ก็ต้องเริ่มต้นกันใหม่หมดทั้งๆ ที่หลายเรื่องไม่จำเป็นต้องเริ่มจากศูนย์เสมอไป เพราะสามารถเรียนรู้ได้จากสิ่งที่มีอยู่แล้วภายในองค์กรของเรา ซึ่งอาจจะหมายถึงจากหน่วยงานข้างเคียงก็ได้

            ผู้บริหารต้องส่งเสริมให้มีการพัฒนา Best  Practice  ด้านการจัดการเรียนการสอน ให้ได้วิธีการที่ดีกว่าเดิมยิ่งๆ ขึ้นไป เป็นวงจรที่ก้าวหน้าอย่างไม่สิ้นสุด และนำ Best  Practice นั้น เขียนเป็นเอกสาร หรือเผยแพร่ใน Intranet  หรือ Website ของสถานศึกษา เพื่ออำนวยความสะดวกให้ครูได้ศึกษาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน จนเกิดเป็น CoP (Community of Practice) หรือชุมชนนักปฏิบัติ เพื่อให้การนำเสนอเรื่อง Best  Practice ในบทนี้ไม่ยาวเกินไป จึงขอยุติไว้เพียงเท่านี้ก่อน  และโปรดติดตามในบทต่อไป

 

--------------------------------

  

บรรณานุกรม
              บุญดี  บุญญากิจ และคณะ. การจัดการความรู้…จากทฤษฎีสู่การปฏิบัติ. กรุงเทพฯ : บริษัท จิรวัฒน์ เอ็กซ์เพรส จำกัด.2547.
              ประพนธ์  ผาสุขยืด. การจัดการความรู้ฉบับมือใหม่หัดขับ.กรุงเทพฯ : ใยไหม. 2547
              วนิช  บรรจง และคณะ.จิตวิทยาการศึกษา.กรุงเทพฯ : กรุงสยามการพิมพ์,2515
              วันทนา  เมืองจันทร์ และเต็มจิต จันทคา. บทความเรื่อง การจัดการความรู้ที่ฝังลึกในตัวคน. วารสารสถาบันพัฒนาผู้บริหารการศึกษา ปีที่ 22
                     ฉบับที่ 4  เมษายน, พฤษภาคม  2548
ที่มา
              
บูรชัย  ศิริมหาสาคร  สถาบันพัฒนาครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา จดหมายข่าว KM ปีที่ 1 
                     ฉบับที่ 7 ประจำวันที่ 24 พฤศจิกายน 2548

โพสต์โดยสมาชิกหมายเลข 1756 วันที่ 16 พ.ย. 2551


BEST PRACTICE กับ การตรัสร้ของพระพุทธเจ้าBESTPRACTICEกับการตรัสร้ของพระพุทธเจ้า

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

เอามาให้ดู...

เอามาให้ดู...


เปิดอ่าน 6,409 ครั้ง
เทียนไข..ความรัก

เทียนไข..ความรัก


เปิดอ่าน 6,411 ครั้ง
ส่งท้ายปีเก่า2552

ส่งท้ายปีเก่า2552


เปิดอ่าน 6,412 ครั้ง
ผมร่วง....ในผู้หญิง

ผมร่วง....ในผู้หญิง


เปิดอ่าน 6,421 ครั้ง
ผัก.....สยบภูมิแพ้

ผัก.....สยบภูมิแพ้


เปิดอ่าน 6,414 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

เผยแพร่ผลงานทางวิชาการ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ(ภาษาอังกฤษ)ชั้นประถมศึกษาปีที่  5

เผยแพร่ผลงานทางวิชาการ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ(ภาษาอังกฤษ)ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5

เปิดอ่าน 6,396 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
คัมภีร์เลือก แฟน ....สำหรับผู้หญิง
คัมภีร์เลือก แฟน ....สำหรับผู้หญิง
เปิดอ่าน 6,409 ☕ คลิกอ่านเลย

การตรวจสอบผล.....แห่งบุญ
การตรวจสอบผล.....แห่งบุญ
เปิดอ่าน 6,421 ☕ คลิกอ่านเลย

นิทานธรรมะ...ถ่มน้ำลายรดฟ้า....
นิทานธรรมะ...ถ่มน้ำลายรดฟ้า....
เปิดอ่าน 6,420 ☕ คลิกอ่านเลย

เปิดสูตรน้ำข้าวกล้องงอกขึ้นโต๊ะเสวย "ในหลวง"
เปิดสูตรน้ำข้าวกล้องงอกขึ้นโต๊ะเสวย "ในหลวง"
เปิดอ่าน 6,447 ☕ คลิกอ่านเลย

ที่สุดการเมืองไทย
ที่สุดการเมืองไทย
เปิดอ่าน 6,411 ☕ คลิกอ่านเลย

สาระดี ๆ มีประโยชน์  .....เห็นมา รีบว่าไป ..! ! !  ปลอดภัย ไว้ก่อน ครับ
สาระดี ๆ มีประโยชน์ .....เห็นมา รีบว่าไป ..! ! ! ปลอดภัย ไว้ก่อน ครับ
เปิดอ่าน 6,401 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

"ปฏิรูปการศึกษา" ทางรอด "วิกฤติเศรษฐกิจไทย"
"ปฏิรูปการศึกษา" ทางรอด "วิกฤติเศรษฐกิจไทย"
เปิดอ่าน 7,524 ครั้ง

"หอยนางรม" บำรุง "ตับ-ไต-สุขภาพ-เพศ"
"หอยนางรม" บำรุง "ตับ-ไต-สุขภาพ-เพศ"
เปิดอ่าน 29,453 ครั้ง

บัญชีเงินเดือนใหม่ 2 มกราคม 2552
บัญชีเงินเดือนใหม่ 2 มกราคม 2552
เปิดอ่าน 74,788 ครั้ง

เผยเด็กนร.หญิง ไม่ค่อยกินข้าวเช้า เตือนเสี่ยงกระทบสุขภาพ-การเรียน
เผยเด็กนร.หญิง ไม่ค่อยกินข้าวเช้า เตือนเสี่ยงกระทบสุขภาพ-การเรียน
เปิดอ่าน 13,437 ครั้ง

วัยไหนให้ดูทีวี
วัยไหนให้ดูทีวี
เปิดอ่าน 17,163 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ