ทางการจีนออกคำเตือนประชาชนระวังคลื่นความร้อนเมื่อวันพุธ เนื่องจากอุณหภูมิสูงขึ้นทางภาคเหนือและภาคกลางของประเทศ โดยบางพื้นที่สูงถึง 40 องศาเซลเซียส และมีฝนตกเล็กน้อย หลายเมืองรวมทั้งกรุงปักกิ่ง อุณหภูมิสูงถึง 40.6 องศาเซลเซียส
ทั้งนี้ คลื่นความร้อนซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์ ส่งผลให้โรงพยาบาลหลายแห่งเต็มไปด้วยผู้ป่วย ขณะที่ยอดขายเครื่องปรับอากาศพุ่งขึ้น และผู้ดูแลสวนสัตว์ยังต้องนำน้ำแข็งก้อนโต เพื่อให้ความเย็นแก่สัตว์ต่าง ๆ คลื่นความร้อนมีขึ้นหลังจากพายุฝนถล่มภาคใต้ของจีนเมื่อเดือน มิ.ย. ก่อให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่ม คร่าชีวิตผู้คนไม่ต่ำกว่า 266 ศพ
ส่วนที่นครนิวยอร์กของสหรัฐ อุณหภูมิพุ่งขึ้นเป็นประวัติ การณ์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น ท่ามกลางคลื่นความร้อนที่แผ่ปกคลุมทั่วภาคตะวันออกของสหรัฐแล้ว ส่งผลให้บริษัทพลังงานจำกัดการใช้ไฟฟ้า และทางการต้องเปิดเครื่องปรับอากาศทำความเย็นตามโรงเรียน และสถานที่ต่าง ๆ
สำนักงานพยากรณ์อากาศแห่งชาติสหรัฐรายงานว่า ที่เซ็นทรัล ปาร์ก ในใจกลางย่านแมนฮัตตัน สามารถวัดอุณหภูมิได้ถึง 39.45 องศาเซลเซียส หรือ 103 องศาฟาเรนไฮต์ ทำลายสถิติเดิมเมื่อวันที่ 6 ก.ค. 2542 ซึ่งอยู่ที่ 101 องศาฟาเรนไฮต์ คลื่นความร้อนดังกล่าว ยังปกคลุมทั้งกรุงวอชิงตัน ดีซี, รัฐเวอร์จิเนีย และรัฐเพนซิลเวเนีย ตลอดจนเมืองมอนทรีออลในแคนาดา ทำให้ทางการออกมาเตือนประชาชนให้ระวังเจ็บป่วยจากคลื่นความร้อนและความชื้นสูง ที่อาจเป็นอันตรายต่อเด็กและคนแก่ และให้ดื่มน้ำมาก ๆ ตลอดจนหลีกเลี่ยงอยู่กลางแจ้ง.
ขอบคุณที่มาจาก หนังสือพิมพ์เดลินิวส์