ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมเรื่องราวจากสมาชิก  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

โรคฮิตที่มากับ...หน้าหนาว


เรื่องราวจากสมาชิก เปิดอ่าน : 6,399 ครั้ง
โรคฮิตที่มากับ...หน้าหนาว

Advertisement

โรคฮิตที่มากับหน้าหนาว !!

เมื่อย่างเข้าสู่หน้าหนาว แม้ว่าอากาศบ้านเราจะไม่หนาวเย็นมากนัก แต่คุณก็ควรใส่ใจในสุขภาพของตัวเองและสมาชิกคนอื่นๆ ในครอบครัวให้มากขึ้น โดยเฉพาะเจ้าตัวน้อยที่ร่างกายยังบอบบางและมีภูมิต้านทานโรคไม่มากเท่าผู้ใหญ่เพราะในช่วงนี้ถือเป็นช่วงเวลาทองของบรรดาเชื้อไวรัสทั้งหลายที่เจริญเติบโตได้ดีในอากาศเย็น เป็นเหตุให้สมาชิกในครอบครัวเกิดการเจ็บป่วยได้บ่อยๆ ส่วนจะเจ็บป่วยด้วยโรคอะไรบ้างนั้น เราไปติดตามพร้อมๆ กันเลยค่ะ
นายแพทย์เสน่ห์ เจียสกุล ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ ผู้เชี่ยวชาญโรคฮิตติดเชื้อในเด็ก ได้ให้ความรู้ว่า ในช่วงหน้าหนาวความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้อย่างเด่นชัดก็คือ อุณหภูมิที่ลดต่ำลงและความชื้นลดลงทำให้อากาศรอบตัวแห้งกว่าปกติ ซึ่ง 2 ประเด็นนี้มีความเกี่ยวข้องกับโรคบางชนิดในเด็กเล็ก คือ
ไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่
ไข้หวัดเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสศูนย์กลางของโรคอยู่บริเวณเยื่อบุจมูก ฉะนั้นช่องทางการแพร่กระจายของเชื้อจึงมาจากการจามและการสั่งน้ำมูกส่วนเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดเชื่อไข้หวัดใหญ่นั้น เชื้อจะอยู่บริเวณเยื่อบุของระบบทางเดินหายใจ การแพร่กระจายของเชื้อจึงมาจากการไอเป็นหลัก สำหรับเด็กเล็กๆ โอกาสที่จะเป็นหวัดบ่อยแค่ไหนนั้นขึ้นอยู่กับการได้รับเชื้อไวรัสจากบุคคลอื่น มีปัจจัยสำคัญ เช่น จำนวนสมาชิกในบ้าน จำนวนพี่ๆ ที่โรงเรียน และความสะอาดภายในบ้าน เพราะเด็กเล็กจะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในบ้าน การติดเชื้อจึงมาจากสมาชิกในบ้านเป็นหลัก ซึ่งนำเชื้อมาให้ทั้งทางตรงและทางอ้อม ทางตรงก็ คือ การสั่งน้ำมูก การจามรดเด็กคลุกคลีอยู่กับเด็กในช่วงที่ตัวเองเป็นหวัด ส่วนทางอ้อมก็คือ เมื่อคนที่เป็นหวัดใช้มือหรือกระดาษปิดปากขณะไอหรือจามแล้วไม่ล้างมือ จากนั้นก็ใช้มือหยิบจับ สัมผัสสิ่งต่างๆ ทำให้เชื้อไวรัสที่ติดอยู่ที่มือแพร่กระจาย เมื่อเจ้าตัวเล็กไปหยิบหรือสัมผัสสิ่งนั้นๆ แล้วใช้มือถูหน้าถูตาหรือหยิบอาหารเข้าปากก็ทำให้เชื้อไวรัสเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งเด็กมักไม่มีภูมิต้านทานจึงทำให้ป่วยเป็นไข้หวัดในที่สุด หรืออีกกรณีหนึ่งคือ บ้านที่พี่ๆ เข้าโรงเรียนกันหมดแล้วเมื่อพี่ได้รับเชื้อมาจากโรงเรียน ก็สามารถนำมาแพร่ให้กับน้องเล็กที่อยู่บ้านได้เช่นกัน นอกจากนี้ผลพวงจากการที่เด็กเป็นไข้หวัด หากเด็กมีอาการเกี่ยวกับโรคภูมิแพ้หรือโรคหอบหืดอยู่แล้ว ก็จะทำให้อาการกำเริบได้บ่อยขึ้นในช่วงนี้ด้วย
อาการและการดูแลรักษา
สำหรับอาการโดยทั่วไปของไข้หวัดก็คือ มีไข้ คัดจมูก น้ำมูกไหล ไอ จาม ซึ่งเวลาที่มีไข้ ร่างกายจะสูญเสียน้ำมากกว่าปกติ จึงควรให้เด็กได้ดื่มน้ำมากกว่าปกติ จึงควรให้เด็กได้ดื่มน้ำอย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ เด็กที่มีไขมันต่ำไม่เกิน 38 องศาเซลเซียส ไม่ควรให้ยาลดไข้ นอกจากคุณหมอแนะนำ แต่คุณแม่ควรเช็ดตัวเพื่อช่วยลดไข้ให้ลูกโดยใช้น้ำอุ่น อาจใช้ฟองน้ำหรือผ้าเนื้อนุ่มๆ เช็ดตัวให้ลูก โดยเฉพาะบริเวณซอกคอ รักแร้ ขาหนีบ และวัดอุณหภูมิเป็นระยะจนกว่าไข้จะลดและควรเลือกเสื้อผ้าที่สวมใส่สบายระบายอากาศได้ดีให้กับลูก ถ้ามีลูกไข้ตั้งแต่ 38 องศาเซลเซียสขึ้นไปก่อนให้ยาลดไข้กับลูกควรปรึกษาคุณหมอก่อนเสมอเพื่อความปลอดภัยและหากให้ยาแล้วไข้ยังไม่ลด ควรพาลูกไปพบคุณหมอเพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง
การป้องกัน
สำหรับเด็กเล็ก วิธีป้องกันที่ดีที่สุดก็คือ สมาชิกในบ้านก็หมั่นดูแลรักษาความสะอาดร่างกายอยู่เสมอ โดยเฉพาะมือ ซึ่งเป็นอวัยวะหลักที่สัมผัสเชื้อนอกจากนี้ควรทำความสะอาดของเล่นและสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ รวมทั้งบริเวณภายในบ้านให้สะอาดอยู่เสมอ เวลาเป็นหวัดก็ไม่ควรเข้าใกล้ คลุกคลีกับลูกมากนักเวลาไอ หรือ จาม ก็ควรปิดปากและล้างมือให้สะอาดทุกครั้ง และไม่ควรพาลูกออกไปนอกบ้าน ในที่ๆ มีคนอยู่จำนวนมากบ่อยๆ ในช่วงหน้าหนาว เพราะเป็นช่วงที่เชื้อไวรัสมีการแพร่กระจายและเจริญเติบโตได้ดี ซึ่งจะเพิ่มโอกาสในการติดเชื้อให้ลูกได้ นอกจากนี้ควรดูแลสุขภาพร่างกายของลูกให้แข็งแรงอยู่เสมอด้วย เมื่อเข้าสู่หน้าหนาวคุณควรพาลูกไปพบคุณหมอแต่เนิ่นๆ เพื่อจะได้เตรียมยารักษาเอาไว้ให้พร้อม หากลูกมีอาการจะได้ใช้ยารักษาบรรเทาอาการไว้ก่อนได้ทันที ก่อนพาไปพบคุณหมอ
ท้องร่วง
ในช่วงหน้าหนาวจะมีเชื้อโรคไวรัสบางชนิดที่ก่อให้เกิดโรคท้องร่วงในเด็กเล็กได้บ่อย ที่พบมาก ได้แก่โรตาไวรัส ที่ก่อให้เกิดโรคอุจจาระร่วงอย่างรุนแรง พบในอุจจาระของผู้ป่วยและสิ่งแวดล้อมโดยทั่วไปได้เชื้อชนิดนี้มีความทนทานเป็นพิเศษ ยาฆ่าเชื้อที่ใช้กันโดยทั่วไปไม่สามารถกำจัดเชื้อชนิดนี้ได้ ยิ่งในช่วงหน้าหนาวที่เชื้อมีมากขึ้น และแม้ว่าจะได้รับเชื้อในปริมาณไม่มากก็สามารถก่อให้เกิดโรคได้ โรคท้องร่วมจากเชื้อโรตาไวรัสมักจะพบในเด็กเล็กเป็นส่วนใหญ่โดยเฉพาะในช่วงอายุตั้งแต่ 3 เดือน-2 ปี ซึ่งการสูญเสียน้ำจากท้องร่วงที่มีสาเหตุจากเชื้อโรตาไวรัสจะมีความรุนแรงค่อนข้างมาก และอาจทำให้เด็กเสียชีวิตได้ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องและทันเวลาจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องหาทางปกป้องลูกให้ห่างไกลจากโรตาไวรัส
อาการและการดูแลรักษา
เด็กที่ได้รับเชื้อจะมีไข้ อาเจียน ถ่ายเหลว ซึ่งความรุนแรงของอาการจะขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายและเชื้อที่ได้รับเข้าไป สำหรับเด็กที่มีอาการรุนแรงจะถ่ายมาก ทำให้เสียน้ำและเกลือแร่ในร่างกายไปเป็นจำนวนมาก ฉะนั้น นอนจากให้ลูกดื่มน้ำให้มากเพื่อชดเชยน้ำที่เสียไปแล้ว ต้องให้น้ำตาลเกลือแร่เพื่อชดเชยเกลือแร่ที่เสียไปด้วย หากอาการของลูกไม่ดีขึ้น ควรพาไปพบแพทย์ทันที
การป้องกัน
การติดเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดอาการท้องร่วงในเด็กนั้น ช่องทางการติดเชื้อคือทางปาก ฉะนั้นถ้าคุณหมั่นดูแลรักษาความสะอาดของอาหารและสิ่งแวดล้อม ล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอ รวมทั้งคอยดูแลไม่ให้ลูกหยิบขิงเข้าปากไม่เลือก ก็จะช่วยลดความเสี่ยงในการรับเชื้อลงได้ วิธีดังกล่าวสามารถใช้ได้กับเด็กเล็กที่ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่บ้าน แต่สำหรับเด็กที่ต้องไปอยู่เนอร์สเซอรี่ตั้งแต่อายุยังน้อย ความเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อก็มีสูง เนื่องจากการอยู่รวมกันหมู่มากและไม่ได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง โอกาสที่จะได้รับเชื้อก็มีมากตามไปด้วย วิธีป้องกันที่ได้ผลดีที่สุดคือการฉีดวัคซีน ซึ่งวัคซีนที่ใช้ในปัจจุบันจะใช้ในเด็กอายุต่ำกว่า 6 เดือน โดยฉีด 2 ครั้ง ครั้งแรกหลังคลอด 6 สัปดาห์ครั้งที่ 2 ฉีดภายใน 6 เดือน
ผิวแห้ง
เมื่ออุณหภูมิและความชุ่มชื้นลดลงทำให้อากาศแห้ง ซึ่งทำให้ผิวหนังแห้งตามไปด้วย ส่วนจะแห้งมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ และสภาพร่างกายของเด็กแต่ละคน เด็กที่มีผิวแห้งอยู่แล้ว เมื่อถึงหน้าหนาวแน่นอนว่าผิว จะยิ่งแห้งมากกว่าเด็กคนอื่น หรือเด็กบางคนที่เป็นภูมิแพ้ที่ผิวหนังอยู่แล้ว ก็อาจจะทำให้อาการของโรคเพิ่มมากขึ้นได้ในช่วงนี้
การป้องกัน
ในช่วงอากาศที่หนาวเย็น คุณไม่จำเป็นต้องอาบน้ำให้ลูกบ่อย เพราะการอาบน้ำบ่อยจะทำให้ความชุ่มชื้นของผิวลดลง และไม่ควรใช้น้ำอุ่นจัดอาบให้ลูก เพราะยิ่งมีอุณหภูมิสูงก็ยิ่งทำให้ผิวแห้งมากขึ้น สบู่ที่ใช้ก็ควรเลือกสบู่สูตรอ่อนโยนสำหรับเด็กโดยเฉพาะ หลังอาบน้ำควรทาโลชั่นช่วยเพิ่มและกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิว โลชั่นที่ใช้ควรมีการทดสอบอาการแพ้ก่อนโดยทดลองทาที่ท้องแขนของลูกสัก 1-2 วัน หากไม่มีอาการใดๆ จึงสามารถใช้ได้ นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงเสื้อผ้าใยสังเคราะห์หรือผ้าขนสัตว์ เพราะจะทำให้ระคายผิวหนัง สำหรับเด็กที่เป็นภูมิแพ้ที่ผิวหนัง ในช่วงนี้อาการจะกำเริบได้ง่าย นอกจากต้องดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ ควรเตรียมยารักษาเอาไว้ให้พร้อมด้วย
นอกจากการดูแลผิวภายนอกแล้ว ควรดูแลให้ลูกดื่มน้ำอย่างเพียงพอเพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวได้อีกทางหนึ่งและยังเป็นการชดเชยน้ำที่เสียไปเนื่องจากปัสสาวะบ่อยด้วยค่ะ
การเจ็บไข้ได้ป่วย สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ไม่ว่าฤดูไหน ซึ่งแต่ละฤดูก็จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างชนิดกันไป ฉะนั้นคุณควรศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับโรคที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาต่างๆ รวมทั้งโรคระบาดที่เกิดขึ้นเป็นครั้งคราวด้วย เพื่อจะได้หาทางป้องกัน และดูแลรักษาได้อย่างถูกวิธีค่ะ




ที่มา..นิตยสารบันทึกคุณแม่ No.160

โพสต์โดยสมาชิกหมายเลข 1712 วันที่ 8 พ.ย. 2551


โรคฮิตที่มากับ...หน้าหนาว

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

ขาวกับดำ (ดีมากๆครับ)

ขาวกับดำ (ดีมากๆครับ)


เปิดอ่าน 6,412 ครั้ง
รับสมัครครูอัตราจ้าง

รับสมัครครูอัตราจ้าง


เปิดอ่าน 6,419 ครั้ง
ยักษ์.....เคยครองโลก?

ยักษ์.....เคยครองโลก?


เปิดอ่าน 6,445 ครั้ง
30 ข้อความ ชวนอมยิ้ม !!!

30 ข้อความ ชวนอมยิ้ม !!!


เปิดอ่าน 6,407 ครั้ง
ชมโฆษณาก่อนนะ...

ชมโฆษณาก่อนนะ...


เปิดอ่าน 6,426 ครั้ง
วันสำคัญเดือนตุลาคม

วันสำคัญเดือนตุลาคม


เปิดอ่าน 6,402 ครั้ง
พลอยถูกโฉลก ...กับคุณ

พลอยถูกโฉลก ...กับคุณ


เปิดอ่าน 6,404 ครั้ง
10 สุดยอด......ผีดุจากทั่วโลก

10 สุดยอด......ผีดุจากทั่วโลก


เปิดอ่าน 6,593 ครั้ง
ประตูวิเศษ

ประตูวิเศษ


เปิดอ่าน 6,410 ครั้ง
*การหุงข้าวสูตรโบราณ*

*การหุงข้าวสูตรโบราณ*


เปิดอ่าน 6,451 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

โมโซไทย[คำไม่พึงประสงค์]ทคอม

โมโซไทย[คำไม่พึงประสงค์]ทคอม

เปิดอ่าน 6,412 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
ความรู้สึกตัว
ความรู้สึกตัว
เปิดอ่าน 6,402 ☕ คลิกอ่านเลย

The Twelve Days of Christmas นำไปสอนได้
The Twelve Days of Christmas นำไปสอนได้
เปิดอ่าน 6,409 ☕ คลิกอ่านเลย

ผลงานวิชาการเผยแพร่
ผลงานวิชาการเผยแพร่
เปิดอ่าน 6,405 ☕ คลิกอ่านเลย

เพื่อนที่คุณคบ....เป็นแบบไหนเอ่ย
เพื่อนที่คุณคบ....เป็นแบบไหนเอ่ย
เปิดอ่าน 6,399 ☕ คลิกอ่านเลย

ลบรอยตีนกา...ด้วยตัวเอง..คุณทำได้>>>>>>
ลบรอยตีนกา...ด้วยตัวเอง..คุณทำได้>>>>>>
เปิดอ่าน 6,402 ☕ คลิกอ่านเลย

โปรโมทเว็บฟรี ลงโฆษณาเว็บฟรี โปรโมทสินค้าและบริการ Dofollow 100 %
โปรโมทเว็บฟรี ลงโฆษณาเว็บฟรี โปรโมทสินค้าและบริการ Dofollow 100 %
เปิดอ่าน 6,438 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

"ทองหลาง" ไม้ตระกูลถั่วที่สำคัญกับดิน
"ทองหลาง" ไม้ตระกูลถั่วที่สำคัญกับดิน
เปิดอ่าน 14,735 ครั้ง

อัตราเบี้ยเลี้ยงเดินทางในราชอาณาจักร ในลักษณะเหมาจ่าย
อัตราเบี้ยเลี้ยงเดินทางในราชอาณาจักร ในลักษณะเหมาจ่าย
เปิดอ่าน 21,472 ครั้ง

ความเหลื่อมล้ำและระบบอุปถัมภ์ในการศึกษาไทย - มติชน วีกเอ็นด์ 15 พ.ค. 59
ความเหลื่อมล้ำและระบบอุปถัมภ์ในการศึกษาไทย - มติชน วีกเอ็นด์ 15 พ.ค. 59
เปิดอ่าน 14,847 ครั้ง

รายงานประจำปี 2558 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
รายงานประจำปี 2558 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
เปิดอ่าน 15,128 ครั้ง

วิธีสร้างความสุขแบบสาวโสด
วิธีสร้างความสุขแบบสาวโสด
เปิดอ่าน 9,585 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ