เมืองไทยเดี๋ยวนี้ บอกไม่ถูกฤดูไหนร้อน ฤดูไหนหนาว ดูไปดูมาร้อนทั้งปียิ่งมีคุณเอลนิโญมาเยี่ยมเยียน ยิ่งเดาไม่ถูกว่าวันไหน จะร้อนจะหนาวจะฝนตก ส่วนหน้าร้อนจริง ๆ ก็คงไม่ต้องพูดถึง จะยิ่งร้อนมากยิ่งขึ้นทุกปี ตราบใดที่หยุดยั้งคนมือคันตะบันตัดไม้ทำลายป่าไม่ได้ ก็ต้องผจญกับความร้อนเป็นบ้าต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง แล้วทุกหน้าร้อน คุณแม่ทั้งหลายก็เป็นอันไม่ต้องทำงานทำการ เพราะปัญหาผดผื่น เชื้อรา ทั้งยังเชื้อแบคทีเรีย (เจ้าตัวร้าย) ที่คอยบุกโจมตีผิวเจ้าตัวน้อยชนิดเผลอเป็นไม่ได้
เมื่อถูกผดผื่นเล่นงานถ้าเป็นเจ้าตัวน้อย ๆ อายุไม่กี่เดือนที่ได้รับการทะนุถนอมจากคุณย่าคุณยายกลัวหลานจะโดนลม จับห่อตัว หรือใส่เสื้อผ้าเต็มที่เวลานอน ปัญหาที่พบบ่อยคือ ผดผื่น เด็กทารกตัวน้อย ๆ จะขี้ร้อนกว่าผู้ใหญ่หรือเด็กโต เพราะต่อมเหงื่อยังทำงานไม่สมบูรณ์ การขับเหงื่อออกมาจึงยังทำได้ไม่เต็มที่นักผดเกิดจากท่อเหงื่อเกิดการอุดตัน ทำให้ผิวหนังส่วนนั้นเกิดการอักเสบเป็นผื่นผดขึ้น มีลักษณะเป็นตุ่มแดงๆ ขนาดเล็ก และมีน้ำใส ๆ (เหงื่อ) อยู่ตรงกลาง ทำให้เกิดตุ่มหนองเล็ก ๆ ซึ่งอาจลุกลามกลายเป็นฝีได้
วิธีแก้ไขคือ อย่าห่อหุ้มตัวลูกน้อยมาก ใส่เสื้อผ้าเนื้อบาง ๆ อาบน้ำให้บ่อย ๆ อยู่ในที่ ๆ มีลมโกรก อากาศถ่ายเทสะดวก ไม่ร้อนอบอ้าว ใช้แป้งเด็กทาตัวหรือถ้าเด็กมีอาการคัน อาจใช้แป้งน้ำคาลาไมน์ทาจะช่วยลดอาการคันได้ค่ะ ผิวหนังติดเชื้อแบคทีเรียก็พบได้บ่อยในหน้าร้อน เพราะเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เป็นหนองมีมากในหน้าร้อน ถ้าเด็กอ่อนเดือนมาก มักจะเป็นตุ่มน้ำพองใสตามบริเวณที่อบเหงื่อ เช่น ซอกคอ รักแร้ ขาหนีบ ตุ่มน้ำจะแตกง่าย เป็นรอยแดงๆ ตรงนี้ต้องระวังและสังเกตสักหน่อย เพราะเห็นว่าเป็นตุ่มใสไม่มีหนอง เลยไม่คิดว่า ติดเชื้อ ถ้าไม่แน่ใจพาไปให้คุณหมอดูดีกว่าค่ะ เพราะถ้าทิ้งไว้อาจเป็นอันตรายได้
ฉะนั้นในหน้าร้อน คุณแม่ต้องรักษาความสะอาดของผิวหนังลูกให้ดี เพื่อลดการติดเชื้อ บางครั้งอาจต้องใช้สบู่เหลวที่มีฤทธิ์เป็นกรดอ่อน ๆ เพื่อช่วยลดเชื้อที่ผิวหนังลงบ้างเชื้อราเล่นงานลูกการติดเชื้อในเด็กเล็กหรือเด็กโตอีกชนิด คือ เชื้อรา ซึ่งมักจะเป็นตามบริเวณที่อับชื้น เช่น ซอกคอ รักแร้ ขาหนีบ จะเป็นผื่นแดงตามรอยเสียดสีก่อน ต่อมาผื่นจะมีขอบเขตชัดเจน และมีผื่นเล็ก ๆ กระจายออกไปรอบ ๆ
การดูแลรักษา ก็คือทำความสะอาด อย่าให้บริเวณนั้นอับชื้น โดยเฉพาะบริเวณขาหนีบ ก้น ซึ่งมักจะหมักหมมอยู่ในผ้าอ้อมที่ซับซึมได้นาน เพราะคุณแม่บางคนไม่ค่อยได้เปลี่ยนผ้าอ้อมให้หลังถ่ายแล้ว ทำให้เกิดผื่นแพ้ผ้าอ้อมก่อนก็ได้ แล้วมีการ
ติดเชื้อราแทรกซ้อนตามมาหากเป็นเช่นนี้ ควรเลิกใช้ผ้าอ้อมสำเร็จรูปหรือผ้าอ้อมหนา ๆ ชั่วคราว จนกว่าจะได้ใช้ยาทาผื่นสำหรับเชื้อราทาให้หายเสียก่อน ความจริงหมอก็ไม่อยากแนะนำให้ใช้ผ้าอ้อมหนาๆ เพราะมักดูดซึมความชื้นได้ไม่ดี ควรใช้ผ้าอ้อมแบบธรรมดา เปียกเมื่อไรก็เปลี่ยนทันที และเปลือยก้นลูกให้ถูกลมบ้าง โอกาสที่จะเกิดผื่นผ้าอ้อม และติดเชื้อราก็จะมีน้อยลง
ผื่นภูมิแพ้ก็มาในหน้าร้อน
ผื่นอีกชนิดที่อาจพบบ่อยในหน้าร้อนคือ ผื่นภูมิแพ้ ซึ่งมักจะเป็นโรคที่มีการถ่ายทอดทางพันธุกรรม โดยคุณพ่อคุณแม่ คุณปู่คุณย่า หรือคุณตาคุณยาย อาจเป็นโรคในกลุ่มนี้ เช่น โรคหอบหืด โรคแพ้อากาศ หรือผื่นภูมิแพ้ก็ได้ ผื่นภูมิแพ้นี้จะมีอาการมากขึ้นในหน้าร้อน โดยการถูกระคายเคืองจากเหงื่อ เพราะผิวของเด็กที่เป็นโรคนี้จะไวต่อสิ่งกระตุ้นมากกว่าเด็กปกติมาก ถ้าเป็นเจ้าตัวน้อยอ่อนเดือน ผื่นมักจะเป็นมากที่แก้ม ใบหน้า และตามแขนขาด้านนอกที่สัมผัสกับที่นอน โดยเฉพาะเวลาที่มี
เหงื่อออกมากในหน้าร้อน ลูกจะคันมาก ร้องกวน หรือถ้าลูกเกาได้แล้วก็จะเกาจนเลือดไหลได้ ถ้าเป็นในเด็กโต ก็มักจะเป็นผื่นบริเวณข้อพับ แขนขา ซอกคอ ที่มีเหงื่อออกมาก
วิธีป้องกันคือ ระวังอย่าให้เหงื่อออกมาก อาบน้ำให้บ่อยๆ แต่ไม่ควรใช้สบู่ฟอกบ่อย เพราะจะทำให้ผิวแห้ง ผิวหนังจะอักเสบและคันมากขึ้นได้ควรตัดเล็บลูกให้สั้น เพื่อไม่ให้ลูกเกา เพราะจะยิ่งทำให้ผื่นกำเริบ ผ้าปูที่นอน เสื้อผ้า ควรซักผงซักฟอกออกให้หมด เพราะถ้าตกค้างอยู่ เมื่อโดนกับเหงื่อจะทำให้ผิวหนังเห่อมากขึ้นจากการระคายเคืองต่อผงซักฟอก หากเป็นมาก ควรพาลูกน้อยไปพบแพทย์ เพื่อให้ยาทาลดการอักเสบของผิวหนัง และอาจต้องให้ยากินเพื่อลดอาการคันด้วย
เห็นมั้ยคะ นอกจากจะร้อนตับแตกแล้ว อากาศหน้าร้อนยังนำเชื้อต่างๆ มาแผ้วพาลผิวลูกอีก แต่ก็ไม่ต้องกลัวค่ะ หมั่นดูแลรักษาความสะอาดให้ผิวลูก ผดผื่นหน้าร้อนก็ทนเป็นแขกไม่ได้รับเชิญอยู่ได้ไม่นานหรอกค่ะ
ก่อนไปโต้คลื่น..อย่าลืม
หน้าร้อน คุณแม่ส่วนใหญ่จะพาลูกน้อยไปตากอากาศชายทะเล จึงมักจะมาถามหมอเสมอว่า ควรเตรียมอะไรไปบ้าง ไปทะเลก็คงต้องเตรียม..
เรื่องยาแก้แพ้ อาจจะโดนแมลงที่ทะเล เช่น ตัวบึ้งกัด ทำให้เป็นตุ่มนูนแดงบวมได้ หรือเด็กโตอาจเล่นน้ำแล้วโดนแมงกะพรุนไฟ ถ้าเจอแบบนี้ต้องรีบล้างทำความสะอาด เก็บผักบุ้งทะเลบริเวณนั้น เอามาบดแล้วทาบริเวณที่โดนแมงกระพรุน จะช่วยลดอาการได้ จะให้ดีควรเตรียมแอมโมเนียไปด้วยดีกว่า เพราะใช้ล้างแผลและช่วยลดพิษของแมงกะพรุนได้ดี จากนั้นคอยทาด้วยครีมคอิร์ติโคสเตอรอยด์แก้ผื่นแพ้ต่อ ก็จะช่วยลดอาการผื่นแพ้จากแมงกะพรุนลงได้
สิ่งสำคัญอีกอย่าง คือคุณพ่อแม่ต้องทราบก่อนว่า ลูกน้อยแพ้อาหารทะเลหรือไม่ เพราะอาจเกิดลมพิษจากการแพ้อาหารทะเล บางรายอาจแพ้มากจนหน้าตาบวม ปากบวม มีผื่นลมพิษหนาๆ ตามตัวถ้าเป็นเช่นนี้ ต้องรีบพาไปพบแพทย์ที่ใกล้ที่สุด เพื่อฉีดยาแก้แพ้ให้ทันท่วงที เพราะอาจทำให้เกิดอาการหายใจขัด หายใจไม่ออกจากการบวมของหลอดลมหรือกล่องเสียงอุดตันทางเดินหายใจได้
ขอบคุณข้อมูลจาก :: http://www.momypedia.com/