สังคมของคนกับหมาใน
คำว่า “คน” เป็นสิ่งที่น่ากลัวมาก แค่เพียงเห็นหน้าดูบุคลิกลักษณะแล้วสรุปว่าคนนั้นเป็นแบบนั้นคนนี้เป็นแบบนี้ไม่ได้ ต้องศึกษาค้นคว้ากันเป็นเรื่องเป็นราว ใช้เวลาในการศึกษา บางครั้งอาจต้องใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์เข้ามาช่วยอีกต่างหาก ถึงจะรู้นิสัยใจคอของคน คนนั้น บางครั้งสิ่งที่ถูกต้องไม่อาจเป็นสิ่งที่ทำให้คนเลือกทำได้ ถ้ามีตัวเลือกเรื่อง ผลประโยชน์ของตัวเองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
การให้เกียรติกัน การช่วยกันรักษาผลประโยชน์ที่ถูกต้องของเพื่อนพ้อง การเห็นใจซึ่งกันและกัน การที่จะทำให้สังคมมันสมบูรณ์ขึ้น การรับฟังเหตุและผลของคนอื่น หาไม่ได้อีกแล้วหากการกระทำนั้นอาจนำมาซึ่งทำให้ตัวเองต้องเสียผลประโยชน์ไม่ว่ามากหรือน้อย “หากเอ็งไม่เป็นเหมือนพวกฉัน เอ็งก็จะไม่มีวันได้เสพสุขเหมือนพวกฉันหรอก”
วันก่อนข้าพเจ้าได้ดูรายการโทรทัศน์ชื่อ “สำรวจโลกกับเนชั่นแนลจีโอกราฟฟิก” วันนั้นเป็นเรื่อง สังคมของหมาใน ตอนหนึ่งเขาบอกว่าสังคมของหมาในจะอยู่กันเป็นกลุ่มใหญ่ๆ เวลามันออกล่าอาหารมันก็จะไปกันเป็นกลุ่มนั่นแหละ และเหยื่อของมันส่วนใหญ่จะไม่เคยรอดพ้นคมเขี้ยวของพวกมันไปได้สักครั้ง เพราะพวกมันจะช่วยกันไล่ ช่วยกันต้อน ช่วยกันจับ ช่วยกันกัด จนเหยื่อสิ้นฤทธิ์ แล้วพวกมันก็จะกินเหยื่อนั้น ระหว่างกินพวกมันก็แย่งกันบ้าง ตามนิสัยของสัตว์ ที่สำคัญ สิงห์โต ซึ่งถือว่าเป็นเจ้าป่าไม่มีสัตว์ป่าหน้าไหนกล้าต่อกรด้วย พยายามเข้ามาแย่งอาหารของพวกมัน แต่พวกมันไม่กลัว ช่วยกันไล่สู้ จนในที่สุดสิงห์โตที่ยิ่งใหญ่ต้องถอยหนี จากตรงนี้จะเห็นได้ว่า ความสมัครสมาน สามัคคี นั้นจะเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ที่จะนำความสำเร็จมาให้
ย้อนกลับมาดูสังคมของคน ที่สังคมของคนมันอ่อนแอ เนื่องจากไม่สามารถรวมกันได้ เพราะต่างคนต่างเห็นประโยชน์ส่วนตนเป็นที่ตั้ง ไม่ให้เกียรติซึ่งกันและกัน ตราบใดที่ยังมีสิ่งนี้อยู่ไม่มีวันที่สังคมมันจะแข็งแกร่งได้ แล้วคุณไม่อายหมาในบ้างหรือ
และอย่าลืมว่า “หากคุณรู้หรือเห็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง แล้วคุณละเลยต่อการกระทำนั้น ก็เท่ากับว่าคุณร่วมกระทำการนั้นด้วย”
krupas