ชื่อเรื่อง รายงานผลการใช้แบบฝึกทักษะลูกเสือสามัญแบบร่วมมือกันเรียนรู้
เรื่อง เงื่อนเชือก ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนหนองโพนวิทยายน
ชื่อผู้รายงาน นายประวิช สินธุศิริ
โรงเรียน หนองโพนวิทยายน
ปีที่พิมพ์ 2550
บทคัดย่อ
การจัดการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะลูกเสือแบบร่วมมือกันเรียนรู้ เป็นการพัฒนานักเรียน
ในด้านวิชาการ เป็นการจัดการเรียนการสอนที่เน้นนักเรียนเป็นสำคัญ รวมทั้งเป็นการเสริมทักษะ
สังคมให้กับนักเรียน โดยให้นักเรียนในแต่ละกลุ่มย่อยลงมือปฏิบัติกิจกรรมตามแบบฝึกทักษะ
ร่วมกันจนประสบผลสำเร็จตามจุดมุ่งหมายของการเรียนทุกคน ซึ่งมีความสอดคล้องกับการแบ่ง
หมู่ของกิจกรรมลูกเสือสามัญ การรายงานในครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1)ศึกษาการใช้แบบฝึกทักษะ
ลูกเสือสามัญแบบร่วมมือกันเรียนรู้ เรื่อง เงื่อนเชือก ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีประสิทธิภาพ
ตามเกณฑ์80/80 2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะลูกเสือสามัญแบบร่วมมือกัน
เรียนรู้ เรื่อง เงื่อนเชือก ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของ
นักเรียนที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะลูกเสือสามัญแบบร่วมมือกันเรียนรู้ก่อนเรียนและหลังเรียน
4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของลูกเสือสามัญ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อการจัดกิจกรรมโดยใช้
แบบฝึกทักษะลูกเสือแบบร่วมมือกันเรียนรู้ เรื่อง เงื่อนเชือก กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการรายงานเป็นลูกเสือ
สามัญ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2549 โรงเรียนหนองโพนวิทยายน อำเภอเมือง
กาฬสินธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากาฬสินธุ์ เขต 1 จำนวน 2 หมู่
เป็นลูกเสือสามัญ จำนวน 16 คน โดยการเลือกอย่างเจาะจง ( Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้
ในการรายงานครั้งนี้ประกอบด้วย แผนการจัดกิจกรรมลูกเสือสามัญโดยใช้แบบฝึกทักษะลูกเสือ
แบบร่วมมือกันเรียนรู้ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เรื่อง เงื่อนเชือก จำนวน 10 แผน แบบฝึกทักษะ
ลูกเสือสามัญแบบร่วมมือกันเรียนรู้ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เรื่อง เงื่อนเชือก จำนวน 10 เล่ม
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของลูกเสือสามัญ ชั้นประถมศึกษา
ปีที่ 6 เรื่องเงื่อนเชือก เป็นแบบทดสอบแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ และ
แบบสอบถามความพึงพอใจของลูกเสือสามัญ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อการจัดกิจกรรมลูกเสือ
โดยใช้แบบฝึกทักษะลูกเสือสามัญแบบร่วมมือกันเรียนรู้ เรื่อง เงื่อนเชือก เป็นแบบสอบถามชนิด
มาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) จำนวน 20 ข้อ
ผลการรายงานปรากฏดังนี้
1. ประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะลูกเสือแบบร่วมมือกันเรียนรู้ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
เรื่อง เงื่อนเชือก มีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 85.66/84.38
2. ดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะลูกเสือแบบร่วมมือกันเรียนรู้ ชั้นประถมศึกษา
ปีที่ 6 เรื่อง เงื่อนเชือก มีค่าเท่ากับ 0.691 แสดงว่าลูกเสือสามัญมีความก้าวหน้าทางการเรียนคิดเป็น
ร้อยละ 69.10
3. นักเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะลูกเสือแบบร่วมมือกันเรียนรู้ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
เรื่อง เงื่อนเชือก มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4. ความพึงพอใจของลูกเสือสามัญ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อการจัดกิจกรรมโดยใช้แบบฝึกทักษะลูกเสือ แบบร่วมมือกันเรียนรู้ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เรื่อง เงื่อนเชือก โดยรวมมีระดับ
ความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด
โดยสรุป การจัดกิจกรรมลูกเสือโดยใช้แบบฝึกทักษะลูกเสือสามัญแบบร่วมมือกันเรียนรู้
เรื่อง เงื่อนเชือก ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่พัฒนาขึ้นในครั้งนี้มีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้
สามารถนำมาใช้เป็นสื่อเพื่อแก้ปัญหาในการเรียนการสอนเกี่ยวกับทักษะการผูกเงื่อนเชือกได้และ
การเรียนแบบร่วมมือกันเรียนรู้เป็นเทคนิคที่เหมาะสมในการจัดกิจกรรมลูกเสือสามัญ ทำให้ผู้เรียน
เกิดการเรียนรู้ได้ดี การซักถามทำให้เกิดความกล้า และได้ทราบคำตอบในเรื่องที่ตนสนใจหรือไม่
กระจ่าง การอธิบายให้เพื่อนฟังจะทำให้ผู้อธิบายมีความแม่นยำในเรื่องที่เรียนมากขึ้น เพื่อน ๆที่ฟัง
เกิดความเข้าใจแจ่มแจ้ง ผู้เรียนได้พัฒนาการทำงานเป็นกลุ่มให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น คนอ่อนได้
เรียนรู้จากคนเก่งกว่าซึ่งมีความตั้งใจช่วยเหลือเพื่อน ๆเพื่อยกระดับผลงานของกลุ่มให้สูงขึ้นซึ่ง
ส่งผลต่อสมาชิกในกลุ่ม ดังนั้นครู ควรมีการพัฒนาแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึก
ทักษะประกอบการจัดกิจกรรมในกลุ่มสาระอื่น ๆเพื่อให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนสูงขึ้น
และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นต่อไป